ดู: 4851|ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ฟิลเลอร์/โบท๊อกซ์/ร้อยไหม] แชร์ประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครั้งแรกในชีวิตกับคุณหมอต้น Amarante Clinic *รูปเยอะมาก

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย lookkeawdiary เมื่อ 2017-1-6 20:16

ตามหัวข้อเลยนะค้า วันนี้แก้วจะมาแชร์ประสบการณ์รีวิวการฉีดฟิลเลอร์


เริ่มต้นจากที่ตัวแก้วเองเริ่มกังวลเรื่องของริ้วรอยบนหน้าที่ค่อนข้างชัดขึ้น  ทั้งที่อายุก็ไม่เท่าไหร่เอง T^T
ส่องกระจกแล้วหงุดหงิดใจทุกทีเวลาลาเห็นรอยใต้ตาหรือร่องแก้ม

มีแวบนึงคิดขึ้นมาในหัวว่า " หรือจะพึ่งฟิลเลอร์ดี "

แต่เนื่องจากไม่เคยฉีดอะไรบนหน้าเลย
และบวกกับข่าวด้านลบเกี่ยวกับการฉีดสารต่างๆบนใบหน้า
ทำให้แก้วค่อนข้างกังวลมาก
จึงหาข้อมูลอยู่นานมากเพื่อประกอบการตัดสินใจ

จนได้มาเจอคลีนิคนึงในเว็บไซต์แฟนเพจเค้า
จังหวะกับตอนนั้นทางเพจกำลัง live สดการฉีดฟิลเลอร์อยู่พอดีเป๊ะ
เราเลยเริ่มสนใจนั่งดูอยู่พักใหญ่

ก็เลยตัดสินใจว่า จะฉีดครั้งแรกกับคลีนิคนี้แหล่ะ !!
แก้วก็ได้เก็บรูปภาพและประสบการณ์กับการฉีดครั้งนี้มาเยอะพอสมควร จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่าาา  


คลีนิค Amarate อยู่เซ็นทรัลบางนา ชั้น 5 ถามว่าไกลบ้านมั้ย ไกลค่ะ! 555








ตัดภาพมาเช้าวันรุ่งขึ้นเรายืนอยู่หน้าคลีนิคแล้ว!






เปิดเข้ามาภายในคลีนิค จริงๆจะมีพนักงานยิ้มแย้มคอยต้อนรับเราเป็นอย่างดี แต่เราอาศัยถ่ายช่วงที่พนักงานไม่อยู่หน้าฟร้อนค่ะ

คลีนิคจะเป็นเหมือนคลีนิคเสริมความงามทั่วไปคือมีเนื้อที่จำกัด
แต่ที่นี่ดูจัดวางทุกอย่างได้ดี เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้านค่ะ





ตอนนั้นที่เราไปประมาณ 10.30 น.เช้ามาก เพราะตื่นเต้นนอนไม่หลับ
คลีนิคเพิ่งเปิดเลย คนก็จะไม่ค่อยพลุกพล่านมาก





ตาเราไปสะดุดเห็นประกาศษณียบัตรเยอะแยะมากมาก





ใบอนุญาติของคุณหมอต้นที่เราจะเจอวันนี้




พี่ๆพนักงานเชิญเรามานั่งด้านในเตรียมกรอกข้อมูล
ระหว่างนั่งเราก็นั่งหาข้อมูลไปด้วย
( ดูจากสีหน้าค่อนข้างกลัว555 )






อันดับต่อไปคือเข้าปรึกษาหมอ ระหว่างรอเราก็ได้ถ่ายเครื่องมือต่างๆ
และบรรยากาศมาให้ดู






เครื่องมือครบถ้วนทันสมัยดี






มีใบอนุญาติคุณหมอติดอยู่หน้าห้องด้วย



ลูกแก้วสู้ๆ ไม่กลัวเล้ยยย ( สังเกตุใต้ตา บวมเป่งเป็นร่องลึกมาก )



และในที่สุด เราก็ได้เข้าพบคุณหมอต้นค่าาาา คุณหมอหล่อกว่าในรูปมากสุภาพเรียบร้อย

คือจะบอกว่าเรารัวคำถามใส่คุณหมอไปเยอะมากกกกกกก

คุณหมอต้นก็ใจดีมากกตอบทุกคำถาม

และคุณหมอต้นได้ให้คำแนะนำเราว่าควรจะแก้ไขเรื่องปัญหาใต้ตาเป็นอับแรกก่อน
เพราะใต้ตามีปัญหาค่อนข้างเยอะ


ส่วนเรื่องของร่องแก้มหลังจากฉีดใต้ตาแล้วจะดีขึ้นบ้างเล็กน้อยค่อยว่ากันที่หลังค่ะ




แก้วบอกคุณหมอไปตามตรงว่า แก้วไม่เคยฉีดฟิลเลอร์และค่อนข้างกังวลมาก
เพราะใต้ตาเป็นจุดที่แก้วคิดว่าค่อนข้างหน้ากลัว


แต่คุณหมอตอบคำถามด้วยประสบการณ์ตรงตอบแก้วละเอียดมาก

คำถามหลักๆที่แก้วถามตอบกับคุณหมอก็ประมาณว่า

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสี่ยงตาบอดมั้ย ? มันจะมีผลข้างเคียงระยะยาวมั้ย ? เจ็บมากมั้ย ?
ฉีดอย่างไร? ฉีดกี่ซีซี  ต้องบอกเลยว่า 108 คำถามรัวใส่คุณหมอ 555

แต่คุณหมอต้นน่ารักมาก อธิบายให้เราฟังเกี่ยวกับความกังวลของเรา
การฉีดใต้ตามีที่มีเปอร์เซ็นเสี่ยงตาบอดเพราะเกิดจากหมอที่ไม่มีความชำนาญและใช้เข็มปลายแหลมในการฉีด แต่คุณหมอต้นจะใช้เข็มทู่เพราะฉะนั้นความเสี่ยงแทบจะไม่มี

และได้สรุปการรักษาของเราคือ ฉีดฟิลเลอร์เติมบริเวณใต้ตา ประมาณ 1-2 ซีซี ( แต่ตอนฉีดจริงๆคุณหมอใช้เพียง 1 ซีซีเท่านั้น ) และยกกระชบบริเวณใต้ตานิดหน่อย

เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยเราก็ไม่รอช้าค่ะ เริ่มขั้นตอนกันเลย

** มีต่อในคอมเม้นต์ค่าา ***
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-6 20:10:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย lookkeawdiary เมื่อ 2017-1-6 20:15



ขั้นตอนแรกคือการคลีนหน้าจากเครื่องสำอางค์ให้สะอาด ( เหลือบริเวณคิ้วไว้ )




จากนั้นขึ้นเก้าอี้เพื่อให้คุณหมอวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนก่อนลงเข็มค่ะ

ในใจตอนนอนนี่คือกลัวมากกก แต่มาขนาดนี้แล้วต้องสู้ค่ะ55555




( เงาสะท้อนนั่นคือคนช่วยถ่ายรูปให้เราและพี่พนักงานค่ะ )



จากนั้นคุณหมอก็จัดการไปเตรียมยาและอุปกรณ์พร้อมอธิบายเกี่ยวกับมาตรฐานของตัวยาและอธิบายว่าจะใช้ตัวยาที่มีความหนาแน่นประมาณไหนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมา
ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ( คุณหมอใส่ใจมากค่ะ )









และแล้ว เข็มแรกก็ลงบนหน้าเราเรียบร้อย เป็นเข็มของยาชานั่นเอง

ให้ความรู้สึกจี้ดๆ แต่นับ 1-10 ในใจก็เสร็จ

ขอย้ำแรงๆว่า คุณหมอมือเบามากกกกกกกกก

และเมื่อฉีดยาชาทั้งสองข้างเสร็จขั้นตอนต่อไปคือการเจาะเพื่อเปิดผิว ( เค้าเรียกแบบนี้มั้ย )555






ตอนแรกกลัวมากกก แต่พอเอาเข้าจริงคุณผู้ชมขาาาา นาทีนั้นคิดในหัวละค่ะว่าครั้งต่อไปฉีดตรงไหนดี555555






ขั้นตอนนี้เป็นการเริ่มฉีดฟีลเลอร์และนวดไปเรื่อยๆ คุณหมอบอกว่าฝั่งขวาของเรานั้นมีปัญหามากว่าฝั่งซ้าย (อ้างอิงจากฝั่งของคุณหมอนะคะ )

เพราะโหนกแก้มไม่เท่ากันคุณหมอต้น ละเอียดมาก นิดๆหน่อยไม่ปล่อยผ่าน เก็บทุกรายละเอียดค่ะบอกเลย




การฉีดฟิลเลอร์ดำเนินไปพร้อมๆกับการพูดคุยค่ะ ชิลแค่ไหนถามใจเธอดู55555




อยู่ที่ข้างซ้ายประมาณ 15 นาทีจากนั้นย้ายมาข้างขวา (อ้างอิงจากฝั่งของคุณหมอ )
จะเห็นได้ชัดว่าข้างซ้ายร่องใต้ตาเต็มแล้ว

แต่คุณหมอต้นบอกว่า ยังต้องกลับมาเก็บรายละเอียดให้เป๊ะอีกรอบนึง
คุณหมอละเอียดมากจริงๆค่ะ
เห็นจุดแดงๆข้างขวามั้ยคะ นั่นแหละค่ะ รอยเข็ม มีแค่นั้นจริงๆ



เมือฉีดสองข้างครบ คุณหมอก็กลับมาเก็บรายละเอียดอีกรอบเพือให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
กรณีของแก้วคุณหมอบอกว่าอายุยังไม่มากใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC เท่านั้น

และยังมีฟิลเลอร์เหลือมาเติมชั้นผิวให้ดูเหมือนผิวอิ่มน้ำอีกด้วยค่ะ




แท๊แด่นนนนน เสร็จเรียบร้อยแล้วค่าาา แต่ทำไมตากล้องไม่โฟกัสที่หน้าหนู5555

จากที่เห็นตรงบริเวณข้างๆแก้วทั้งสองฝั่งจะมีจุดอยู่สองจุดเล็กๆ

นั่นคือจุดของรอยเข็ม เล็กมากกกค่ะ ใช้เวลาวันเดียวก็หายดี

และจะเห็นได้ว่า ร่องอารยธรรมใต้ตาของแก้วหายไปอย่างเห็นได้ชัด


3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-6 20:10:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย lookkeawdiary เมื่อ 2017-1-6 20:13

มาถึงช่วง BEFORE AFTER หลังทำเสร็จทันทีกันแล้วค่าาาาา





ด้านที่มีผ้าโพกหัวจะเป็นก่อนฉีดค่ะ




และนี่คือหลังฉีดทันทีค่าาา มีรอยเข็มเล็กๆสองจุดเท่านั้น
สังเกตุตรงใต้ตาดีๆคือหายไปเยอะมาก



บริเวณด้านข้างก่อนฉีด



บริเวณด้านข้างหลังฉีด


หลังจากการฉีดคุณหมอก็แนะนำว่าให้งดแต่งหน้าบริเวณที่ลงเข็ม 1 วัน
และนอกนั้นก็สามารถใช้ชิวิตปกติได้ทุกอย่าง



รีวิวหลังฉีดจากประสบการณ์โดยตรง : อย่างที่บอกเลยค่ะว่าครั้งแรกมีความประหม่า กลัว และหลายๆอย่าง แต่เมื่อมาได้ลองประสบการณ์ตรงจากการฉีดฟิลเลอร์ของหมอต้น Amarante Clinic แก้วค่อนข้างประทับใจมากๆค่ะ เพราะคุณหมอเข้าใจคนไข้มากๆ รวมไปถึงบริการภายในคลีนิคที่ดูเป็นกันเองและให้ข้อมูลครบถ้วนตลอด ถือว่าเป็นการฉีดฟิลเลอร์ที่ครั้งแรกที่แก้วประทับใจมากค่า




สำหรับใครที่อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลีนิคนี้แก้วก็แนะนำให้ลองเสริทหาดูใน FACEBOOK FANPAGE ของ Amarante Clinic เค้าได้เลยนะคะ จะมีวิดีโอตอนที่แก้วฉีดอยู่ในนั้นด้วย * แอบบอกไว้ก่อนว่าแก้วมีถ่ายวิดีโอไว้ด้วย ไว้ถ้าจัดทำเรียบร้อยจะมาแปะให้ดูก่อนนะค้า
ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะมากกก แต่งหน้าใสๆก็เค้าก็ได้แล้วน้าา ไม่ต้องเปลืองคอนซีลเลอร์ใต้ตา หน้าดูสดชื่นมากขึ้นด้วยยย ประทับใจมากค่าาา
กี่วันละคะ ใต้ตาแข็งไหม อยากทำแต่ก็กลัวมันแข็ง
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-8 12:30:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอนนี้ทำมา เกิน 10 วันละคะ อารมณ์เหมือนผิวตัวเองเลยค่ะ ไม่แข็งไม่เป็นก้อน เริ่มมีคนทักว่าหน้าสดชื่นดูผิวดีขึ้นค่ะ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-1-8 12:37:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
lookkeawdiary ตอบกลับเมื่อ 2017-1-6 20:10
มาถึงช่วง BEFORE AFTER หลังทำเสร็จทันทีกันแล้วค่าาาาา

เพิ่มเติมรูปก่อน ( ฝั่งซ้าย ) แหละหลังทำได้ประมาณ 10 วันนะคะ ( ฝั่งขวา )

15935885_1450570558316566_886271807_n.jpg (238.03 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 9)

15935885_1450570558316566_886271807_n.jpg
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้