ดู: 1184|ตอบกลับ: 4
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันรังสียูวี

[คัดลอกลิงก์]
แสง UV มี 3 ชนิด
UVA I มีความยาวคลื่นแสง 340-400 นาโมมิเตอร์
UVA II มีความยาวคลื่นแสง 320-340 นาโมมิเตอร์
UVB มีความยาวคลื่นแสง 290-320 นาโมมิเตอร์

UVA I และ II มีอำนาจทะลุทะลวงสูงเข้าสู่ชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดการทำลายคอลลาเจน
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของรอยย่นและหย่อนคล้อย กระ และมะเร็งของผิวหนัง
UVA I มีอำนาจทะลุทะลวงสูงที่สุด ลงไปได้ลึกที่สุด

UVB มีอำนาจทะลุทะลวงผิวหนังน้อยกว่า จึงเข้าสู่ชั้นหนังกำพร้าทำให้เกิดฝ้า ผิวดำคล้ำ
ผิวไหม้จากแดด ( sunburn )

ครีมกันแดด ( UV ) ที่มีขายส่วนใหญ่มักผสมสารป้องกัน UVB ซึ่งบอกค่าความสามารถในการป้องกันเป็นตัวเลขระบบ SPF ซึ่งยิ่งสูงยิ่งป้องกัน sunburn ฝ้า และผิวคล้ำได้ดี แต่ตัวเลข SPF ที่สูงไม่ได้รับประกันเรื่องการป้องกัน UVA ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอย การหย่อนคล้อย กระ และมะเร็งผิวหนังดังกล่าว

ส่วนค่าซึ่งบอกประสิทธิภาพป้องกัน UVA คือ PA (Protection Factor For UVA) มีค่าแสดงจาก น้อย (+) ถึงมาก (+++) ดังนั้นครีมกันแดด ที่มีค่า PA สูง(+++) ก็จะช่วยป้องกัน UVA ได้

แม้ว่าในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ป้องกัน UV ออกมาวางจำหน่ายมากมายที่อ้างว่าสามารถป้อง UVA ได้ในระดับ PA+++    แต่เมื่อพิจารณาจากสารประกอบสำคัญที่อ้างว่าป้องกัน UVA ได้    กลับพบว่าสามารถป้องกันได้แต่ UVA II เท่านั้น   ส่วน UVA I ซึ่งมีอำนาจทะลุทะลวงได้ลึกที่สุดไม่สามารถป้องกันได้

สารป้องกัน UVA ที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ Zinc oxide ความเข้มข้นเกินร้อยละ 2 ขึ้นไป
จะป้องกัน UVA I ได้ถึงคลื่นความยาว 380 นาโนมิเตอร์ เมื่อผนวกกับสารกันแดดอีกชนิดหนึ่งคือ Titanium dioxide ซึ่งป้องกันคลื่นความยาวช่วง UVA II และ UVB จึงจะเป็นสารกัน UV ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน คือป้องกันได้ครบทั้ง UVA I , UVA II และ UVB   ถ้าทาเป็นประจำตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป จะป้องกันคอลลาเจนในผิวหนังให้ถูกทำลายช้าลงกว่าอายุจริง ทำให้เกิดรอยย่นและหย่อนคล้อยช้าผิดปกติ และป้องกันกระ มะเร็งผิวหนังได้ผลอย่างแท้จริงด้วย

ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์กันยูวีเพื่อปกป้องความเยาว์วัย นอกว่าจะดูประสิทธิภาพในการป้องกัน UVB โดยดูที่ SPF 15 – 30 สำหรับทาในที่ร่ม และ SPF 50 – 60 ขึ้นไปสำหรับทาเมื่ออยู่กลางแจ้งแล้ว ควรมองหาส่วนผสมว่ามีสารป้องกัน UVA ทั้ง I , II นั่นคือ Titanium dioxide และ Zinc oxide ครบหรือไม่

อนึ่ง UV มีอยู่ทั่วไปไม่เฉพาะกลางแจ้ง ยังรวมถึงในที่ร่มและแสงที่มาจากแหล่งกำเนิดแสงที่ไม่ธรรมชาติด้วย เช่น โคมไฟ คอมพิวเตอร์ เตาไฟ ฯลฯ จึงต้องทาตลอดทุกวันตลอดทั้งปีแม้อยู่แต่ในออฟฟิซตลอดเวลาก็ตาม

อย่าลืมเลือกใช้ชนิด oil-free หรือไร้ไขมันเพื่อกันเป็นสิว และ alcohol & fragrance free
เพราะก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ทางผิวหนังสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายด้วย

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะพอดีเราทำงานกลางแจ้งด้วยอะคะคงต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่าspf/pa++ที่สูงๆแล้วละคะ ไม่งั้นคล้ำแย่เลยเนอะ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 22:56:15 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอนนี้ใช้ตัวไหนอยู่หรอค่ะ ถ้า่ว่างเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันนะค่ะ
เห็นแพทย์บอกว่ายิ่งเอฟพีเอสสูง ยิ่งเป็นสิวอุดตันง่าย ใช้แค่เท่าที่จะทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นถ้าจะอยู่แดดนานๆก็ค่อยทาเอฟพีเอสสูงๆหน่อย  ขอบคุณข้อมูลนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาแชร์ให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านค่ะ เป็นประโยชน์อย่างมาก

แสดงความคิดเห็น

ยินดีมาก ๆ ค่ะ  โพสต์ 2013-2-20 11:45
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้