|
ต้นฉบับโพสต์โดย tookta_Sc เมื่อ 2013-3-13 07:13
อ่อขอบคุณคะ แล้วคุณคิดว่าจมูกอย่างนี้ควรทำกับหมอท ...
อ่อขอบคุณคะ แล้วคุณคิดว่าจมูกอย่างนี้ควรทำกับหมอท่านใหนเหรอคะ แต่ใจจริงน้องก็อยากให้ตรงหว่าตาสูงให้เห็นสันอีกนิด ปลายเชิดนิด แต่ท่านบอกว่าเดี๋ยวเนื้อจะรั้งเกินไปเลยไม่กล้าแย้งคะ ใจ1ก็พอใจในหน้าใหม่แต่อีกใจก็แอบบ่นนิดๆว่า เจ็บตัวทั้งทีก็อยากใด้สูงอีกนิดตรงหว่างตาและปลายเชิดนิดคะ เพราะตอนนี้ดูๆไปก็เหมือนธรรมชาติมากๆๆ เอาขึ้นจากของเดิมแค่0.1มิลคะ
........................................................................................................................................
วิธีตรวจว่า เนื้อมากเนื้อน้อยมีดังนี้ครับ
ให้เอานิ้วชี้และ โป้งมาจับบริเวณสันจมูกแล้วลองดึงดู ถ้าดึงแล้วมีเนื้อจมูกยืดออกมาได้เกิน หนึ่ง เซนติเมตรแสดงว่าเนื้อหนาครับ แบบนี้เสริมจมูกแล้วจะดูเนียน โด่งสวยเพราะ ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่มักไม่เหลา Silicone หนาเกิน 1 เซนติเมตรครับ มักน้อยกว่านั้น
แต่ถ้าน้อยกว่า 0.5 เซนติเมตร ถือว่าเนื้อน้อยครับ จะเสริมให้โด่งไม่มากเพราะ แม้เราเหลา Siliocne ที่มีความหนาเท่ากันแต่ใส่เข้าไปในเนื้อคนไข้ที่มีความหนาบางแตกต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมแตกต่างกันนะ
สำหรับคนผิวบาง คนผิวหนา นอกจากจะตรวจโดยวิธีที่บอกข้างต้นแล้ว อาจอาศัยความรู้ทั่วไป ก็คือ บริเวณ T-Zone ของจมูก ถ้ามันมาก ( ผิวมัน ) คนพวกนี้มักมีผิวหนาครับ ถ้าผิวแห้ง แสดงว่าผิวบางครับ
ส่วนปลายจมูกลองดึงดูว่ายืดได้แค่ไหน ถ้ายืดได้ ก็พอดึงปลายทำหยดน้ำได้
หมอเฉลิม แต่ต้องรอเปิดจองคิวใหม่เดือนกค.และราคาสูง ค่าแก้เกิน30,000
หมอชาตรี สยามคลินิก และ วีคูน ทำโด่งแค่พอเนื้อรับได้ และดึงปลายให้ยาวนิดหน่อย ราคาแก้เท่ากัน 15000
ถ้าชอบสโลบ สวยเนียนแบบธรรมชาติ ก็หมอสำรวย แต่ปลายอาจไม่มีหยดน้ำ ถ้าปลายเดิมไม่มีอยู่แล้ว
ถ้าปลายจมูกเนื้อน้อย ดึงยืดไม่ได้ ไปทำหยดน้ำก้เสี่ยงทะลุ ยกเว้นจะตัดกระดูกหลังใบหูมารองปลายจมูก ทำแบบOPEN ซึ่งหมอเฉลิมก็ราคาไม่ต่ำกว่า 50000 |
|