เมื่อเรื่องศัลยกรรมไม่ใช่แค่ เรื่องของความสวยงาม

priim

สืบเนื่องมาจากมีน้องคนนึงตอบกระทู้ของพี่

http://www.dungdong.com/forum.ph ... mp;page=8#pid984662

แล้วมันโดนใจที่มากที่ว่า

เกิดมาไม่รู้จะตายวันไหน อะไรที่ทำแล้วชีวิตมันดีขึ้น ทำไปเถอะครับ

ปล.เด่วนี้หน้าแย่ บุคลิคภาพไม่ดี อย่าว่าแต่ไปจีบใครเลย สมัคงานยังแย่เลยครับ  

พี่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงคะ

สมัยก่อน พี่เคยเกือบโดนปฏิเสธการรับเข้างานเพราะเรื่อง "หน้าตาไม่สวย"มาแล้ว
คนสัมภาษณ์ เค้าพูดกับบริษัท recruit ที่ส่งตัวพี่ไป

แล้วบริษัท recruit ที่ส่งตัวพี่ไปเค้าก็บอกกับพี่ตรงๆเหมือนกัน
ว่าเค้าเกือบไม่รับเราเข้าทำงานแล้วนะเพราะ ขี้เหล่

แต่ที่ต้องรับเข้างานเพราะ ว่าเค้าจำเป็น ขาดคนจริง และให้ทำงานในตำแหน่ง พนง ชั่วคราวเท่านั้น
ตอนนั้นพี่กำลังตกงาน ไม่สนใจคำตำหนิติเตียนที่โครตปวดใจ แต่อย่างใด ทั้งที่แอบน้ำตาซึม

รู้แต่ว่าดีใจที่เราได้งาน ถึงจะเป็นแค่ พนง ชั่วคราวก็ยินดีจะทำ

ความจริง งานที่ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ความสวยอะไรนะค่ะ
แค่นั่งหน้าจอคอมเล็กๆน้อยๆ ขนของ จัดของ จัดเอกสาร เรียงเอกสาร
เหมือนงาน admin ทั่วๆไป

แต่คงเพราะที่บริษัทที่ได้ไปทำ มีแต่คนสวยๆ คือว่าเป็นบริษัทเกี่ยวกับงายขายคะ
เลยต้องมีเซลส์สวยๆ เอาไว้ไปพบปะค้าขายกับลูกค้า

คงพอนึกออกกันเนอะ บริษัทส่วนใหญ่จะคัดเซลส์สวยๆไว้ก่อน

แม้งานที่พี่ได้ไม่ได้เป็นเซลส์หรอกคะ แต่เป็น sale support ที่อยู่ประจำออฟฟิศเท่านั้น

priim

ฝ่ายบุคคล ที่สัมภาษณ์พี่
เค้าให้พี่ยืนตัวตรง หมุนรอบตัว และบอกพี่ว่า "ทำไมแต่ตัวไม่เป็นเลย" (เค้าขำเล็กๆ และถามต่อว่า)
" นี่คือชุดที่คิดว่าสวยที่สุดแล้วเหรอ "

ทั้งที่ความจริงชุดมันก็ออกแนวเรียบร้อย เหมาะกับการไปสัมภาษณ์งานนั่นแหละ
กระโปรงเสมอเข่า รองเท้ารัดส้น เสื้อเชิ๊ตสีเรียบ

แต่เค้าคงคิดว่ามันเชยมั้ง

แถมเค้ายังพูดอีกว่า" ถ้าพี่รับเข้าทำงาน ช่วยแต่งหน้าจัดๆกว่านี้หน่อยนะ
คนที่นี่เค้ามีแต่คนสวย เราไปอยู่แผนกเค้า เราจะสวยสู้เค้าได้เหรอ"

"แต่ว่าตอนนี่เราต้องการคนด่วนมาก พี่ไม่กล้าเอาเราเข้าไปให้ ผจก แผนกเห็นก่อน
ไม่่งั้นเค้าไม่เอาแน่ๆเลย (ด้วยเหตุผลที่พี่ไม่สวย) แล้วยังไงพี่จะแจ้งกลับ"

ด้วยพี่ก็ถอดใจคิดว่าอาจไม่ได้แล้ว รู้สึกชีวิตหดหู่ด้วย น้อยใจมาก
คิดว่า เพราะเราไม่สวยใช่มั้ย เค้าเลยพูดแบบนี้ เราเลยโดนแบบนี้ เศร้ามาก สะเทือนใจมาก

ทางพี่บริษัทrecruit เค้าก็โทรมาหาพี่ว่า มันติดปัญหาอะไร
สรุปคือ มันติดปัญหาที่พี่สวยน้่อยไปหน่อย นั่นเอง (น่าสมเพชตัวเองเนอะ)

พี่บริษัทrecruit เลยโทรนัดให้พี่ไปเจอหน้าหน่อย
(อ้อ บริษัท  recruit นี้ คงรีบมากที่จะส่งคนไป serve บริษัทที่ต้องการคนด่วน เลยสัมภาษณ์พี่ทางโทรศัพท์ เห็นว่าพูดภาษาอังกฤษได้เลยรีบส่งตัวไปเลย โดยที่ยังไม่เห็นหน้าค่าตา)

สิ่งที่พี่เค้าพูด ว่าอยากเจอหน้าพี่ เพราะอะไรนั้น มันยิ่งทำให้พี่รู้สึกปวดใจ
เค้าบอกว่า พี่ไม่เข้าใจว่าน้องหน้าตาดูขี้เหล่ขนาดนั้นเลยเหรอ เค้าเลยบอกว่าที่ไม่ตัดสินใจรับทันที เพราะ..............ไม่สวย
ยังไงพี่ขอนัดเจอหน่อยนะคะ อยากรู้ว่า มันเลวร้ายมากหรือไง

สุดท้ายพี่ก็ต้องยอมไปพบพี่เค้าคะ เพราะว่าอยากได้งาน เพราะพี่เค้าก็ให้กำลังใจว่า
ถ้าไงก็แต่งหน้าไปทำงาน ละกันนะคะ บริษัทนี้คงอยากให้ ทุกคนดูดี แต่ก็เป็นได้แค่ พนง ชั่วคราวไปก่อน

แต่พี่ก็ได้เข้าไปทำงานนะคะ เป็นงานที่เน้นใช้แรงคะ ทั้งยกของ ยกกล่อง ยกแฟ้ม จัดเอกสาร
พอเข้าไปก็ยอมรับนะ ว่าที่นี่พวกเซลส์เค้าสวยๆจริงๆ หนังหน้าอย่างเรา จากหน้าตาขี้เหล่อยู่แล้ว
กลายเป็นโคตรขี้เหล่ไปเลย เหอๆๆๆๆๆ

ถึงจะเป็นแค่ พนง ชั่วคราว แต่พี่ก็ทำเต็มที่นะคะ จะทำให้เค้าเห็นให้ได้ ว่าถึงเราจะไม่สวย แต่เราก็ตั้งใจทำงาน
แม้งานในตำแหน่งนั้น จากปากคำของคนเก่าๆที่ได้ยิน จะมีคนอยู่ไม่ค่อยนานเพราะเน้นใช้แรงมากกว่า

พี่ทำได้ไม่นานค่ะ ไม่ใช่เพราะทางบริษัทให้ออก แต่พี่ออกเองคะ
อย่างแรก คือ เพราะได้งานใหม่ ในตำแหน่ง พนง ประจำ
อย่างสอง คือ เราค่อนข้างรู้สึกแย่กับการอยู่ที่บริษัทนี้มั้ง

แต่พอฝ่ายบุคคลทราบว่าพี่จะออก ทุกอย่างมันกลับกันคะ
2 เดือนที่พี่ทำงานด้วยความตั้งใจเต็มที่ แม่ในฐานะ พนง ชั่วคราว
พี่กลับได้รับคำเชิญที่ว่า พี่อยากให้อยู่ที่นี่ต่อ พี่จะให้ทำเป็น พนง ประจำเลย
แต่พี่ก็ปฏิเสธไปค่ะ เพราะว่าตัดสินใจไปทำที่ใหม่แล้ว

priim

ทั้งหมดที่เล่ามา อยากจะบอกว่า คนเรา ไม่ว่าสมัยไหน ก็มักตัดสินใจคนที่หน้าตาไว้ก่อน
เค้าไม่สนใจหรอกว่า ความจริงตัวตนเราจะเป็นยังไง
ไม่ว่าจะเป็นคนที่จะจีบกัน หรือว่าคนที่จะสัมภาษณ์รับเราเข้าทำงาน เค้าก็ดูที่ภายนอกก่อนทั้งนั้น

คนสวย คนหน้าตาดีได้เปรียบมากกว่าล้านเปอร์เซ็นต์คะ
ถ้าในละครซักเรื่อง คนสวยคนหล่อ มักเป็นตัวแทนของคนดี เป็นตัวแทนของความเป็นพระเอก นางเอก
ส่วนคนหน้าตาแย่ มักเป็นตัวแทนของพวกตัวร้าย หรือคนใช้เท่านั้นคะ

สังเกตุสิคะ สมัยเด็กๆ คนหน้าตาน่ารักๆ จะมีเพื่อนเยอะ อยากมีคนรู้จัก อยากมีคนเป็นเพื่อน อยากมีคนเอาเข้ากลุ่ม
แต่ถ้าพวกขี้เหล่อย่างพี่ มักโดนล้อ มีเพื่อนน้อย และเป็นส่วนเกินของกิจกรรมต่างๆ

ที่บอกไม่ได้จะ กล่าวหาว่าคนหน้าตาไม่ดี จะแย่ไปหมดนะค่ะ
เพียงแต่จะบอกว่า โอกาสของคนเหล่านี้จะน้อยกว่าเท่านั้นเอง

ถ้าเรื่องงานคิดดูสิค่ะ
ว่ามีคน 2 คนไปสัมภาษณ์งานที่นึงพร้อมกัน
ประสบการณ์พอๆกัน ความสามารถเท่ากัน ไหวพริบไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรแตกต่างเลย

แต่สิ่งที่ต่างคือ คนนึง ขี้เหล่ อ้วน ดำ ยิ่งพิศ ยิ่งแย่
แต่อีกคน สวย บุคลิกดี ยิ่งพิศ ยิ่งเพลิน

คนที่มีโอาศจะผ่านเข้าไปสัมภาษณ์รอบ 2 จะเป็นคนไหนมากกว่ากัน

ทุกวันนี้พี่ก็ไม่ได้ว่าพี่สวยอะไรนักหนานะค่ะ แต่พี่เชื่อว่า
พี่ได้ก้าวข้ามคำว่า ยัยผู้หญิงขี้เหล่ ในอดีตมาแล้ว

หลายคนในนี้ หน้าตาในอดีตอาจจะแค่ หน้าตาธรรมดานะค่ะ แต่สำหรับพี่นั้น เค้าเรียกว่า ขี้เหล่ขั้นเทพคะ 555555
เพราะฉะนั้น พี่เลยจะรู้สึกดี และขอบคุณตัวเอง ที่ตัวเองรู้จักการปรับปรุงหนังหน้าตัวเอง แม้มันจะไม่ได้ออกมาสวยมาก แต่ก็ทำให้เรา มีความสุขที่จะอยู่ในสังคมจอมปลอมนี้ได้

ทุกวันนี้มีแต่คนปรึกษาเรื่องความงามคะใช้อะไร  ทำที่ไหน ยังไง เท่าไหร่ อะไรดี 55555555

priim

ภาพเมื่อก่อน



ภาพปัจจุบัน ตุลาคม 2555

priim

ต้นฉบับโพสต์โดย BOBBY เมื่อ 2012-10-20 21:29
เป็นกำลังใจให้น่ะครับ

ผู้ ญ อย่าหยุดสวย ครับ อิอิ {:1_ ...

อร้ายยยยย
ปลื้มค่ะ

admin มาเมนท์ ถือว่าประสบความสำเร็จในการตั้งกระทู้ อิอิ

ขอบคุณนะค่ะ

priim

ต้นฉบับโพสต์โดย Gakkajee เมื่อ 2012-10-21 04:07
เป็นกำลังใจให้นะคะ หนูก็เคยเจอมาเหมือนกัน กับเรื่อง ...

คุณน้องต้องลองปรึกษาหลายๆที่นะคะ เพราะหมอแต่ละคน จะมีความเห็นต่างกัน
พี่ก็เจอคะ อย่างเรื่องจมูกหมอ ท่านนึงบอกทำใหม่ให้สูงไม่ได้แระ แต่อีกท่านบอกทำได้สบาย :)

priim

ต้นฉบับโพสต์โดย Gakkajee เมื่อ 2012-10-21 04:07
เป็นกำลังใจให้นะคะ หนูก็เคยเจอมาเหมือนกัน กับเรื่อง ...

หมอที่นี่พูดตรงมากค่ะ แค่ตรงเกิ๊น !!! พาน้องไปมาเจอคำพูดประมาณเดียวกัน เล่นเอาเสียself เหอเหอ

priim

ต้นฉบับโพสต์โดย amplemiracle เมื่อ 2012-12-8 20:42
ทั้งหมดที่เล่ามา อยากจะบอกว่า คนเรา ไม่ว่าสมัยไหน ก ...

อันนี้พี่เห็นด้วยกับคุณน้องล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะ
เสียดายที่บริษัท(ฝ่ายบุคคล)ที่เค้ามองคนแค่เพียงรูปร่างหน้าตา (ที่พี่เจอมากับตัวเอง)
เค้าน่าจะคิดได้อย่างคุณน้อง ว่ามองคนควรมองที่ความสามารถดีกว่า (ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นภายหลังที่ต้องรับเข้าทำงานแล้ว) นั่นคือเหตุผลที่ทำไมคนไม่สวยอย่างพี่(ถึงเกือบโดนปฏิเสธ)

แล้วพอวันนึงที่เราจะออกจากบริษัทนั้น เพราะไปเจอบริษัทที่เค้ามองที่วัยวุฒิและคุณวุฒิและรับเข้าทำงานแล้วจริงๆ
บริษัทนั้นเค้ากลับมาขอให้เราอยู่ต่อ เพราะเล็งเห็นว่าเราทำงานให้เค้าได้แถมอึดและถึกด้วย โดยลืมไปว่าครั้งที่มาสัมภาษณ์ เค้าเคยปรามาสเรื่องรูปร่างหน้าตาของเรา