|
ผมว่า ถ้าคุณไปแก้มา เดี๋ยวคุณก็ต้องหาเรื่องว่าตรงนั้นไม่ดีตรงนี้ไม่ดีอีก แต่ถ้าไม่สบายใจมากๆ จริงๆ ทั้งๆ ที่ใครๆ มองก็ไม่รู้นอกจากตัวเอง จนทำให้จิตตกไม่สบายใจขนาดนั้น ก็ลองดูครับ แล้วต้องยอมรับด้วยนะครับว่าทำใหม่ แก้ใหม่ มันจะออกมาได้ดังใจ 100% คงเป็นไปไม่ได้ และต้องพร้อมรับกับความผิดหวัง ที่จะออกมาแย่กว่าที่เป็นอยู่ที่ใครๆ ก็มองแล้วไม่รู้และบอกว่าสวย มันจะกลายเป็น ทุกคนเห็นแล้วก็ทัก ว่าไปทำอะไรมาทำไมน่าเกลียดแบบนี้ แบบเดิมสวยกว่า ต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้ที่ไม่แน่นอนว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตเมื่อแก้เสร็จ แล้วก็อย่าคิดว่า ถ้าแก้มาไม่ดีเดี๋ยวแก้ใหม่ก็ได้ มันก็จะกลายเป็นไม่พอดี และทำใหม่เรื่อยๆ ทำยังไงก็ไม่ได้ดังที่หวัง ยิ่งทำยิ่งแย่ กลายเป็นเสพติดศัลยกรรมในที่สุด ถึงตอนนั้นคุณจะหันกลับมาแก้ไขอดีตอย่างไรก็ไม่ได้แล้ว ได้แต่ยอมรับมัน ...
อย่ามั้นใจนักว่า ถ้าแก้ใหม่แล้วจะออกมาดีดังใจหวัง แก้นิดเดียวเอง แต่พอหลายๆ ครั้ง ครั้งละนิดก็กลายเป็นเยอะจนหยุดไม่อยู่ พยายามอย่าคาดหวังเยอะไป และมองข้ามอะไรเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง คนเราทุกคนเอาหน้ามาเทียบกันซ้ายขวา ไม่มีใครหน้าเท่ากันหรอกครับ
และมีผลวิจัยว่า คนที่หน้าเท่ากันเปะๆ ทั้งสองข้างจากการทำกราฟฟิค ของคนๆ นั้นจะกลายเป็นคนหน้าแปลกเหมือนตัวประหลาด ส่วนคนที่หน้าสองข้างไม่เท่ากัน แบบไม่ได้ผิดธรรมชาติ กลับกลายเป็นคนที่เรียกว่าน่าตาดีกว่าคนที่หน้าสองข้างเท่ากัน
อีกอย่าง ผมไม่ได้ตัดสินคุณนะ แต่ดูแล้ว คุณเป็นแบบนี้ถึงเวลาไปปรึกษาหาหมอท่านไหนที่จรรยาบรรณไม่ดีพอ จะโดนเขาฟันเงินเอาง่ายๆ ทีนี้จะไม่ใช่แค่ จมูก จะกลายเป็นอย่างอื่นด้วย คุณก็คิดไปตามที่เขาพูด พอเขาบอกไอนั้นไม่ดีตรงนั้นไม่สวยคุณก็อาจจะหลงเชื่อไปได้ง่าย
เพราะฉะนั้น ตั้งสติให้ดี ก่อนจะตัดสินใจทำอะไร ตอนนี้จิตตก แต่ต่อไปอาจเป็นยิ่งกว่าจิตตกก็ได้
ส่วนตัวผมว่าสวยอยู่แล้วครับ สวยมากน่ารัก ขาวใส จมูกถ้าไม่บอกไม่รู้เลย แต่ถึงรู้ก็ไม่ได้น่าเกียด และก็คิดว่า ถึงไปทำออกมาเท่ากันดีดังใจหวัง มันก็ไม่ได้ทำให้หน้าตาดีไปกว่านี้แล้วหละครับ เพราะคุณสวยอยู่แล้ว ^^
ลองไม่ส่องกระจก ปิดกระจกทั้งหมดในบ้าน หรือ ส่องไกลๆ ให้เราไม่เห็นรายละเอียดบนใบหน้าที่เราชอบสังเกตุดู เริ่มทำทีละนิด จากใช้เวลาน้อย และเพิ่มไปเรื่อยๆ และจนกลายเป็นนิสัย ให้เราไม่ต้องสังเกตุหน้าเรามากจนเกินพอดี แล้วคุณจะมองผ่านเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ไปได้แน่ พอเราเลิกกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำแล้วจากการสังเกตุตัวเองมากเกินไป ค่อยกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น นี้คือ การแนะนำของจิตแพทย์ที่ให้ผมทำ และผมก็ทำแล้วได้ผลดีครับ จากที่ชอบสังเกตุหน้าตัวเองนั้นนี้ชอบส่องกระจก ตอนนี้ก็เลิกแล้ว และคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของมัน แต่ผมก็ยังรักและดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ในเรื่องสุขภาพต่างๆ
พอจิตใจดีขึ้น มันก็ออกมาจากภายใน สวยทั้งข้างนอกข้างในกลับมาพร้อมกลับความมั้นใจอีกครั้งแล้วสเน่ห์ก็จะออกมา แต่ตัวผมเองก็ยังไม่มีความมั้นใจมากนักหรอกครับ ประมาณว่ายังไม่หาย กลัวการออกสังคมจากการที่เก็บตัวมาตลอด เกือบ ห้าปี ก็คงต้องสู้กันต่อไป ยอมรับตัวเองกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขมันได้ ... |
|