ดู: 2433|ตอบกลับ: 6
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ทั่วไป] วิธีการเลือกแพทย์ก่อนทำศัลยกรรม ควรรู้...มาก

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sunny-snsd เมื่อ 2012-8-25 22:42

1.รู้ว่าทำแล้วมีอาการอย่างไร
2.คลีนิคและแพทยืน่าเชื่อถือไหม

เราโดนมาแล้วแพทย์ที่ไม่ได้ฝึกอบรมทางด้านนี้มา...ไม่ขอเอ๋ยชื่อ
หรืออบรมมาผ่านแล้วควรดูด้วยว่าอบรม ผ่านมากี่ปีแล้ว(5 ปี ขึ้นไปถึงจะดี)
ถ้าไม่อยากเอาตัวเองไปให้หมอทดลอง ดวงดีก็สวยไป ดวงร้ายก็...
ไม่ดร่ามานะ แต่เอามาให้เป็นความรู้
เช็คว่าหมอคนไหนจบฝึกอบรมศัลยแพทย์หรือปล่าว จบกี่ปีได้ที่


http://www.plasticsurgery.or.th/            


    การผ่าตัดคล้ายกับการขึ้นรถรับจ้างจำพวกแท๊กซี่
    ถ้าเรารู้จักผู้ขับขี่ก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้จักผู้ขับขี่ เราคงต้องพยายามทำความรู้จัก นั่นก็หมายความว่า เราไม่ควรรีบตัดสินใจผ่าตัดรักษา จนกว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับศัลยแพทย์คนนั้นก่อน อาจต้องเดินทางไปพบปะพูดคุยกันมากกว่าหนึ่งครั้ง
    ถ้าผู้ขับขี่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง ในกรณีนี้ก็คือ ผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างมาอย่างถูกต้อง จนได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง เราจะน่าจะสบายใจได้ในระดับหนึ่ง ผู้รับบริการจึงควรมองหาวุฒิบัตร หรือสอบถามจากทางแพทยสภา
    ถ้าผู้ขับขี่รู้จักจุดหมายปลายทางเป็นอย่างดีก็จะเป็นการดีไม่น้อย แต่ในข้อนี้ ประชาชนทั่วไปคงไม่ทราบ นอกเสียจากจะเคยได้พบกับผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือ คนไข้คนก่อนๆของแพทย์คนนั้น ได้เห็นผลงานในอดีตของศัลยแพทย์คนนั้น
    ศัลยแพทย์คนนั้นเป็นผู้ที่มีจรรยาบรรณที่ดี ตรงนี้สำคัญมาก เพราะศัลยแพทย์บางคนอาจจะฝึกอบรมมาจริง ได้รับวุฒิบัตรจริง แต่ประพฤติปฏิบัติในทางเสื่อมเสีย ใช้วิธีการผิดๆ หรือหลอกลวง ซึ่งทางสมาคมฯจะไม่ยินดีให้เป็นสมาชิก ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อสอบถามกับทางสมาคมฯได้โดยตรง



ขั้นตอนการเลือกศัลยแพทย์


เริ่มต้นอย่างไรเมื่ออยากรับบริการด้านศัลยกรรมตกแต่ง และการเลือกแพทย์

เทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ผู้ที่ต้องการรับบริการ ด้านศัลยกรรมตกแต่ง เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่าย กว้างขวาง และรวดเร็ว ในทางกลับกัน ข้อมูลมากมายดังกล่าวมีโอกาสทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือเกิดความสับสน ดังนั้นจึงนำเสนอแนวคิดบางประการ ตามลำดับดังนี้
1.เตรียมตัวหาข้อมูลในเรื่องที่สนใจ เพื่อให้มีความเข้าใจเรื่องนั้นๆ และเตรียมคำถามก่อนพบแพทย์

เมื่อเกิดความคิดที่ต้องการทำศัลยกรรมตกแต่งในเรื่องใด สามารถหาข้อมูลความรู้ได้จากแหล่งต่างๆ ที่เชื่อถือได้ เช่น บทความเชิงวิชาการ ที่มีเหตุและผล มีข้อดีข้อเสียอยู่ในเนื้อหา  การรับข้อมูลจากผู้ที่มีประสพการณ์มาก่อน ถือเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งที่สามารถนำมาพิจารณา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ทั้งหมด เพราะอาจจะมีความเชื่อ อารมณ์ และการชักจูงแอบแฝงได้

บทความวิชาการ
2. ขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

2.1 ควรทราบข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์
นอกจากจะต้องมีใบอนุญาต ซึ่งแสดงเลขที่ใบอนุญาตจากแพทยสภาแล้ว ศัลยแพทย์จะมีใบประกาศวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตร แสดงให้ทราบว่า เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านใด  เช่น ศัลยแพทย์ตกแต่ง จะมีใบอนุมัติบัตรจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เมื่อผ่านการฝึกอบรมและทดสอบอย่างครบถ้วน และจะได้รับการรับรองเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย เมื่อผ่านการทำงานอย่างน้อย 1 ปี โดยมิได้มีปัญหาใดๆในการทำงานในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีศัลยแพทย์ตกแต่งบางท่าน ซึ่งเป็นส่วนน้อยที่ไม่ได้สมัครสมาชิก หรือบางท่านที่ถูกถอดถอนออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ จากเวบไซด์ของแต่ละสมาคมหรือ ติดต่อสอบถามผ่านเลขาของสมาคม




ขอบคุณมากกกกค่ะ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-8-25 22:43:25 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
รายชื่อสมาชิกของสมาคมฯ

2.2 ให้เวลาในการสื่อสารความต้องการของตนเองให้แพทย์เข้าใจตรงกัน
เป็นเรื่องปกติที่แพทย์ต้องการข้อมูลความชัดเจนของผู้มาขอรับบริการ เพื่อประเมินและวางแผนการผ่าตัด อาจจะใช้ภาพตัวอย่าง เพื่ออธิบายว่าชอบไม่ชอบอย่างไร แต่ไม่ใช่เลียนแบบ เพราะผลหลังผ่าตัดที่ดีจะเหมาะสมกับสภาพปัญหาหรือความต้องการของแต่ละราย มากกว่าการทำเพื่อเลียนแบบ

ควรสอบถามข้อมูลรายละเอียดที่จำเป็นต้องทราบ เช่น ข้อจำกัดของโครงสร้างตัวเอง ความคาดหวังผลที่จะได้ หรือผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้น รวมไปถึงการดูแลหลังทำ และแนวทางแก้ไขกรณีเกิดผลข้างเคียง

2.3 รับข้อมูลมาไตร่ตรอง “คิดรอบคอบก่อนทำ ไม่ใช่ว่า..ทำแล้วเกิดปัญหา..บอกว่ารู้แบบนี้ไม่ทำดีกว่า”
เนื่องจากแพทย์แต่ละท่านจะมีประสพการณ์ ความคิดเห็น มุมมองที่แตกต่างกัน  ข้อมูลที่ได้รับจึงไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้ายที่ต้องรีบด่วนตัดสินใจทำตามคำแนะนำในทันทีทันใด เมื่อมีความสงสัย หรือไม่แน่ใจ ให้กลับมาทบทวนตั้งแต่ต้นใหม่อีกรอบ หรือสอบถามจากแพทย์ท่านอื่นๆ แล้วนำข้อดี ข้อเสียทั้งหมด กลับมาถามตัวเองว่าสมมุตเกิดเรื่องที่แย่ที่สุด จะรับได้หรือไม่ ถ้าคิดว่ารับไม่ได้เลย ให้อยู่เฉยๆจะไม่เกิดปัญหา หรือถ้าเกิดแล้วมีทางออกในแบบที่รับได้หรือไม่
3. ตัดสินใจ……

ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ถึงกับยากจนเกินไป ถ้ามองทุกอย่างในแง่ดี อย่างน้อยที่สุดที่ควรจะได้รับ คือ ความสบายใจหลังทำ เพราะไม่มีทางที่ทำแล้วจะให้ทุกคนชอบทั้งหมด หรือมีโอกาสที่ไม่ได้ผลที่ต้องการทั้งหมด จากข้อจำกัดของโครงสร้างตัวเอง และไม่มีใครสรุปได้ว่า แพทย์คนใดเก่งที่สุด เชี่ยวชาญในเรื่องใดมากที่สุด หรือแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดอาจจะไม่ได้ทำให้คุณเกิดความพอใจได้ เพราะส่วนใหญ่ของการทำศัลยกรรมตกแต่ง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความสวยงาม เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกัน ความชอบ ความรู้สึก รวมไปถึงบางรายก็มีผลตอบรับจากคนรอบตัวเป็นปัจจัยร่วมด้วย

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2012-8-25 22:43:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อย่างไรก็ตาม หลักการที่ให้ไว้จะช่วยเป็นแนวทางให้กับผู้ที่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรได้มีข้อคิดและนำไปประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของตัวเอง

เลือกแพทย์ที่เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ (ไม่ใช่ตามใจ) มีเวลาให้ตั้งแต่ก่อนทำ สามารถนัดติดตามผลหลังทำได้

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมตกแต่ง

เพื่อให้การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมสวยได้ผลดี ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดควรเตรียมตัวดังนี้

    หมั่นตรวจสอบสุขภาพตนเอง หรือตรวจเช็คสุขภาพประจำปี เพื่อประเมินว่ามีโรคต่างๆแอบแฝงอยู่ โดยที่ยังไม่ได้แสดงอาการหรือไม่ โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีความเสี่ยง เช่น มีอายุที่มากขึ้น มีประวัติในครอบครัว โรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบการหยุดเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ หรือเลือดหยุดยาก
    ในรายที่มีความเสี่ยงต่อระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ เบาหวาน โรคไต จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเรื่องแผลหายยาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อให้การป้องกันเป็นพิเศษมากกว่าในรายทั่วๆไป
    แจ้งโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ ประวัติการแพ้ยารับประทาน หรือยาชา ยาสลบ ให้แพทย์ทราบ สำหรับผู้หญิงควรให้ข้อมูลการมีประจำเดือนให้ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบต่อการตั้งครรภ์
    หลีกเลี่ยงทำการผ่าตัดบริเวณใบหน้า หรือในบริเวณใกล้เคียงที่มีการติดเชื้อ เช่น เป็นไซนัสอักเสบเป็นหนอง หรือเป็นหวัดน้ำมูกเขียว สิวอักเสบเป็นหนอง เป็นต้น ควรควบคุมการติดเชื้อให้ดีก่อนทำ
    งดหรือเลิกสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่จะทำลายเซลส์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล และมีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณผ่าตัดลดลง มีโอกาสทำให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดเลือด หายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
    งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในคืนก่อนผ่าตัด และ 1สัปดาห์หลังผ่าตัด
    งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด และวิตามินอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินอี  น้ำมันปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม
    รายที่ต้องใช้ยาดมสลบ หรือยากดระบบประสาท ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และควรมีผู้ที่มารับหลังทำเสร็จ เพราะจะมีฤทธิ์หรือผลบางอย่างของยาที่ให้เหลืออยู่
    เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ถอดใส่ง่าย หากจะทำการผ่าตัดบริเวณใบหน้าให้งดการแต่งหน้า ถ้าจะผ่าตัดบริเวณลำตัวงดการใช้โลชั่นในเช้าวันที่จะผ่าตัด
    เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
    กรณีที่มีการให้เซ็น informed consent ข้อมูลยินยอมผ่าตัด ควรอ่านให้เข้าใจก่อนลงลายเซ็น


กรุณาอ่านเพื่อประโยนย์ของท่านเอง

คุณหมอชาตรี ที่อยู่สยามคลีนิคนี่ หาประวัติไม่เจอเลยค่ะ น่าเชื่อถือไหมคะ?? กลัวเป็นหมอเถื่อนจังเลยค่ะ
ขอบคุนมากเลยคะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้