ดู: 2376|ตอบกลับ: 17
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ผ่าตัดเพิ่มความสูง ทางลัดสู่ความสำเร็จหรือเจ็บปวด

[คัดลอกลิงก์]
นับตั้งแต่ปลายปี46ที่ผ่านมา ข่าวคราวการผ่าตัดแปลงโฉมของสาวจีน ออกมาแบบไม่ขาดสาย บางคนทำศัลยกรรมตั้งแต่หัวจรดเท้า เช่นเดียวกับก่วนอิง สาวใจถึงชาวกว่างโจว (กวางโจว) ที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามมาแล้วถึง 21 รายการ ล่าสุดสาวคนนี้ได้ทำ “ศัลยกรรมผ่าตัดเพิ่มความสูง” ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นด่านที่ยากที่สุดด่านหนึ่ง


    ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่วนอิง ซึ่งสูง 1.62 เมตร ลงทุนขึ้นเตียงให้หมอศัลยกรรม ‘ตัดกระดูก’ เพิ่มความสูง หลังการผ่าตัดนาน 2 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง เธอได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่โรงพยาบาลว่า ‘ตอนนี้ขาฉันทั้งแสบทั้งปวดไปทั่ว ที่แย่กว่านั้นคือช่วงนี้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง เคลื่อนไหวไปไหนมาไหนไม่ได้’


    ต่อข้อถามที่ว่า ความรู้สึกเมื่อต้องเข้าห้องผ่าตัดเป็นอย่างไร สาวก่วนสาธยายว่า นาทีที่ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด มองเห็นเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ลางๆ และยังนางพยาบาลที่มารุมอยู่ข้างๆเตียงอีก ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับข้าศึกอย่างนั้นเลย ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว ยิ่งตอนที่นึกว่าหมอจะกรีดเนื้อแล้วหั่นกระดูกเราแล้ว ยิ่งใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


    เธอเล่าว่า ระหว่างที่ผ่าตัดอยู่นั้น ถึงแม้จะชาเพราะฤทธิ์ยา แต่ช่วงที่หมอเปิดข้อต่อกระดูก รู้สึกปวดสะท้านไปทั่วร่างถึง 2 ครั้ง หลังผ่าตัดเสร็จ ถึงแม้จะมีเครื่องช่วยระงับอาการปวด แต่ขาก็ยังบวมปวดมาก เนื้อตัวก็ไม่สบาย


    ผู้อำนวยการวัง หนึ่งในคณะแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้ก่วนอิง กล่าวว่า การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แต่เนื่องจากเลือดเสียที่เกิดบริเวณที่ตัดกระดูกยังออกมาไม่หมด ดังนั้น จึงต้องสอดท่อถ่ายเลือดเสีย รวมถึงสายปัสสาวะด้วย 3 วันหลังจากนั้นจึงจะเอาออกได้ และก่วนยังต้องรักษาตัวบนเตียงต่ออีก 7 วัน


    แพทย์เสริมว่า หลังการผ่าตัด กระดูกจะค่อยๆ งอกออกมาใหม่ตามเหล็กที่ใส่เข้าไป โดยยืนยันว่า การผ่าตัดนี้จะทำให้เธอสูงขึ้นอีก 8 เซนติเมตร


   ก่วนอิงต้องทำกายภาพบำบัดภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เช่น การยืนพิงกำแพง การเดินช้าๆ เพื่อช่วยให้กระดูกค่อยๆเติบโตขึ้น และต้องอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลไปอีก 6 เดือน ทั้งนี้เธอจะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เองตามปรกติ


    นอกจากนี้ยังต้องบำรุงด้วยอาหารเสริม ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตกเดือนละ 900 หยวน (ราว 4,500 บาท) ซึ่งไม่รวมค่าประกันการผ่าตัดอีก 80,000 หยวน (ราว 400,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในประเทศไทย 500,000 – 800,000 บาท)


    ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนของผู้ที่ทำการผ่าตัดเพิ่มความสูงในแต่ละปี แต่ป้ายโฆษณาผ่าตัดเพิ่มความสูง สามารถพบเห็นทั่วไปในจีน โดยเฉพาะในเมืองกว่างโจว ขณะเดียวกัน ก็มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียใจจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด…
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-1-9 16:45:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ปลายปี 1998 ฟางเฟย บัณฑิตหมาดๆจากรั้วมหาวิทยาลัย เดินทางจากไกลจากเซินเจิ้น มาถึงปักกิ่ง เพื่อผ่าตัดเพิ่มความสูงเช่นกัน โดยได้จ่ายค่าผ่าตัดแก่โรงพยาบาลเป็นเงิน 1 หมื่นหยวน (50,000 บาท) หลังการผ่าตัดครั้งแรกผ่านไป 33 วัน ผลการวัดความยาวของขา เป็นที่น่ายินดีว่าขาของฟางเฟยยาวขึ้น 4.9 เซนติเมตร แต่ที่น่าเศร้าก็คือ ขาทั้งสองข้างมีลักษณะบิดเบี้ยวผิดปกติ โรงพยาบาลยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และผ่าตัดให้ฟางเฟยใหม่ช่วงกลางปี 1999 จนถึงปลายปี 2000 ฟางเฟยจึงได้สามารถออกจากโรงพยาบาล โดยใช้ไม้ช่วยพยุง


    ต่อมาต้นปี 2001 ฟางเฟยได้ยื่นฟ้องโรงพยาบาลดังกล่าวต่อศาลเขตชังผิง นครปักกิ่ง เป็นเงิน 360,000 หยวน (ราว 1,800,000 บาท) ผลการพิสูจน์ของแผนกพิสูจน์งานทางวิทยาศาสตร์ของศาล ระบุว่า “น่องทั้งสองข้างของฟางเฟย มีความสั้นยาวไม่เท่ากัน โดยน่องข้างขวายาว 44 เซนติเมตร มีลักษณะเบี้ยวออกด้านนอก ส่วนน่องข้างซ้ายยาว 45 เซนติเมตร และมีลักษณะเอียงเข้าด้านใน จัดว่ามีความพิการในระดับ 8 ” สุดท้าย ฟางเฟยได้รับเงิน 74,000 หยวน (ราว 370,000 บาท) แต่ต้องกลายเป็นคนทุกพลภาพไปตลอดชีวิต


    เมื่อปลายปีที่แล้ว เสี่ยวหลิน สาวเมืองกว่างโจว วัย 24 ปี ปัจจุบันสูง 1.58 เมตร แต่ต้องการเพิ่มความสูงให้ตนเองอีก 8 เซนติเมตร จึงตัดสินเข้ารับการผ่าตัดกระดูกในโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในเขตไป๋หยุน


    เสี่ยวหลินเล่าว่า ก่อนที่หมอจะลงมีด ได้พูดกับเธอว่า “การผ่าตัดยืดกระดูกแบบนี้ง่ายมาก และไม่ทำให้เจ็บปวดมากมายอะไร เมื่อออกจากโรงพยาบาลก็สามารถเดินได้ทันที หมอยังบอกอีกว่า 1 เดือน หลังการผ่าตัด เสี่ยวหลินจะสูงขึ้นทันที 8-10 เชนติเมตร และภายใน 3 เดือนก็จะหายเป็นปกติ ”


    แต่เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง เสี่ยวหลินไม่สามารถขยับหัวเข่าได้ กระดูกขาถูกตัดเป็น 3 ท่อน และถูกตรึงด้วยตะปู 17 ตัว บาดแผลเกิดการอักเสบ บวม และมีเลือดไหล ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเดินได้หรือไม่ได้ แม้แต่ขยับนิดเดียวก็ยังไม่สามารถทำได้


    หลังจากออกจากโรงพยาบาล 4-5 เดือน เธอนอนหลับได้แค่คืนละหนึ่งชั่วโมง ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่บาดแผลและที่กล้ามเนื้อ ทำให้เธอไม่สามารถหลับตาลงได้ เสี่ยวหลินกล่าวว่า เคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง เพราะต้องการหนีจากความทุกข์ทรมานเหล่านี้


    สุดท้ายความหวังที่ตั้งไว้ว่าจะสูงขึ้น 8 เซนติเมตรก็ล้มเหลว เพราะไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดต่อไปได้ แต่หมอก็บอกว่าความทรมานที่เธอได้รับ ใช่ว่าจะสูญเปล่า เพราะเธอจะสูงขึ้นอีก 6 เซนติเมตร


    ปัจจุบันเสี่ยวหลินยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมีคนคอยช่วยตลอดเวลา จินหมิงซิน อาจารย์แพทย์และหัวหน้าศูนย์กระดูกประจำมหาวิทยาลัยแพทย์ทหารหมายเลข 1 ของโรงพยาบาลหนันฟัง ในเมืองกว่างโจวกล่าวว่า แม้ว่าเคยผ่าตัดรักษาผู้ที่มีความผิดปกติของแขนขามาหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่ไม่เคยผ่าตัดเพื่อเพิ่มความสูงเลย


    “ผมคิดว่าการผ่าตัดเพิ่มความสูง ต้องทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เพราะโรคแทรกซ้อนของการผ่าตัดชนิดนี้ชนิดนี้มีมากทีเดียว”

    มีคนไข้จำนวนมากที่ผ่าตัดล้มเหลวจากโรงพยาบาลอื่น แล้วมารักษาที่โรงพยาบาลหนันฟัง คุณหมอจิน เล่าว่า “พวกเราได้พบเห็นคนไข้ที่เกิดโรคแทรกซ้อนจำนวนมาก คาดว่าโอกาสที่อาจเกิดโรคแทรกซ้อนมีมากถึง 60-70% โรคแทรกซ้อนที่รุนแรงน้อยที่สุด ก็คือโรคเอ็นข้อเท้าหดตัว ลักษณะคล้ายกับเวลาที่เต้นบัลเลย์ แล้วจะเดินได้อย่างไร”
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-1-9 16:46:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เหตุใดการผ่าตัดชนิดนี้ จึงมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้มาก หมอจินอธิบายถึงวิธีการในการผ่าตัดว่า “ก่อนอื่นต้องผ่าตัดเปิดกระดูกหน้าแข้ง เพื่อเอาตะปูยาวแทงเข้าไปในถึงโพรงไขกระดูก หลังจากนั้นจึงเลื่อยกระดูกหน้าแข้งท่อนบนออกเป็นสองท่อน แล้วนำอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการยืดกระดูก กล้ามเนื้อ และเอ็น มาประกบติดกับขาของคนไข้ โดยการเจาะรูที่กระดูกเพื่อยึดอุปกรณ์กับขา หลังจากทำการผ่าตัดแล้ว 3-5 วัน กระดูกก็จะยืดขึ้นวันละประมาณ 1 มิลลิเมตรขึ้นกับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคน เมื่อกระดูกยืดแล้วยังต้องผ่าตัดเอาตะปูออก”


    เนื่องจากต้องแทงตะปูถึง 16 ตัวเข้าไปในกระดูกของคนไข้ หากไม่ระมัดระวังอาจก่อความเสียหายแก่หลอดเลือด กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาท ทำให้การไหลเวียนของโลหิตเกิดการขัดข้อง จนถึงเป็นอัมพาต และหากตะปูไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อที่ดี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในไขกระดูก


    นายแพทย์เหมาเสี่ยวหลิง หัวหน้าหน่วยงานด้านการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการแพทย์ของสมาคมแพทยศาสตร์แห่งมณฑลกว่างตงกล่าวว่า “โดยทั่วไป แพทย์จะไม่สนับสนุนให้ทำศัลยกรรมเพิ่มความสูง ในต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน”


    หญิงสาวที่มีความคิดเช่นเดียวกับก่วนอิง มีเป็นจำนวนไม่น้อย หญิงสาวที่ประสบเคราะห์กรรมอย่าง ฟางเฟยและเสี่ยวหลิน ก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก พวกเธอต่างเชื่อว่าบุคลิกภาพที่ดี ย่อมนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการงาน หรือชีวิตคู่ในอนาคต ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จของสังคมที่เริ่มจะบูชาวัตถุมากกว่าคุณค่าทางจิตใจ ที่กำลังอุบัติขึ้นในแผ่นดินจีน

บทความดีดี ลองอ่านดูค่ะ credit by http://www.seabuckthornthai.com/ ... =362383&Ntype=5
เคยคิดเหมือกันค่ะ แต่ความเสี่ยงสูง แพงด้วยไม่ไหวๆ ขอสวยแบบ มินิละกันค่ะ ไปนอนแระฝันดีนะคะ แอบมาดูบ้านนี้มั่ง
เสียวขาวาบเรย

อ่านไม่จบด้วย

เสริมส้นดีกว่า เง้อๆ
ใส่ส้นสูง6นิ้ว เชิ่ดๆเริ่ดๆ
ใส่ส้นสูง6นิ้ว เชิ่ดๆเริ่ดๆ
ต้นฉบับโพสโดย ambre เมื่อ 2010-1-9 23:54



ซีว่านุกใส่ส้นสูง สัก 12 นิ้ว คงพอดีอ่ะคับ
แค่เสริมดั้งก้อกลัวแล้วกลัวอีก
นี่แบบว่า....
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-1-10 10:22:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เคยดู เค้าจะเปิดช่องตรงหัวเข่า แล้วตอกอะไรไม่รู้เข้าไปข้างใน หลอนน
ว๊ากกก..........

โอียยย...........
ไอ้เราอยากสูงแค่ 155-160 ก็พอ  มันน่าจะกลับกันเนอะ
เสียวขาวาบเรย

อ่านไม่จบด้วย

เสริมส้นดีกว่า เง้อๆ
ต้นฉบับโพสโดย freshnight เมื่อ 2010-1-9 23:44
พี่ซีจะใส่ส้นสูงหราา  คริคริ
หวายยยย อ่านแล้วน่าหวาดเสียววว...
ขอเป็นมินิแบบนี้ต่อปายยยยยยยยย ฮิฮิ
ขอเตี้ยเท่านี้ดีกว่า
ขอเตี้ยต่อไปอย่างนี้ดีกว่า เหอๆๆๆ แค่ข้อเท้าแพงเฉยๆก้อเจ็บละ  นี่ตัดกระดูกแถมเอาเหล็กแทงอีก *-*
มะอาววว  ยอมเตี้ยดีกว่า  ดีกว่าเดินมะได้ น่ากัวมากมาย
อยากสูง แต่อ่านแล้ว ก็ไม่ไหวๆ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้