ดู: 3466|ตอบกลับ: 11
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ทำตาสองชั้น] รู้เเล้วว่าทำไมห้ามทานวิตามินซ๊ก่อนการทำศัลยกรรม

[คัดลอกลิงก์]
เจอมากับตัวเองครับถึงไม่ได้ทำศัลยกรรมก็เถอะ พอดีทุกวันนี้ผมทานวิตามินซ๊1000มก.ทุกวันเลย
เเล้วนนี้ไปหาหมอฉีดสิวอักเสบ เเล้วทีนี้เลือดไหลเยอะมาก อาบเเก้มเลย ไหลไม่หยุด หมอต้องกดไว้ตลอด
หมอถามผมว่า ได้ทานยาอะไรรึป่าว ผมบอกว่าทานเเต่วิตามินซี1000มก. ทุกวันอ่ะคั๊บ
หมอก็บอกว่าห้ามทานเพราะจะทำให้อะไรไม่รู้ผมไม่ได้ฟัง เเต่หมอย้ำว่าห้ามทานตอนผ่าตัดหรือทำอะไรที่ทำให้เลือดออกมาก อะไรเนี่ย  

อาจไม่เป็นประโยชน์อ่านเเล้วอาจงง
เเต่ที่เเน่ๆ ผมเข็ดคั๊บ เหอๆ
เหอๆ เท่าที่ทราบนี่รู้สึกพวก วิตEหรือใบแปะก๊วย นะคับ

พวกที่ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น

แต่วิตCไม่เคยได้ยินอ่าาา
อ้าว เมื่อวันก่อนอ่านของน้องคนหนื่ง ไปทำปากกะหมอภู

บอกว่าให้ทาน vit C  กะ vit B  วันละแปดเม็ด มื้อละ 2 เม็ด จะทำให้หายบวมเร็ว  

ตกลงยังไงกันเนี่ย  

หลายขนาน เชื่อใครดีหว่า
Vitamin C ไม่ได้ทำให้เลือกออกมากครับ 100 %

ในทางตรงกันข้าม คนขาดวิตามินซี จะเลือดออกง่ายหยุดยากด้วยซ้ำครับ

เส้นเลือดบนหน้ามีมากมาย บางทีการฉีดสิวที่ลึกไป หรือไม่มองให้ดี อาจจะโดนเส้นเลือด หรือบุ๋มหลังฉีดได้ครับ ต้องระวังด้วย เห็นมาเยอะแล้ว พวกพนักงานฉีดสิว ผสมยามั่วมาก ฉีดลึกเว่อ สิวยุบแต่ได้หลุม ถ้าโชคร้ายจิ้มเข้าเส้นเลือดบางคนเป็นเลือดออก Hematoma พอหาย กลายเป็นไตได้นะครับ
ตอบกระทู้ Supat8106 ตั้งกระทู้

Vitamin E ควรหยุดก่อนศัลยกรรมครับ
      ไวตามินซี (อังกฤษ: vitamin C) หรือ กรดแอล-แอสคอร์บิก (อังกฤษ: L-ascorbic acid) หรือ แอล-แอสคอร์เบต (อังกฤษ: L-ascorbate) เป็นไวตามินที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไป ไวตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้
ประโยชน์ ของ ไวตามินซี
เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ช่วยคลายเครียด
การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้ [1]
แหล่งไวตามินซี
     แหล่งวิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ การเก็บเกี่ยวผักผลไม้ตั้งแต่ยังไม่แก่จัด ไม่สุกดี หรือนำไปผ่านการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นการตากแห้ง หมักดอง จะทำลายวิตามินซีที่อยู่ในอาหารไปในปริมาณมาก
     ความร้อนทำลายวิตามินซีได้ง่ายจึงไม่ควรต้มหรือผัดนานเกินไป แต่การแช่เย็นไม่ได้ทำให้ผักผลไม้สูญเสียวิตามินซีเพียงข้อเสียอ
บางข้อมูลแนะนำว่าขนาดที่เหมาะสมมากที่สุดต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ คือ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
แหล่งวิตามินในธรรมชาติ จำนวน ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ
อะเซโรลาเชอรี่ น้ำหนัก 100 กรัม 1600 มิลิกรัม
ฝรั่ง น้ำหนัก 100 กรัม 230 มิลลิกรัม
สับปะรด 1 ชิ้นใหญ่(โดยเฉลี่ย) 20-30 มิลลิกรัม
กะหล่ำดอก น้ำหนัก 100 กรัม 49 มิลลิกรัม
บรอกโคลี น้ำหนัก 100 กรัม 84 มิลลิกรัม
น้ำมะนาว 1 แก้ว(100 กรัม) 34 มิลลิกรัม
มันฝรั่ง น้ำหนัก 100 กรัม 21.3 มิลลิกรัม
กะหล่ำปลี น้ำหนัก 100 กรัม 49 มิลลิกรัม
กล้วยชนิดต่างๆ 1 ลูก(โดยเฉลี่ย) 8.5 มิลลิกรัม
พริกหวาน 1 เม็ด(โดยเฉลี่ย) 100-120 มิลลิกรัม
ผักโขม น้ำหนัก 100 กรัม 76.5 มิลลิกรัม
สตรอว์เบอร์รี่ น้ำหนัก 100 กรัม 77 มิลลิกรัม
มะเขือเทศ น้ำหนัก 100 กรัม 21.3 มิลลิกรัม
มะละกอ น้ำหนัก 100 กรัม 60 มิลลิกรัม
โทษของวิตามินซี อันตรายจากการขาดไวตามินซี
      ผู้ที่ขาดไวตามินซีมักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดตามข้อต่อของร่างกาย เลือดออกตามไรฟัน เจ็บกระดูก
แผลหายช้า เนื่องจากวิตามินซีทำหน้าที่ต่อต้านการอักเสบและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย การได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอจะทำให้เส้นเลือดในร่างกายอ่อนแอ และทำให้บาดแผลที่เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายหายช้ากว่าปกติ
เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย คุณสมบัติของวิตามินซี คือ เป็นตัวต่อต้านสารก่อมะเร็งและช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน ถ้าร่างกายขาดวิตามินซีจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดต่ำลงและทำให้ติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ง่าย
เป็นโรคลักปิดลักเปิด ในกรณีของเด็กหรือผู้สูงอายุที่ได้รับวิตามินซีน้อยกว่าวันละ 10 มิลลิกรัม อาจทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิดได้ หากร่างกายขาดวิตามินซีมากเกินปกติอาจทำให้มีลูกยาก เป็นโรคโลหิตจางและมีภาวะความผิดปกติทางจิตได้
[แก้] อันตรายจากการได้รับไวตามินซีมากเกินไป
       เกาต์ เนื่องจากวิตามินซีมีหน้าที่ในการช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย การรับวิตามินซีในปริมาณมากจะทำให้เกิดปัญหาการสะสมธาตุเหล็กตามกระดูกข้อต่อต่างๆ มากขึ้น และอาจทำให้เกิดโรคเกาต์ได้ในที่สุด
       นิ่วในไต การได้รับวิตามินซีมากเกินไปอาจไปรบกวนการดูดซึมของทองแดงและซีลีเนียม ซึ่งส่งผลให้มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิวในไต หากได้รับวิตามินซีเกินวันละ 10,000 มิลลิกรัม อาจทำให้ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อได้

       โดยปกติไวตามินซีหรือคนไทยเราเรียกวิตามินซีนั้นมีอยู่ในผักเเละผลไม้อยู่เเล้วหากรับประทานอาหารครบห้าหมู่ ทานผลไม้หรือน้ำผักผลไม้ ผลไม้สด ผักสดบ้าง เเล้วถ้าหากเพื่อนๆที่ไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ก็เเนะนำว่าให้ทานไวตามินซีที่เป็น ''ธรรมชาติ''หรือภาษาอังกฤษเรียก ''Natura'' ที่ผลิตจากผักเเละผลไม้'' Made from fruits and vegetables below 70 degrees'
เพราะไวตามินซีมีอยู่อีกชนิดคือชนิดที่สังเคราะห์ขึ้นมา เรียกว่า '' ไวตามินซีสังเคระห์ ''ชนิดที่เป็นสารสัง เคราะห์ ประกอบด้วย กรดแอสคอบิก ผสมกับน้ำเชื่อมข้าวโพด หรือ คอร์นไซรัป มีการเติมสี แต่งกลิ่น แต่งรส ดังนั้นการกินไวตามินซีชนิดเม็ดจะได้ความหวานด้วย โดยเฉพาะที่เป็นชนิดแบบอมเล่น รสผลไม้
       ไวตามินซีชนิดเม็ดให้คุณค่าเช่นเดียวกับผลไม้ที่มีวิตามินซีหรือไม่ ขอเรียนว่า ถ้าเป็นไวตามินซีธรรมชาติจะให้คุณค่าไม่ต่างจากผลไม้อุดมวิตามินซีทั่วไป แต่ถ้าเป็นไวตามินซีสังเคราะห์มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจทำให้เกิดมะเร็งมากขึ้นในหนูทดลองและทำให้หลอดเลือดแข็งตีบในคนได้
หากกินผักผลไม้ไม่ค่อยไหวก็อาจรับประทานได้บ้าง แต่ไม่ใช่ใช้แทน เพราะอย่างไรก็ดีไวตามินจะดูดซึมได้ดีต้องมีสารธรรมชาติบางชนิดในผลไม้นั้น ๆ ช่วยด้วย ดังนั้นสูตรสำเร็จสำหรับผู้รักที่จะกินไวตามินซีก็คือ กินอาหารเสริมบวกอาหารสดนั่นเอง อาหารที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ ฝรั่งกลมสาลี่ มะขามเทศ มะขามป้อม มะละกอแขกดำ พุทรา แอปเปิ้ล และส้มโอขาวแตงกวา ซึ่งจะสังเกตได้ว่าความเปรี้ยวไม่ใช่ตัวบอกวิตามินซี เพราะจะเห็นว่าผลไม้เปรี้ยวจัดหลายชนิดไม่ติดอันดับเลย
นอกจากนั้นอาหารธรรมชาติที่นึกไม่ถึงว่าจะมีไวตามินซีสูงคือ ''ปลาทะเลดิบ'' มีกรด แอสคอบิกมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าชาวเอสกิโมนั้นแม้ไม่ค่อยได้บริโภคพืชผักผลไม้ ก็ยังไม่เป็นโรคขาดไวตามินซี
   

แสดงความคิดเห็น

* natural  โพสต์ 2011-2-26 01:06
ทุกอย่าง มีทั้งผลดีและผลเสีย ใช้อย่างระมัดระวังละกันนะคะ
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-2-26 15:09:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
กราบขอบคุณทุกคอมเม้นของพี่ๆนครับ เข้าใจอะไรมากขึ้นเเล้วว
10#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-2-26 15:10:22 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ plastic ตั้งกระทู้

ช่ายๆหมอก็พูดว่าสงสัยคนไปโดนเส้นเลือดฝอย เเกเอาสำลีซับเลือดอยู่นาน เหอๆ
วิตามินซี จะช่วยในการสมานแผลนะคะ่ ไม่เกี่ยวกับว่าทำให้เลือดออกมากขึ้นกว่าเดิมนะ
อย่างนี้ค่ะ คือก่อนผ่าตัดห้ามทานวิตามินเสริม แต่เราว่าน่าจะเป็นพวกน้ำมันปลา น้ำมันตับปลา และน้ำมันอีพนิ่งพริมโรสแบบเม็ดนะคะ ส่วนวิตซีไม่ทราบค่ะ ทำให้เลือดแข็งตัวช้าหรือเลือดไหลไม่หยุด ส่วนหลังผ่าหมอแนะนำให้อัดวิตซีไปเยอะๆเลยช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะเร่งสร้างเนื้อเยื่อค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้