|
พอดีว่าตัดสินใจว่าจะไปฉีดเสริมหน้าอกด้วยfillerที่คลินิคแห่งนึงคะ เห็นว่าเพื่อนๆพี่ๆทำมาแล้วสวยดูเป็นธรรมชาติแล้วเกิดกิเลสสุดๆ แต่เพิ่งอ่านเจอบทความนี้ เรยทำให้ต้องหยุดโครงการอัพไซส์หน้าอกชั่วคราว
http://www.ryt9.com/s/iqry/1497074
แพทย์ผิวหนังเตือนฉีดฟิลเลอร์ผิดวิธีเสี่ยงตาบอด ชี้สาวๆ หันไปฉีดสารโพลิอะคริลามีด เสริมสะโพก-หน้าอก มากขึ้น เสี่ยงถึงชีวิต
พล.ต.นพ.กฤษฏา ดวงอุไร นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการรายงานของสมาชิกแพทย์ผิวหนัง ระบุว่าปัจจุบันมีประชาชนที่ไปรับบริการฉีดสารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ แล้วเกิดอาการแทรกซ้อนมาขอรับการรักษาเพิ่มมากขึ้น มีทั้งอาการแทรกซ้อนที่ไม่ร้ายแรง เช่น เขียวช้ำ เป็นจ้ำเลือด บวม ใบหน้าไม่เท่ากัน เกิดอาการแพ้เป็นผื่นแดง เกิดก้อนที่ผิวหนัง ถึงขั้นเกิดอาการแทรกซ้อนอย่างรุนแรง เช่น ผิวหนังตาย จมูกเน่า ตาบอด และเสียชีวิต ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบอาการแทรกซ้อนส่วนใหญ่ที่แพทย์มักเจอบ่อย คือ จมูกเน่า ประมาณ 10-20 ราย ส่วนตาบอด ประมาณ 5-10 ราย
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการไปฉีดสารเติมเต็มเพื่อเสริมความงาม ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียด รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหลังการฉีดก่อนตัดสินใจทำ เพราะถึงแม้ว่าผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นพบได้ไม่บ่อยนัก แต่หากเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอันตราย จึงต้องพิจารณาสถานที่ที่ไปฉีด ชนิดของสารที่ฉีดเข้าร่างกาย และความน่าเชื่อถือของแพทย์ผู้ทำการฉีด หากสารที่ฉีดได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มีเครื่องมืออุปกรณ์การฉีดที่ได้มาตรฐาน แต่ผู้ที่ทำการฉีดไม่ได้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง เผยว่า ฟิลเลอร์ แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1.แบบชั่วคราว สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง แต่อายุการใช้งานสั้น 4-6 เดือน ราคาค่อนข้างแพง 2.แบบกึ่งถาวร มีความปลอดภัยปานกลาง อายุการใช้งานประมาณ 2 ปีและ 3.แบบถาวร ไม่สามารถย่อยสลายตาม ธรรมชาติ ส่วนมากเป็นซิลิโคน หรือพาราฟิน ซึ่งฟิลเลอร์ชนิดนี้มักก่อให้เกิดผลข้างเคียงระยะยาว ซึ่ง อย.ประเทศไทยรับรองเฉพาะฟิลเลอร์แบบชั่วคราวเท่านั้น ได้แก่ Juvederm Restylane Revenese และ ESthelis
ปัจจุบันฟิลเลอร์ถูกนำมาใช้รักษาทางการแพทย์อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะการรักษาปัญหาด้านผิวพรรณ เช่น การแก้ไขปัญหาริ้วรอยของผิวอันเนื่องมาจากวัย บริเวณหน้าผาก หางตา และร่องแก้ม การแก้ปัญหาแผลเป็นชนิดผิวบุ๋มจากการอักเสบและการฉีดเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังให้มีลักษณะนูนขึ้น เช่น เสริมจมูก เสริมคาง ฉีดริมฝีปาก หรือฉีดเสริมรูปทรงของใบหน้าให้ดูอวบอิ่ม อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ฟิลเลอร์มีข้อจำกัดในแต่ละบุคคล ซึ่งต้องเลือกชนิดและขนาดโมเลกุลของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวหนังและตำแหน่งในการฉีด
ด้าน นพ.ถนอม บรรณประเสริฐ หัวหน้าหน่วยศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้าคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า การฉีดเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกนั้นอันตรายและเสี่ยงทำให้ตาบอด เพราะว่าบริเวณจมูกของคนเรามีแขนงเส้นเลือดจำนวนมาก เชื่อมต่อกับระบบหลอดเลือดประสาทตาและสมองโดยตรง หากระหว่างกระบวนการฉีดเกิดการรั่วไหลของฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงประสาทตาจะทำให้ตาบอดถาวรตลอดชีวิต
|
|