|
ก่อนอืืนต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณจขกท.ด้วยนะคะที่เจอเหตุการณ์ไม่ไดีแบบนั้น คิดว่าคงเป็นรพ.เอกชนใช่มั้ยคะ?
หมอก็มีทั้งดีและไม่ดีอ่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นรพ.เอกชนก็ต้องโทษที่ระบบด้วย เพราะหมอเค้าก็มีหน้าที่หารายได้เข้าโรงพยาบาลเป็นหลัก อะไรที่ทำให้โรงพยาบาลมีรายได้ก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำเค้าก็จะให้ออก เฮ้อ...เบื่อระบบแบบนี้มากๆ
สาเหตุที่ต้องผ่าเปิดใหญ่แบบนี้คงเพราะไส้ติ่งแตกล่ะมั้งคะ เพราะหนองคงแตกกระจายในช่องท้อง กรณีแบบนี้ต้องเปิดล้างท้องเพื่อกำจัดหนองออกไม่เช่นนั้นจะติดเชื้อทั่วทั้งท้อง และติดเชื้อในกระแสเลือดได้ในที่สุด อันตรายมาก ดังนั้นหลักการรักษาที่สำคัญที่สุดคือต้องวินิจฉัยให้ได้ไว และทำการรักษาให้ได้เร็วที่สุด เพราะฉะนั้นหากใครมีอาการปวดบริเวณรอบสะดือแล้วย้ายไปปวดที่ท้องด้านขวา ร่วมกับมีไข้ อุจจาระเหลว คลื่นไส้อาเจียน ให้เริ่มงดน้ำงดอาหารไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะจะได้ผ่าตัดแบบรวดเร็วเนื่องจากไม่ต้องรองดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง(เพื่อป้องกันการสำลักตอนใส่ท่อช่วยหายใจระหว่างดมยาสลบนะคะ)
สำหรับแผลเป็นในกรณีนี้เป็น hyperthrophic scar / keloid การรักษาก็มีหลายแบบ ทั้งแบบฉีดsteroid ซึ่งควรรัีกษาภายใน 1 ปีแรกหลังจากเกิดแผลเป็น แต่การฉีก steroid ไม่ได้ทำให้แผลหายไปนะคะ แผลจะยังอยู่ เพียงแต่มันจะเรียนขึ้น นิ่มขึ้นและสีจางลง และต้องฉีดต่อเนื่องกันหลายครั้งจนกว่าผลจะเป็นที่น่าพอใจ
ส่วนอีกวิธีคือการผ่าตัด reconstruction ซึ่งเป็นการตัดเนื้อส่วนที่เป็นแผลนูนนี้ออกไปก่อนเท่าที่ผิวหนังจะยืดได้ แล้วจึงนัดมาผ่าตัดอีกในครั้งต่อไปเมื่อผิวหนงบริเวณรอบๆยืดเต็มที่ เพื่อตัดแผลเป็นส่วนที่เหลือออกไปเรื่อยๆจนกว่าจะเป็นที่พอใจและไม่เสียรูปร่างของโครงสร้างบริเวณแผล
การป้องกันการเกิดแผล hypertrophic scar / keloid ได้แก่ ระวังแผลติดเชื้อ, ใช้แผ่นเจลล์สำหรับป้องกันแผลเป็นหลังจากการผ่าตัด ส่วนการใช้ฮีรูดอยด์ไม่ได้ช่วยให้แผลเป็นหายไป เพียงแต่ทำให้แผลเป็นนิ่มลงเท่านั้นค่ะ สำหรับคนที่เป็น keloid ง่ายอยู่แล้วนั้นยยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ เพราะมีโอกาสเกิด keloid ได้อีกเรื่อยๆ
|
|