กลับมาแว้ววววววววววว
หลบไปพักฟื้นมา นอนสบายแฮ่ หยุดยาววว
เล่าจากความประสบการณ์จริง โนว เฟค เหมือนเดิมจ้าาาาาา
วันที่ 1 พ.ค. นัดเสริมจมูกล่ะจ้าาาาาา
ไปถึงคลีนิค 7.20น.
อ.หมอ ก็มาดูจมูกอีกครั้ง ล่ะบอกว่าาาา
"เดว มีแผลในปากหน่อยนะ"
หะหะหะ ????
งง ชิมิ ล่าาาาาาาาาาาาาา
อ.หมอบอกว่า เดวจะเย็บปีกจมูกให้เล็กลง จะได้รับกะการเสริมจมูกมากขึ้น
โดยจะไม่มีแผลภายนอก เราจะเย็บซ่อนในปาก
ตอนแรกก็ม่ายกลัวนะ ไปแบบชิวๆ
พอบอกต้องเย็บในปาก เริ่มกลัว ล่ะ
เพราะ ปากเป็นเนื้อบางๆ ง่ะ ><
ถึงเวลา เปลี่ยนชุด ผ่าตัด ถอดทุกสิ่ง เน้นว่า ทุกสิ่งจริงๆ ค่ะ
แล้วใส่ชุดของคลีนิค ทำความสะอาดหน้า ทานยาแก้ปวด แล้วขึ้น เขียง เอ้ย เตียง
อ.หมอ "ขอเพลงหน่อย"
เพื่อ เรา และ ทุกๆคนจะได้ผ่อนคลายยยย สบายๆ
หมอเริ่มฉีด ยาชาค่ะ เจ็บ นะ แต่ อยู่ในระดับที่ทนได้ ค่ะ
พอ เริ่มชา อ.หมอ ก็เริ่มค่ะ
ติ๊กต้องหลับตา จึงไม่รู้ว่าทำอะไรยังไง
แต่ เคสติ๊ก นี้ กระดูกจมูกยื่นและเบี้ยว
จึงต้องไสกระดูกที่ยื่นออก ซึ่ง อ.หมอ อมรพงษ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกด้วย
ติ๊กเลยเบาใจค่ะ
ความแข็งของกระดูก หน้าที่แทบ โยกตามที่ไส
ได้ยินเสียงกระดูกเลยล่ะ
พอเสร็จ อ.หมอ ก็ไม่รอช้า ใส่ Pure form ค่ะ และ ใช้เวลาสักพัก เพื่อให้ตรง
หลังจากนั้น มาทำปีกจมูกต่อ
ซึ่งระหว่างทำ พบ ว่า รูจมูก 2 ข้างติ๊กไม่เท่ากันค่ะ
อ.หมอ จึงแก้ไขจุดนี้ก่อน โดยการเย็บ 2 ข้างให้เท่ากัน
จากนั้นจึงเริ่มเก็บปีกให้เล็กลง โดยเย็บซ่อนไว้ในปาก
ติ๊กจึงมีแผลในปากด้วยค่ะ แต่เป็นแค่รอยเย็บนิส เดียว
ผ่านไป ชม. กว่า เสร็จล่ะค่ะ
บอกตรงๆ อ.หมอ ทำงานเร็วมาก คล่อง ไม่รีรอ ให้อยู่ในความกลัวนาน
ระหว่างที่ทำ อ.หมอถามตลอดว่าเจ็บมั้ย?
พนง.ให้ติ๊กไปห้องพักฟื้น เอาเจลเย็นมาให้ ให้ทานยา ดื่มน้ำ
ดูแล อย่างดี รวมไปถึง ดูแลแฟนติ๊กที่มานั่งรออย่างดี
โคตร ประทับใจ แฟนติ๊กไม่สบายค่ะ
พี่ๆพนง. เปิดแอร์ให้นอนพักเลย ดูแลดีมากๆ
ติ๊กพักไม่นานค่ะ ต้องไป รพ. กับแฟน จึงขอกลับเลย
ไม่เจ็บนะค่ะ อาจจะเพราะยาชายังอยู่
ช่วงหน้าผากมีปูดๆ อ.หมอบอกว่า ยาชานะ
ปากจะบวมๆนะ ใจเย็นๆ
ต้องรอดูกันต่อไปสินะ
สรุป การทำจมูกนี้ ติ๊กทำไรไปบ้างนะะะะะะ
1.ไสและตกแต่งกระดูกที่ยื่น และเบี้ยว
2.เสริมจมูก ด้วย Pure form
3.แก้ไขรูจมูกที่ไม่เท่ากัน
4.เย็บปีกจมูก ซ่อนแผลในปาก
อ.หมอ บอกว่า จะบวมและช้ำเยอะและนานนิสนึง เพราะทำกระดูกกับปากด้วย
ต้องใช้เวลาสักพักกกก จุบุ
เดวมาต่อให้ดูน้าาสส