ดู: 818|ตอบกลับ: 9
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ครีมหน้าขาว (Whitening Cream) ลองอ่านกันดูน้า

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย opal2530 เมื่อ 2013-2-20 15:16

ครีมหน้าขาว (Whitening Cream)

ครีมหน้าขาว (Whitening Cream ) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะคนไทยเราผิวออกดำแดง บ้างก็ดำเข้ม ส่วนใหญ่จึงอยากให้ผิวดู ขาวใส ขึ้น แน่ละ คนเรามักชอบอะไรที่แตกต่างจากตัวเอง อย่างฝรั่งชอบผิวคล้ำ ดำ แทน ขณะที่เราชอบ ผิวขาว สเป็ก “ขาวสวยหมวยตี๋” ปัจจุบัน ครีมหน้าขาว มีให้เลือกใช้หลายชนิดราคามีตั้งแต่หลักร้อย จนกระปุกเป็นหมื่น สรรพคุณที่ว่า ดีสมราคาหรือไม่ การเข้าใจถึง ส่วนผสม และ กลไกการออกฤทธิ์ต่อ ผิว จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยทั่วไปสารซึ่งทำให้ ผิวขาว ขึ้นได้แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ

arbutin.jpg (2.74 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 11)

arbutin.jpg
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:19:59 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
1. ชนิดกระตุ้นการหลุดลอกของ เซลล์ผิวชั้นนอก กลุ่มนี้ไม่ได้ลดการสร้าง เม็ดสี โดยตรง เพียงแต่ลอกเซลล์เก่า ซึ่งตายแล้วออกไป ผิวจึงดู ขาว ขึ้นได้ สมัยก่อนอาจใช้ ไวน์ โยเกิร์ต ฝานมะเขือเทศ นำมาพอกหน้า แล้ว ทำให้ผิว ขาวใส ขึ้น แท้จริงแล้วในสิ่งเหล่านี้มี กรดผลไม้ ซึ่งออกฤทธิ์ ผลัดเซลล์ผิวเก่าๆ ให้หลุดออกไปได้ง่ายนั่นเอง เรียกรวมๆ ว่า AHA  ( Alpha Hydroxy Acids )  ซึ่งยังแบ่งเป็นชั้นย่อยๆ ตามแหล่งที่มาอีกด้วย เช่น ไวน์ หรือองุ่น ให้ กรดทาร์ทาริก (Tartaric) นมเปรี้ยว มะเขือเทศ ให้ กรดแลคติก (Lactic) แอ๊ปเปิ้ลให้ กรดมาลิก (Malic) ส้ม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยวให้ กรดซิตริก (Citric) อ้อยให้ กรดไกลโคลิก (Glycolic) ซึ่ง แหล่งที่ให้กรดที่ออกฤทธิ์ต่อ ผิว ดีที่สุด ได้จาก อ้อย
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของ กรดผลไม้ ที่จำหน่ายในท้องตลาด กฎหมายควบคุมให้มีความเข้มข้นไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ เพราะหากสูงกว่านี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ แพทย์ เท่านั้น เพราะอาจทำให้เกิดการลอกจนแสบไหม้ได้ ความเข้มข้นสูงจึงถูกนำไปใช้ทำ “AHA Treatment” ทาแล้วล้างออก ไม่ได้ทิ้งไว้ตลอดคืน เหมือนกรดผลไม้ความเข้มข้นต่ำ โดยทำสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้มีการหลุดลอกของ เซลล์ผิวชั้นนอก เร็วขึ้น แพทย์ จะเป็นผู้เลือกความเข้มข้นตามความเหมาะสม ซึ่งมีตั้งแต่ 20-70 เปอร์เซ็นต์
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:01 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
นอกจากนี้ มีสารอื่นที่พอหาซื้อได้อีก เช่น BHA (Beta Hydroxy Acids) หรือกรด ซาลิไซลิก (Salicylic Acid) นั่นเอง สมัยก่อนใช้ความเข้มข้นสูง ทาบริเวณลำตัวในตำแหน่ง ผิวหยาบกร้าน หนา หรือ หูด ที่ไม่ต้องการออกไป ต่อมาได้พัฒนาเป็น ครีมทาผิวหน้า โดยใช้ความเข้มข้นต่ำๆ ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลอกรอยดำคล้ำ ปัจจุบันผสมอยู่ใน เครื่องสำอาง หรือ ครีมหน้าขาว ในท้องตลาด
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
2. ชนิดยับยั้งการทำงานของเม็ดสี ตามธรรมชาติ เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) อยู่ในชั้นล่างสุด ของ หนังกำพร้า เมื่อได้รับการกระตุ้นจาก ฮอร์โมน หรือ รังสียูวี จากแสงแดด จะทำให้ เซลล์สร้างเม็ดสี เหล่านี้สร้าง เม็ดสี (Melanin) เพิ่มขึ้น ผิวจึงดู คล้ำ ลงโดยอาศัย เอนไซม์ ที่เรียกว่า ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ภายในเซลล์เอง ไปเปลี่ยนโปรตีน ไทโรซิน (Tyrosine) ในเซลล์ ร่วมกับการเกิด ปฏิกิริยา ออกซิเดชั่น (Oxidation) ได้เป็น เม็ดสี ขึ้น และ เม็ดสี ที่สร้างขึ้นนี่เองจะค่อยๆ เคลื่อนตัวขยับขึ้นไปชั้นบน
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:03 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
สารที่ทำให้ผิวขาวมีด้วยกันหลายชนิด เช่น

-  กรดโคจิก (Kojic Acid) สร้างจาก เชื้อรา ชนิดหนึ่ง ซึ่งพบตามธรรมชาติ ชอบเจริญเติบโตในธัญพืช เช่น ถั่ว แป้ง ในเต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว หรือ เหล้าสาเก ก็มี กรดโคลิก ผสมอยู่ทั้งสิ้น ผลการศึกษาในปลาทองสีดำพบว่า เมื่อปลากิน กรดโคจิก สีของปลาทองจะจางลง เมื่อวิเคราะห์ในห้องทดลอง
พบว่า กรดโคจิก ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์ไทโรซิเนส ในเซลล์สร้างเม็ดสีนั่นเอง
     เมื่อนำมาผสมใน ครีมหน้าขาว พบว่า สามารถออกฤทธิ์เฉพาะที่ได้ดีพอควร ปี ค.ศ. 1994 จึงอนุญาตให้ใช้ใน ญี่ปุ่น เป็นแห่งแรก ในความเข้มข้น 1 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันใช้กันแพร่หลาย ความเข้มข้นตั้งแต่ 1-3 เปอร์เซ็นต์ แต่พบว่าอัตรา การแพ้ ยังค่อนข้างสูง คือ เกิด ผื่น บวมแดง คัน มักพบภายใน 48-72 ชั่วโมงหลังใช้ ยิ่งความเข้มข้นสูง ก็ยิ่งมีโอกาส แพ้ ได้ง่ายกว่า
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:04 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
-  อาร์บูติน ( Arbutin ) และ สารธรรมชาติสกัดจากชะเอมเทศ ( Bearberry ) ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์ ไทโรซิเนส ใน เซลล์สร้างเม็ดสี เช่นเดียวกับ กรดโคจิก แต่พบอาการ แพ้ ได้น้อยกว่า

     - สารธรรมชาติจากชาเชียว (Green Tea) สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส (Pine Bark) หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed) โดย ชาเชียว ให้สาร EGCG (Epigallocatechin) ทั้งหมด เป็นสารในกลุ่ม โพลีฟีนอล (Polyphenols) มีคุณสมบัติเป็น แอนติออกซิแดนท์ (Antioxidant) ป้องกันการเกิด อ๊อกซิเดชั่น จากอนุมูลอิสระ (Free Radical) ตัวร้าย ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ รวมทั้ง เซลล์ผิว และ เซลล์สร้างเม็ดสี ด้วย
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อ เซลล์สร้างเม็ดสี เสื่อมก็จะทำงานผิดปกติเกิดเป็น ฝ้า กระ หรือ รอยดำ ได้ ขณะเดียวกันกระบวนการสร้าง เม็ดสี เองต้องการปฎิกิริยา ออกซิเดชั่น เมื่อมีการยับยั้งกระบวนการนี้ ทำให้สร้าง เม็ดสี ได้น้อยลง ทั้งยังพบว่าสารเหล่านี้ยังปกป้อง ผิว จาก รังสียูวีบี ได้ในระดับหนึ่งด้วย ปัจจุบันจึงเป็นส่วนผสมทั้งใน ครีมหน้าขาว และ ครีมบำรุง ซึ่งอ้างสรรพคุณว่า ชะลอวัย ได้ ผลวิจัยที่ออกมายังมีไม่มากนัก
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย opal2530 เมื่อ 2013-2-20 15:19

- วิตามินซี ( L-ascorbic Acid)  วิตามินบี 3  (Niacin)  วิตามินซี  มีฤทธิ์เป็นทั้ง แอนติออกซิแดนท์ และยังมีส่วนยับยั้งการทำงานของ เอนไซม์ ไทโรซิเนส ทำให้สร้าง เม็ดสีไ ด้น้อยลง หลังใช้ ผิว จึงดู ขาวใส ขึ้นได้ มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งชนิด ครีม โลชั่นทาผิว โฟม หรือ เป็น ผง เขย่าผสมกับ ตัวทำละลาย ก่อนใช้ หากสนใจเลือกใช้ วิตามินซี ขอแนะนำว่าควรใช้เป็น ชนิดผง จะดีกว่า เพราะอยู่ในรูป กรดวิตามินซี ซึ่งเป็นรูปแบบทางเคมี ที่สามารถออกฤทธิ์กับ ผิว ได้ทันที จึงดีกว่าชนิด ครีม โลชั่น หรือ โฟม ซึ่ง มักเป็น เกลือ วิตามินซี (VC-PMG) โดยทำให้ ผิวขาว ได้ดีกว่าถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วน วิตามินบี 3 ออกฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนตัวของ เม็ดสี ที่ถูกสร้างขึ้นแล้ว ไปยังผิวชั้นบน จึงทำให้มองเห็น รอยดำ ได้ไม่ชัดเจน
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-20 15:20:07 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หากเลือกใช้ เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสาร ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของ เม็ดสี ควรเห็นผล เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ ขณะที่ เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสาร ซึ่งเร่งการหลุดลอกของ เซลล์ผิวจะเห็นผลเร็วกว่าภายใน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น            
     นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ กระตุ้นให้ ผิวหน้า หมองคล้ำอยู่ตลอดเวลา เช่น ลืมทา ครีมกันแดด บ่อยครั้ง ผิวสัมผัสความร้อน อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าด้วย น้ำอุ่น ไดร์เป่าผมร้อนๆ หรือ หน้าเตาทำกับข้าว รับประทาน ยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมน รวมถึงยาบางชนิดซึ่งทำให้ไ วแดด ผิว ดำคล้ำ ลงได้ใ นตำแหน่งที่สัมผัสกับ แสงแดด อย่าง เตตร้าไซคลิน (Tetracycline) ยารักษาสิว รวมถึง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ

     การใช้ ครีม เพื่อให้ ผิวหน้า ขาวนวล จึงเป็นเพียง การฟื้นฟู และ บำรุงผิว เท่านั้น แต่จำเป็นต้องป้องกันปัจจัยกระตุ้นไปพร้อมๆ กัน ด้วยค่ะ  
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้