|
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 15 ก.ค. นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)และตำรวจ บก.ปคบ. นำกำลังเข้าตรวจค้น สยามคลินิกเวชการ เลขที่ 431/3 ซอยเพชรบุรี7 ถนนเพชรบุรี แขวง-เขตราชเทวี เปิดเป็นสถานเสริมความงาม ตรวจรักษาโรคทั่วไป ศัลยกรรมตกแต่ง ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ดึงหน้า เสริมคาง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นคลินิกเสริมความงาม ด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์รับบริการ ภายในตึกด้านหลังมีเตียง 1 เตียงสำหรับให้แพทย์ตรวจอาการ ส่วนด้านบนพบเตียงที่ใช้สำหรับผ่าตัดทำศัลยกรรม สำหรับขั้นตอนในการเข้าจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสายลับเข้าล่อซื้อบริการเสริมความงาม เป็นหนึ่งในผู้ใช้บริการ มีคนรอใช้บริการจำนวน 10 คน โดยสายลับแจ้งความจำนงในการทำศัลยกรรมจมูก ผ่าตัดใส่ซิลิโคนด้วยเงิน 12,000 บาทเป็นคิวสุดท้ายคิวที่ 10 หลังจากทำการผ่าตัดเสร็จ ทางสายลับได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวจับกุมทันที ขณะเข้าจับกุมพบ พล.ต.ผดุง ศัตรูลี้ อายุ 79 ปี นายผดุง โชคดี อายุ 66 ปี นายชาตรี โชคดี อายุ 53 ปี นายสยาม ลาลับ อายุ 48 ปี และเจ้าหน้าที่ธุรการผู้หญิงอีก 3 คน
นายพสิษฐ์ เปิดเผยว่าสำหรับสถานบริการ สยามคลินิกเวชการ ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมายเลขที่ 10101005955 โดยมีพล.ต.ผดุง ศัตรูลี้เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม เลขที่ ว.2827 โดยเปิดดำเนินการคลินิกมากว่า 20 ปี แต่จากการเข้าตรวจสอบพบว่าผู้กระทำการรักษาและผ่าตัดไม่ใช่พล.ต.ผดุง ซึ่งเป็นแพทย์ที่ได้รับอนุญาต แต่กลับเป็นนายชาตรีที่เป็นคนลงมือผ่าตัดแทนแพทย์ และจากการตรวจสอบยังพบอีกว่าคลินิกดังกล่าวเปิดเกินเวลาที่ได้ขออนุญาตไว้ นอกจากนั้นในส่วนของซิลิโคนนั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยานำไปตรวจสอบอีกครั้ง ว่าได้มาตรฐานหรือไม่
จากการสอบสวนพล.ต.ผดุง ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นเจ้าของคลินิกดังกล่าวจริง เปิดบริการมา 20 ปี แต่ตนอายุมากแล้ว จึงได้แค่เป็นผู้ดูแลและสั่งการ ในด้านการผ่าตัดหรือตกแต่งศัลยกรรมความงาม ส่วนในด้านการผ่าตัดจะมีผู้ช่วยเป็นผู้ลงมือ ซึ่งในแต่ละวันจะรับคนไข้เพียงแค่ 10 คนเท่านั้น โดยคลินิกจะเปิดรับคนไข้ตั้งแต่เวลา 11.00 น.แต่แพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนกว่าลูกค้าจะหมดตามที่ได้นัดหมายจนเสร็จสิ้น ซึ่งบางครั้งเวลาเกินกว่าที่ได้ขออนุญาตไว้ คือ 12.30 น.-15.30 น.
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปคบ.ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาตและนำเข้าเครื่องมือแพทย์โดยไม่แจ้งรายการละเอียด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนที่ปคบ.อย่างละเอียดต่อไป
|
|