แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tuktikjub เมื่อ 2018-2-17 14:20
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราชื่อตุ๊กติ๊ก วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เราไปแก้จมูกกับทำปากกระจับมาค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า เราทำจมูกมาแล้ว 1 ครั้งซึ่งนานนนมากก น่าจะประมาณ 7-8 ปีได้
ที่คลีนิคแห่งนึงขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ ตอนนั้นที่ทำยังเรียนหนังสืออยู่เลยจร้าา สารภาพตามตรงตอนนั้น
คือทำตามเพื่อน เพื่อนๆในกลุ่มไปทำ เราก็เอาบ้าง ไม่มีการศึกษาข้อมูลใดๆเลย รู้แค่ว่าอยากสวย
เกริ่นมายาวและ เข้าเรื่องเลยดีกว่า จากการทำจมูกในครั้งแรก และเวลาก็ผ่านมานาน มันก็เริ่มจะมีปัญหาคือ
แกนซิลิโคนเอียงจร้าาา ปลายจมูกก็เริ่มบาง ใส เสี่ยงต่อการที่ซิลิโคนจะทะลุได้
แรกๆก็ปลอบใจตัวเองว่าเอียงนิดหน่อยคนอื่นคงไม่สังเกตค่อยไปแก้ก็ได้ แต่พอเริ่มมีคนทักมากขึ้นบ่อยขึ้น
ก็แบบเสียความมั่นใจ เลยคิดว่าต้องหาที่แก้และ เรามีภาพปลากรอบด้วย555+ (ภาพประกอบ)
นี่คือตอนยังไม่แก้จมูกนะ ยิ่งไม่แต่งหน้ายิ่งชัดว่ามันเอียง แหะๆ ส่วนเรื่องปาก จริงๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ไหนๆก็จะเจ็บตัวแล้วก็ทำปากกระจับไปด้วยแล้วกันแค่อยากให้ปากได้รูป ดูจิ้มลิ้มกะเค้าบ้าง
ดูภาพปากไปพร้อมๆกันเลยนะจ๊ะ
ทีนี้พอคิดจะแก้จมูกก็เริ่มหาข้อมูลและถามจากเพื่อนๆที่เคยแก้ แต่ก็ยังไม่ถูกใจ จนวันนึงมีพี่แนะนำว่า
ไปแก้ที่ Dmor สิ ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อคลีนิค ก็ยังเฉยๆนะ แต่พอเริ่มหาข้อมูลในเน็ต
ก็เห็นว่าติดอันดับคลีนิคแนะนำที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการทำจมูกที่ดูธรรมชาติ
และยังใช้เทคนิคการวางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อลดโอกาส เบี้ยว เอียง
ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้นี่ พออ่านเจอแบบนี้ ไม่รอช้า ศึกษาข้อมูลเพิ่มไปอีก
จนตัดสินใจโทรไปเพื่อนัดคิวพบคุณหมอ โดยมีพี่ฝน(เลขาฯ) คอยประสานงาน
และดูแลให้คำแนะนำเบื้องต้นอย่างดี บอกก่อนว่าที่ Dmor มีคุณหมอเก่งๆหลายท่าน
แต่เราเลือกคุณหมอตุ๊ก ปาลิดา คุณหมอมือหนึ่งแห่ง Dmor วันที่ได้เจอคุณหมอตุ๊กตัวจริง
คุณหมอน่ารัก ใจดี และให้คำแนะนำต่างๆทำให้รู้สึกมั่นใจในฝีมือคุณหมอตุ๊กมากขึ้น
ในการแก้ครั้งนี้คุณหมอแนะนำ ให้ใช้กระดูกอ่อนหลังหูในการรองปลายจมูกด้วย
เพราะปลายจมูกเราบางแล้ว ลดความเสี่ยงในการที่ซิลิโคนทะลุ คุณหมอยังพูดอีกว่า
หนูสวยนะแต่หมอทำให้หนูสวยได้กว่านี้อีก5555+ (บ้ายออีกเรา)
ชม.นั้นคือ อะไรที่จะทำให้สวยได้ ทำเลยค่ะคุณหมอและหนูขอทำปากกระจับด้วย
วันขึ้นเขียงก็มาถึง ตื่นเต้นมากขนาดเคยทำจมูกมาแล้วครั้งนึงนะ การแก้ครั้งนี้กลัว
เพราะเป็นการฉีดยาชา คิดไว้เพื่อความสวยตุ๊กติ๊กกก สู้ๆ
เคสเราใช้เวลาหลายชม.อยู่ เพราะทำปากกระจับด้วย ยาวปายยาววววปายยยยยยย!!!
มาดูภาพหลังจากทำเสร็จทันที ย้ำ!*หลังเสร็จทันที*ไม่เจ็บมากอย่างที่คิดทนได้สบายมาก
มีหลายคนอยากรู้ว่าการใช้กระดูกหลังหูเจ็บไหม ตอบจริงๆว่าสำหรับเราเจ็บน้อยสุดถึงน้อยมาก
เพื่อนๆสบายใจได้การใช้กระดูกหลังหูไม่ทำให้หูเสียรูปด้วยนะ ใครที่เล่งวิธีนี้อยู่ก็ลองพิจารณาดูกันได้เลย
มาดูต่อ....
ช่วง 3 วันแรกก็จะบวมเยอะหน่อย คล้ายๆสิงโตนาเนีย555+
ผ่านไป 1 อาทิตย์จมูกกับปากยุบบวมมากขึ้น มาดู
กันนน จิ้มลิ้มขึ้นบ้างม่ะ
เราพักฟื้นแค่ 1 อาทิตย์ก็กลับไปทำงานปกติแล้ว เดี๋ยวให้ดูภาพหลังจากนี้ 2 อาทิตย์
คือ 14 วันหลังจากตัดไหมเสร็จ
เพื่อนๆอาจมองไม่ชัดถึงความต่างทั้งจมูกและปากกระจับ เราเลยทำภาพเปรียบเทียบให้ดู
อย่าไปสนใจเรื่องสีผิวเนอะ แค่ต่างสถานที่และเวลา ต่างแสง แค่นั้น555
และตอนนี้ก็ผ่านมา 4 เดือนกว่าๆ แล้วก็อยากมาอัพเดทให้ดูปัจจุบันกันหน่อยยย
เอาล่ะหวังว่าประสบการณ์ของเราจะช่วยเพื่อนๆตัดสินใจในการเลือกคลีนิคทำสวยได้บ้าง
ไม่มากก็น้อยเนอะ ถ้าใครอยากสวยแบบไม่โป๊ะ สวยธรรมชาติ เหมือนพ่อแม่ให้มา
ก็แนะนำ Dmor เป็นอีกหนึ่งที่ ที่รับประกันความสวยนะจ๊ะ ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านกันจนจบนะคะ (จบเปล่าไม่รู้555)
และขอขอบคุณ คุณหมอตุ๊กกับทีมงานด้วยค่ะ ที่ดูแลหนูอย่างดี ใส่ใจในทุกรายละเอียด
และยังคงคอย Follow up ตลอดขอบคุณมากค่ะ
| 
ตาวิเศษ
โพสต์ 2018-2-17 13:54:09
บุ๊คมาร์ก
แชร์
เนวิเกเตอร์
สมุดโน็ต
Color card
