“ดูดไขมันขา มันจะดีจริงๆ หรอพี่?” เป็นประโยคแรกที่น้องที่ทำงานถามเมื่อเราตัดสินใจที่จะดูดไขมัน “มันคงดีแหละ ไม่งั้นเค้าจะทำกันทั่วบ้าน ทั่วเมืองหรอ” ถึงเราจะตอบไปแบบนั้น แต่ก็มีบ้าง ที่จะรู้สึกไขว้เขว่กับการเดิมพันครั้งนี้ มันเป็นคำถามในหัวมาตลอด ตั้งแต่คิดที่จะดูดไขมัน “มันจะดีจริงหรอ ดูดไขมันขาแล้วเห็นผลจริงใช่มั้ย จะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า” ส่วนใหญ่ในหัวเราก็จะคิดเรื่องไปในเชิงลบ แต่ร่างกายเราก็บอกว่า “ถ้าอยากมีหุ่นสวยๆ ก็ทำเถอะ” คำเดียวเปรี้ยงเดียว หยุดทุกอย่างที่ฟรุ้งซ่านได้ดี “ใช่ ถ้าอยากหุ่นดีก็ทำเถอะ”
มุมโปรดสมัยก่อน ต้องถ่ายรูปครึ่งตัวเท่านั้นค่ะ
ปกติเราเป็นคนที่มีเนื้อหนังค่อนข้างมาก ยิ่งตั้งแต่สะโพกลงไป แทบไม่อยากบรรยายว่าขาใหญ่ขนาดไหน ให้รูปมันเล่าเรื่องเอาเองแล้วกัน แต่ขอบอกไว้ตรงนี้อย่างนึงว่า พอเรามีหุ่นที่ไม่สวย มันทำให้เราเป็นคนเก็บตัว และขี้อายมากขึ้น กางเกงขาสั้นนี่ไม่มอง ไม่ซื้อมาหลายปีแล้ว ยิ่งเวลาถ่ายรูปไม่ต้องพูดถึงเลย รูปถ่ายเต็มตัวไม่มีซักรูป เพราะไม่กล้าถ่าย
ขาใหญ่ขาเบียด เดินทีเครียดเลยค่ะ เพราะขามันเสียดจนเจ็บ
จุดหักเหที่ทำให้เราคิดที่จะดูดไขมันขาคือ เวลาเราเดินขามันเบียดจนรู้สึก”แสบขา” และอีกอย่างคือวิ่งไม่ได้ เพราะมันเหนื่อยมาก พอถึงจุดนั้นเรามานั่งคิดว่าเราจะปล่อยให้ร่างมันพังจริงๆ หรอ เลยทำให้ตัดสินใจจะดูดไขมันขาค่ะ
มาปรึกษากับคุณหมอค่ะ ใส่กางเกงตัวเก่งมาเลย
หลังจากตัดสินใจแล้ว ก็นัดคิวปรึกษาที่คลินิก ย่านสยาม ชื่อมาสเตอร์พีซ คลินิก ตอนประเมินคุณหมอเค้าก็ดูหนักใจอยู่นะ เพราะเค้าบอกว่าถ้าคนที่อ้วนมากไปก็จะไม่เหมาะกับการดูดไขมันซักเท่าไหร่ เพราะการดูดไขมันเป็นการดูดส่วนเกินออกค่ะ ไม่ใช่การลดความอ้วน ยิ่งถ้าร่างกายอ่อนแออาจมีผลข้างเคียงได้ แต่เราก็อยากดูดไขมันจริงๆ เลยขอคุณหมอว่า “ขอดูดไขมันตรงขาแค่พอให้เราได้เดินได้ แบบขาไม่เบียดก็ได้ เพราะแค่ตอนนี้จะออกกำลังกายยังทำไม่ได้เลย เพราะขามันเบียดมากเกินไป” คุณหมอเลยตกลงที่ทำให้ แต่คุณหมอก็บอกว่าจะทำให้แบบที่เซฟกับตัวเรามากที่สุดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับร่างกาย เราประทับใจตรงที่คุณหมอใส่ใจและไม่เห็นแก่เงิน แต่เห็นแก่ลูกค้าจริงๆ ค่ะ
มาดูดไขมันขาแล้วนะคะ ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ดีใจมากกว่าที่จะได้เอาไขมันออกไป
ส่วนที่คุณหมอประเมินมาว่าเราต้องดูดไขมันออกจะเป็นช่วงต้นขา สะโพก และแก้มก้น เพื่อให้เรามีรูปร่างที่ได้สัดส่วนมากขึ้น จากที่เราสอบถามเครื่องดูดไขมันของที่นี่เค้าใช้เป็นเครื่อง Vaser Liposuction 2.2 ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด มีข้อดีตรงบวมช้ำน้อยและลดผิวเปลือกส้มได้ดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า
ไขมันที่ออกมาค่ะ คุณหมอทำดีมาก ไม่เจ็บเลยค่ะ
หลังจากดูดไขมันขาเสร็จเราถ่ายภาพไขมันไว้อยู่ ดูไม่ได้เยอะมาก (แต่หลังจากที่ทำไปได้ 1 เดือนก็เห็นผลดีอยู่เหมือนกันค่ะ) หลังจากทำเสร็จคุณหมอแนะนำวิธีดูแลตัวเองว่าควรทำอย่างไรบ้าง และแนะนำเรื่องการออกกำลังกายให้อีกด้วย เพื่อให้ขาเรียวอยู่กะเราไปนานๆ
อาทิตย์แรกขายังบวมอยู่ค่ะ เลยไม่ได้ดูเล็กลง แถมมีรอยช้ำอยู่ด้วย เลยใส่ขายาวกับซัพพอร์ตไว้ตลอดวันค่ะ
14 วัน ก็ใส่ขาสั้นได้แล้วค่ะ ไม่มีรอยช้ำให้เห็นแล้ว ซัพพอร์ตก็ยังใส่นะคะ แต่มีถอดบ้างให้ขาได้หายใจหน่อย
|