วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่อัดอั้นมานานเกือบ 2 ปี คือพั้นช์เคยไปทำตาสองชั้นที่แห่งหนึ่ง ขอไม่เอ่ยดีกว่า
ก่อนทำตาสองชั้น ตาปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร
ผลลัพธ์ที่ได้กลายเป็นชั้นตาไม่เท่ากัน เบ้าตาพัง แย่ไปกว่านั้นกลายเป็นคนกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาปรือ เหมือนง่วงอะไรประมาณนั้นค่ะ จากที่มีตาเหมือนคนปกติ (แค่ชั้นตาหลบใน) กลายเป็นคนเบ้าตาพัง เลยทำให้ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง อยู่แต่ในห้อง ไม่ออกไปไหน ไม่ค่อยแต่งหน้า ตอนนั้นเหมือนตัวเองเป็นโรคซึมเศร้ายังไงอย่างงั้นเลยค่ะ (สงสารตัวเองเหลือเกิน ) ไม่คิดเลยว่าจะเลือกทำที่ผิด
ทำตาสองชั้นรอบแรก
กว่าจะได้รูปดี ๆ ต้องกดกล้อง ถ่ายหน้าตรงไม่ได้เลยค่ะ ตาปรือ
ถ้ามองตรง ๆ จะเห็นชัดเลยว่าตาไม่เท่ากัน
ทำตาสองชั้นรอบแรก
สำหรับพั้นช์ความรู้สึกตอนนั้นมันแย่มาก แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะไปเจอกับคนรู้จักที่มีสามีเป็นหมอจักษุพอดดี พั้นช์เลยเล่าอาการตัวเองให้เขาฟังว่า ปวดเบ้าตา เหมือนหลับตาไม่สนิท ชั้นตาไม่เท่ากัน เครียดมากเลยค่ะ สามีเขาเลยบอกว่า แบบนี้ต้องไปแก้ตาแล้วล่ะ ปล่อยไว้นานไม่ดีแน่ เขามีหมอที่รู้จักแก้ไขตาให้ดีขึ้นได้ อยู่ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ลองไปหาให้เขาแก้นะ ตอนนั้นพั้นช์ไม่ไหวที่จะรอ เลยรีบไปที่โรงพยาบาลเลยค่ะ
แล้วสิ่งที่ได้....
ตาสองชั้น วันที่ 7
หลังแก้ตาสองชั้น 7 วัน แผลมันก็จะประมาณนี้ มีรอยช้ำนิดหน่อย ถือว่าปกติ
ตาสองชั้นวันที่ 8 ยิ้มเล็กน้อย แต่งหน้านิดหน่อย รอยช้ำหายบ้างแล้ว
ตาสองชั้น วันที่ 14 แผลหายแล้วค่ะ
วันที่ 14
นี่ไง ชั้นตาสวยเรียวเล็ก มันก็จะมีกำลังใจแต่งหน้าหน่อยน้า กล้าที่จะถ่ายรูปมากขึ้นค่ะ
ความเสียใจ ความผิดหวังตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ มันหายไปตั้งแต่ที่เห็นตาสองชั้นออกมาสวย ไม่มีปัญหาอะไร ดีใจมาก มั่นใจขึ้นมาก กล้าที่จะพบเจอคนข้างนอก ไม่ต้องหลบสายตาเหมือนตอนนั้น ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกมาแก้ตาสองชั้นที่นี่ก่อน ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะต้องไปเจ็บตัวอีกกี่ที ขอบคุณสามีของคนที่รู้จัก ที่แนะนำโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซให้กับพั้นช์ ขอบคุณจริง ๆ ( อันนี้ไลน์ @masterpiececlinic สำหรับคนที่สนใจอยากจะเพิ่มความมั่นใจ หรืออยากจะแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของใบหน้านะคะ ขอบคุณที่อ่านรีวิวของพั้นช์จนจบนะคะ
|