ดู: 15660|ตอบกลับ: 14
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

fraxtional laser : fine scan เทียบกับ fraxel

[คัดลอกลิงก์]
พอดีไปเจอมาน่าจะมีประโยชน์กับ สมาชิกเลยเอามาฝากครับ
ให้เครดิต บทความของ นพ. จรัสพล รินทระ

Fine Scan 1550 แตกต่างจาก Fraxel อย่างไร
จริงๆ ทั้ง Fine Scan 1550 และ Fraxel รุ่น Re:Store ต่างเป็น Erbium Fiber Fractional Laser ที่ความยาวช่วงคลื่น 1550 nm เหมือนกัน ( ที่ต้องบอกรุ่น เพราะ Fraxel ที่หลายรุ่น เช่น Fraxel Re:pair คือ Fractional CO2 Laser 10,600 nm, Fraxel Re:fine คือ Erbium Fiber Fractional Laser ที่ความยาวช่วงคลื่น 1410 nm ) เพียงแต่ Fraxel Re:Store เป็นเครื่องนำเข้าจาก USA ขณะที่ Fine Scan 1550 เป็นเลเซอร์ที่ประกอบในประเทศ แต่ใช้อะไหล่แท้ จากอังกฤษ และหัวอ่าน Scanner จาก อเมริกา ซึ่งคิดว่าน่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ น่าสนับสนุน ที่เรามีเลเซอร์ ที่ประกอบในประเทศที่มีคุณภาพและหน้าตาดีมาก ไม่อายใคร และตอบสนองต่อผิวคนเอเซีย โดยเฉพาะ คนไทย มี parameter ที่เหมาะสม เพราะผ่านการทดสอบกับอาสาสมัครคนไทย มากกว่า 200 ราย โดยได้รับความร่วมมือ. จากวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำ (จุฬา รามา ประสานมิตร) และมีบทความทางการแพทย์ศึกษาในอาสาสมัครคนไทย ถึง 5 บทความ ซึ่งมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เมื่อพิจารณาแล้ว FINESCAN จึงถูกพัฒนามาเพื่อผิวของคนไทยจริงๆ ซึ่งพบว่า ได้ผลดีใกล้เคียงกับ Fraxel Re:Store แต่ผลข้างเคียง เรื่อง รอยดำ รอยแดง หลังทำ จะน้อยกว่า Fraxel Re:Store ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เลเซอร์ตัวนี้ ส่วนใหญ่จะถูกศึกษาในคนผิวขาว และแน่นอนพารามิเตอร์บางอย่าง จึงเหมาะกับผิวขาว ของฝรั่งมากกว่า ผิวแถบบ้านเรา จึงไม่แปลกใจ ที่หลายๆ คลินิกความงาม ได้นำเครื่องเลเซอร์รุ่นนี้ เข้ามาให้บริการ

Fine Scan 1550 คือ

เลเซอร์ ประเภท Erbium Fiber Fractional Laser ที่ความยาวช่วงคลื่น 1550 nm จัดเป็น Non-Ablative Fractional Resurfacing Laser โดยมีหลักการทำงานหรือระบบการยิงเลเซอร์ ด้วยเทคนิค Fractional Photothermolysis ( FP) โดยการยิงแสงเป็นลำเล็กๆ จำนวนมาก เพื่อทำให้เกิดการทำลายที่ผิวหนังเป้าหมาย เช่น รอยหลุม รูขุมขนกว้าง หรือแผลเป็นต่างๆ แล้วก่อให้เกิดการบาดเจ็บเล็กๆ (microinjuries) หลังจากนั้นก็จะเกิดการสมานแผล และสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลังทำ ผิวหน้าจึงกระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง รอยหลุมตื้นขึ้น รอยด่างดำ จางลง หรือ แพทย์บางท่าน จะเรียกเลเซอร์ประเภทนี้ว่า Semi- Ablative Fractional Resurfacing Laser (คือลอกผิวหน้าได้บางส่วน หรือแบ่งส่วน ) โดย FINESCAN 1550 สามารถจะยิงพลังงาน ลงสู่ผิวได้ลึกที่สุดถึง 1.5-2 มิลลิเมตร (2000ไมโครเมตร) ทำให้แพทย์สามารถเลือกปรับพลังงาน ให้ตรงกับรอยโรคได้มากที่สุด ซึ่งยากที่เลเซอร์ในรุ่นเดียวกันจะทำได้
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-9-25 23:16:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Fine Scan 1550 นำมารักษาอะไรได้บ้าง
1. รอยหลุมสิว : จัดเป็นข้อเด่นของเลเซอร์ประเภทนี้ เพราะนำมาทดแทน Dermaroller,Dermapoints แบบไร้ที่ติ เพราะตอนนี้จะหา Dermaroller คุณภาพดีๆ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว และพบว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องของ Dermapoints ที่หลังทำจะแดงนานกว่า และกว่ารอยแดงจะหาย จากการทำ Dermaroller,Dermapoints ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ขณะที่รอยแดงหลังทำ Fine Scan จะหายใช้เวลาเพียง 3-5 วัน และผลการรักษาพบว่า หลังทำ Fine Scan เพียงครั้งเดียว ผลการรักษาพบว่า รอยหลุมตื้นขึ้นประมาณ 30% ( จากผลการวิจัย ในอาสาสมัครคนไทย 119 คน จาก สถาบันแพทย์ (รามา ) และพบรอยดำหลังทำ เพียง 2.5 %
2. รูขุมขนกว้าง : ใช้หลักการรักษาแบบ Rejuvenation โดยลอกผิวด้วยเลเซอร์ด้วยเทคนิค Micro-Laser Peel จึงเลือกระดับความลึกของการลอกหน้าได้ตามสภาพผิวหน้าและสีผิวของคนไข้ ตั้งแต่ 1/10มิลลิเมตร –2 มิลลิเมตร :ซึ่งถ้าใช้พลังงานต่ำ ก็ได้ผลน้อยและช้าแต่ผลข้างเคียง (เช่น รอยดำ รอยแดง) ก็จะน้อย ซึ่งถ้าใช้พลังงานสูง ก็ได้ผลดีและเร็วแต่ผลข้างเคียง (เช่น รอยดำ รอยแดง) ก็จะมากตาม และต้องมีการพักฟื้นหลังทำ
3. ฝ้าชนิดตื้น เม็ดสีผิวผิดปกติ กระชนิดตื้น : เช่นกัน โดยการลอกออกด้วยเลเซอร์ เพียงแต่พลังงานที่ใช้ควรจะเหมาะสมกับเม็ดสีลานิน แม้จะได้ผลไม่สู้กลุ่มเลเซอร์เม็ดสี ( Q-switch Nd:YAG เช่น Revlite,Medilte C-6 ) แต่ก็มีบางที่นำมาใช้รักษาปัญหานี้ ได้ผลดีระดับหนึ่งเช่นกัน
4. ริ้วรอย เหี่ยวย่น รอบดวงตา : ใช้หลักการรักษาแบบ Rejuvenation เพียงแต่ปรับลำแสงให้เกิดการทำลายแบบ microinjuries เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นตื้นขึ้น ผิวหน้ากระชับขึ้น โดยพบว่า มีการวิจัยในอาสาสมัครคนไทย 20 คน (รพ.รามา) พบว่า หลังทำ 8 ครั้ง ห่างกันทุก 1 อาทิตย์ พบว่าริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา ดีขึ้นประมาณ 40-50%
5. รอยแตกลาย : พบว่าได้ผลดี และเจ็บน้อยกว่าการทำคาร์บอกซี่ ใช้เวลาน้อยกว่า หลักการก็เช่นกัน คือ ปรับลำแสงให้เกิดการทำลายแบบ microinjuries เพื่อทำลายพังผืดหรือเม็ดสีผิวผิดปกติ ที่รอยโรค กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และสร้างเม็ดสีเมลานินใหม่ สิผิวที่แตกลาย ก็จะค่อยจางลดลง โดยพบว่า มีการวิจัยในอาสาสมัครคนไทย 22 คน (มศว) พบว่า หลังทำ 3 ครั้ง ห่างกันทุก 4 สัปดาห์ พบว่า ริ้วรอยแตกลายดีขึ้น 70-90%
6. การรักษาสิวอักเสบเรื้อรัง : เนื่องจากปัญหาสิวอักเสบ ในบางคน มีสาเหตุจากความผิดปกติของต่อมไขมัน หรือท่อไขมัน ซึ่งต้องรักษาต่อเนื่อง และใช้เวลาในการรักษานาน ซึ่งการรักษาสิวแบบเดิมๆ เช่น การทายา พบว่าอาจจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ หรือการทานยา อาจจะมีผลข้างเคียงได้ เช่น กลุ่ม โรแอคคิวเทรน จึงได้มีการทดลอง รักษาคนไข้กลุ่มนี้ ด้วยการทำ Fractional Laser พบว่า นอกจากจะทำให้ปัญหาสิวอักเสบ จากสาเหตุดังกล่าวดีขึ้นได้เร็ว และยังทำให้รอยแดง รอยดำ จากสิว ดีขึ้นได้ด้วย คล้ายๆ กับการใช้ Dermaroller มารักษาสิว

Fine Scan 1550 มีขั้นตอนการรักษาอย่างไร
ก่อนเริ่มรักษาจะต้องทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะรักษาให้เรียบร้อย จากนั้นจึงใช้ยาชาชนิดครีมทาทั่วบริเวณดังกล่าวทิ้งไว้ประมาณ 45 นาทีจนยาชาออกฤทธิ์ หรืออาจจะพ่นด้วยไอเย็นจัด จากเครื่องทำความเย็น ( เช่น Cool –Jet) หลังจากนั้น แพทย์จะใช้หัวเลเซอร์สัมผัสเบา ๆ บริเวณผิวและเคลื่อนไปมาให้ทั่วบริเวณจนครบตามขนาดพลังงานที่คำนวณไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะยิง 4-8 เที่ยว (passes) แล้วแต่ปัญหาและสภาพสีผิว หรืออาจจะมีการย้ำเฉพาะจุดของรอยโรค ที่ต้องการเน้นโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 20-30 นาที

การดูแลหลังทำ Fine Scan 1550 หลังการรักษาท่านอาจจะมีอาการแดงเรื่อๆ ทั่วใบหน้า และ/หรือมีความรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณที่รักษาคล้ายอาการถูกผิวที่ไหม้แดด ดังนั้นจึงควรทาครีมลดรอยแดง หรือโลชั่นลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดแรง ๆ อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ หากจำเป็นควรทาครีมหรือโลชั้นกันแดด อย่างไรก็ตามท่านสามารถกลับไปทำงานหรือเข้าสังคมได้ตามปกติหลังรักษา เพราะหลังทำวันที่ 3-4 อาจจะพบสะเก็ดเหมือนผงพริกไทย ติดที่ใบหน้า หรือผิวหน้าอาจจะรู้สึกสากๆ เล็กน้อย แต่ไม่ถึงอาทิตย์ ผิวหน้าก็จะลอกออกหมด ท่านจะเห็นความแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-9-25 23:17:00 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Fine Scan 1550 ต้องทำบ่อยขนาดไหน
จำนวนครั้งของการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง ก็แตกต่างกัน เริ่มต้นตั้งแต่ 1000 บาท (ต่อหลุมสิว) หรือ ประมาณ 5,000-8,000 บาทแล้วแต่ปัญหาที่ต้องการรักษา ดังนั้นผู้ที่สนใจควรได้รับการตรวจสภาพผิวจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน สำหรับการดูแลเรื่องแผลเป็นหลุมสิว Fine Scan1550 ควรทำอย่างน้อย 4-6 ครั้ง ห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์ หลังการรักษาครั้งแรกพบว่าได้ผลดีขึ้นประมาณร้อยละ 30 แต่จะเห็นผลชัดเจนภายหลังรักษา 3 เดือน หรือพบว่าหลังทำการรักษาประมาณ 5-10 ครั้ง พบว่าผลการรักษาจะได้ผลมากกว่า 60-80% ผลการรักษาจะคงอยู่ตราบเท่าที่ท่านเอาใจใส่ดูแลผิวพรรณอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

แสดงความคิดเห็น

มีที่ไหนบ้างค่ะ ที่ราคาเบาๆหน่อย (งบน้อย) ขาแตกอ่ะอยากหายม๊ากๆ  โพสต์ 2011-5-17 01:29
ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์
ขอบคุณนะคะ อยากทำเจงๆ แต่เวลามีสี่อาทิตย์ ทำสองครั้งจะได้เรื่องมั้ยน๊อ แถมจะไปเสริมจมูก ตัดปีก จะทำเลเซอร์ได้มั้ย
ใครรู้มั้งเอ่ย
กำลังสนใจอยากจะทำเลเซอร์พอดี ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-9-26 14:56:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ได้ยินว่าได้ผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ประมาณ 30% ขึ้นอยู่กับปัญหานะครับ
ผมว่าเครื่องตัวนี้ O.K.เลย สำหรับคุณภาพที่ได้รับ
8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-9-26 14:58:05 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุณนะคะ อยากทำเจงๆ แต่เวลามีสี่อาทิตย์ ทำสองครั้ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย pfo เมื่อ 2010-9-26 10:17


ทำไรก่อนคงต้องปรึกษาคุณหมอละครับ
ผมมีนัดเข้าไปทำตากับ fractional วันที่ 10/10 นี้ครับ เดี๋ยวเอาผลมาบอกครับ
ตอบกลับ 8# lovearmy


    พี่ไปทำเลเซอร์ที่ไหนเหรอค่ะ

แล้วพอจะรู้คอร์สที่ไหนราคาไม่แพงๆบ้างค่ะ


พอดีมีปัญาหลุมสิวมานานแล้ว อยากทำบ้างค่ะ


แต่พอจะทราบมาบ้างว่าคลีนิคแต่ละที่ราคาไม่เบากันทั้งนั้นเลยค่ะ
เลเซอร์ตัวนี้ผมจะทำแน่นอนครับ เป็นโปรเจ็คต่อไปเลย
^^
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-9-28 21:28:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกลับ  lovearmy


    พี่ไปทำเลเซอร์ที่ไหนเหรอค่ะ

แล้วพอ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย mamame เมื่อ 2010-9-26 19:53


ใช่ครับ แต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน ยังไงลองหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพก่อนหลายๆ ที่นะครับ
บางที ที่ๆ ราคาแพงสุดอาจไม่ได้ดีที่สุด และ ที่ๆ ราคาถูกก็อาจไม่ได้ดี และไม่คุ้มค่านะครับ

ลองพิจารณาดูนะครับ จากข้อมูลในบอร์ดนี้ก็พอมีครับ
จะไปทำเหมือนกัน ครับ แต่เปง ที่ ไซแอมคลิ... มีโปรโมชั่นช่วงนี้  เก็บตังค์อยู่  ทำแล้วหลุมสิว ตื้น ๆ จาดีขึ้น(ไม่รู้เจงป่าว เพราะเครื่องเป็นตัวเดียวกับของ ถาบันผิวหนัง นำเข้าจาก เมกา เง้อ  หาข้อมูลอยู่นานคับ กว่าจะตัดสินใจทำ พอตัดสินใจทำ ก็ต้องเก็บเงินเพื่อยื้อวัยให้นานที่สุด ม่ะอยากแก่
เคยไปทำที่หมอคนหนึ่งเเถวเเยกอโศก รอยดำ ทำหลายครั้งมาก...หมดไปหลายหมื่นเดี๋ยวก็บอกมีไฟน์สเเกนตัวใหม่มา ได้ผลดี เอาเราเป็นหนูทดลองเลย ยิงมารอยดำกว่าเดิมไม่หายเเต่กลับขยายกว้างตามเเนวยิง เลย ทำอยู่หลายครั้งจนสังเกตว่าเสียค่าโง่ให้หมอลองยา ระวังด้วยน่ะค่ะ
พี่เราทำหมดทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะ กรอหน้า,ipl,Fine Scan ขาดแต่ดีมาโรเรอร์ เนียะแหละ เราเองก็เคยทำ พอดีเราเป็นคนรูขุมขนกว้าง แล้วก็มีหลุมสิว ก็เลยตัดสินใจไปทำ Fine Scan มา 4 ครั้ง  ตอนทำพวกหลุมสิวก็ดีขึ้นนิดหน่อย(ต้องสังเกต) แต่รูขุมขนยังกว้างเหมือนเดิม ผ่านมา 3 ปีแล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม (สังสัยหนังหน้าจะหนาเกิ้น) แอบเสียดายเงิน

สำหรับเรา เราว่ากรอหน้า หน้าเรียบขึ้นจริง เห็นผลชัดเจนที่สุด (ดูจากที่พี่เราทำมา) แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือต้องปิดพลาสเตอร์ที่หน้าเป็นเดือน แล้วผิวหน้าก็บาง รองมาก็ Fine Scan อันนี้จะเห็นผลดีในช่วงแรกๆที่ทำ แต่พอนานๆไปเหมือนว่าผิวมันยุบ หลุมสิวก็กลับมาเหมือนเดิม(รวมทั้งตัวเราเองด้วย) ส่วนipl ไม่เห็นความแตกต่างเลย (ทำประมาณ25ครั้งได้มั้ง หรือมากกว่านั้นก็ไม่แน่ใจ)

แต่สำหรับคนอื่นไม่รู้ว่าได้ผลหรือป่าวนะ ยังไงก็สู้ๆ เพื่อผิวหน้าที่เนียน ใส กันทุกคน:)

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

เครื่องเลเซอร์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bancream เมื่อ 2012-11-23 11:49

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้