ดู: 756|ตอบกลับ: 1

[ตาสองชั้น] ทำตาสองชั้นที่พีเมดคลีนิค รีวิวให้ดูแบบละเอียดสุดๆ

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย lulko591 เมื่อ 2016-12-15 20:26

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนฮ่ะ แนะนำตัวก่อน เราชื่อ แบ๊งค์  เรามีประสบการณ์เรื่องทำตาสองชั้นมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง
เรามีความใฝ่ฝันที่อยากทำตาสองชั้นมาตั้งแต่เด็ก แต่เรากลัวการผ่าตัดมาก และมีประสบการณ์ไม่ดีจากที่เจอเพื่อนๆไปทำมาแล้วตาไม่สวย บ้างก็ตาลึกกลวงเหมือนเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ บ้างก็มีแผลเป็นขยุกขยุยไม่เรียบเนียน ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่ฝีมือของหมอคนเดียวหรอกฮ่ะ บางทีคนไข้อยากได้นั่นได้นี่ ไม่ได้ฟังที่หมอแนะนำสิ่งที่เหมาะกับโครงหน้า หรือบางคนไม่ปฏิบัติตามเคร่งครัดเช่น ทานยาฆ่าเชื้อไม่ครบ ปล่อยให้แผลโดนน้ำ ไม่ทายาลดรอยแผลเป็นหลังตัดไหม เป็นต้น

วันหนึ่งมีโอกาสได้ไปงานประชุมหนึ่งโดยบังเอิญเพื่ออัพเดทความรู้เรื่องการชะลอวัยและศัลยกรรม โดยที่ทำงานส่งไปอบรม
ในบ่ายวันนั้นเอง มีคุณหมอหน้าเด็กใส่แว่นคนหนึ่งมาบรรยายเรื่อง Fat graft  หรือการใช้เซลล์ไขมันของตัวเองมาเติมเต็มจุดบกพร่องของใบหน้าให้สวยงามและดูอ่อนเยาว์ พอดูเคสที่คุณหมอนำมาโชว์ โอมายกอดดดด คือดูดีกันหมดทุกคน คือดูเปลี่ยนไปแต่ธรรมชาติ ไม่เฟค เราเลยรู้สึกว่าเขามีฝีมือมากทีเดียว ตอนนั้นเราก็ไม่ตามอะไรต่อ เพราะเราไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่
จนมีเพื่อนสาวของเราคนหนึ่งไปทำตาสองชั้นมา แล้วดูธรรมชาติมาก เลยถามไปทำที่ไหนมา เขาก็เปิดเวปๆหนึ่งส่งมาให้ดู เราร้อง เฮ้ยยย นี่มันคุณหมอคนนั้นนี่ พอเราดูไปเรื่อยๆ ซึ่งเคสที่มาทำกับหมอเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเติมไขมันที่หน้า ทำจมูก ทำตา คือแบบสวยหลังทำกันหมด ดูกลมกลืน เราก็เลยถามราคาเล่นๆ ก็พอรับได้ คิดว่า เก็บตังค์ลองสักตั้งก็ดี เพราะเรารู้สึกตาตี่และตาไม่เท่ากันเวลาถ่ายภาพออกมา ยอมรับว่าภาพรีวิวต่างๆนี่กระตุ้นต่อมอยากของเรามาก

ประกอบกับเราก็ดูหลายๆที่ด้วย ผลงานออกมาคล้ายๆกัน เว้นแต่คนที่มีปัญหาตาไม่เท่ากันมากๆ ของคุณหมอท่านนี้ทำออกมาดูดีกว่า เราจึงตัดสินใจไปพบหมอต้น ปิยพลเพื่อปรึกษาปัญหา
ภาพก่อนทำ
E16_แบ้ง_bf.jpg

หมอบอกว่า ปัญหาที่พบมี 3 ปัญหาด้วยกันคือ
1.ตาชั้นเดียว แต่เมื่อก่อนเราปลอบใจตัวเองว่า สองชั้นหลบใน แต่นานๆจะมาให้เห็นสักที
2.ตาซ้ายเล็กกว่าตาขวา
3.มีไขมันที่เปลือกตาบนเยอะ ควรเอาออกไปด้วย
ตอนที่เราปรึกษาคุณหมอ คุณหมอถามความต้องการของเราว่าต้องการตาแบบไหนเราบอกต้องการตัดแบบธรรมชาติแต่ดูหวานไม่ต้องสูงมาก คุณหมอประเมินดูแล้วบอกว่าสามารถทำได้แต่ต้องเอาไขมันบางส่วนที่หนังตาด้านบนออกด้วย จะทำให้ตาสวยขึ้น
      เราไม่ลังเล ตอบตกลงเหมือนไขสันหลังสั่งการอัตโนมัติเหมือนเก็บกดจึงนัดวันทำอย่างใจจดใจจ่อ
ในวันที่ทำเริ่มเดิมทีหมอวางแผนกับเราไว้ว่าประมาณ 40 นาทีคงจะเสร็จแต่ปรากฏว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพราะหมอละเอียดมากวัดขนาดตาเป๊ะเป๊ะ เพราะตาเราไม่เท่ากัน เพราะต้องทำชั้นตาข้างที่เล็กให้สูงกว่านิดหน่อยเพื่อที่เวลาลืมตาจะได้ดูสมมาตรกัน
ตอนทำไม่เจ็บเลย เจ็บตอนฉีดยาชาเจ็บน้อยกว่าฉีดโบทอกที่กรามเสียอีก5555
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 5 นาทีก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แค่รู้สึกเหม็นเนื้อไหม้เพราะหมอใช้เลเซอร์ในการเปิดแผลแล้วก็รู้สึกตึงตึงตอนเย็บแค่นั้นหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงยาชาหมดฤทธิ์ก็มีปวดบ้าง
E16_แบ้ง_after.jpg

ถ้าใครปวดจนทนไม่ไหวไม่แนะนำให้กินยากลุ่ม NSAID เช่น Ibuprofen เพราะยากลุ่มนี้จะทำให้เลือดแข็งตัวช้า เราแนะนำให้กินยาพาราเซตามอลตัวเดียว ปวดตึงๆ ทนได้ถ้าไม่กรอกตามองบน
หลังจากผ่าตัดควรรีบประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงทำไปบ่อยทุก 20 นาที ในวันแรกถ้ามีเวลา
E16_แบ้ง_1d.jpg

หลังทำอาการบวมช้ำหรือที่เปลือกตา(สีม่วงๆดำๆ)พบได้บ้างหลังจากทำไป2-3วัน แต่จะหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์
E16_แบ้ง_2d.jpg E16_แบ้ง_3d.jpg

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
พยาบาลจะซักถามประวัติทางสุขภาพเบื้องต้น โปรดแจ้งอาการแพ้ยา หรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด และหากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งหมอล่วงหน้า

โปรดงดยาแอสไพริน(aspirin) ไอบูโพรเฟน(Ibuprofen) สารสกัดจากใบแป๊ะก๋วย สารสกัดจากกระเทียม วิตามินอี  ล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ถ้าไม่ทันก็ 1 อาทิตย์

 เจ้าของ| โพสต์ 2016-12-15 20:28:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย lulko591 เมื่อ 2016-12-15 20:38

หลังผ่าตัด
งดล้างหน้า 7 วัน อย่าให้แผลโดนน้ำ ควรนอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวประมาณ 2 ถึง 3 วัน พยาบาลให้เราประคบตาด้วยถุงน้ำแข็งที่ไม่หนักมากจนเกินไปเพื่อช่วยลดและบรรเทาอาการบวมหรือช้ำที่สามารถเกิดขึ้นได้ อาการบวมช้ำนี้จะเห็นได้ชัดเจนในวันที่ 2-3 และจะค่อยบรรเทาลงภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนสำหรับบางคน อย่าตกใจ เป็นเรื่องปกตินะฮ่ะ สำหรับเรา 2 อาทิตย์ก็จางไปหมดแล้ว
E16_แบ้ง_7d.jpg
E16_แบ้ง_10d.jpg

พยาบาลจะสอนวิธีการทำความสะอาดแผลบนเปลือกตา ช่วงแรกหลังทำเราจะมีอาการตาแห้งมาก แนะนำให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง รวมไปถึงการใช้ยาฆ่าเชื้อป้ายแผลวันละ 2ครั้งเช้าและก่อนนอน ร่วมกับการทานยาฆ่าเชื้อ 5 วันจนครบ
E16_แบ้ง_280.jpg E16_แบ้ง_2690.jpg

เมื่อผ่านไป 3 อาทิตย์
E16_แบ้ง_3w.jpg

รอยแผลจากการเย็บอาจจะมีสีแดงและบวมนูนได้ในช่วงแรกไม่ต้องตกใจ ให้รีบทาเจลลดรอยแผลเป็นที่สารพวกซิลิโคน จะช่วยลดอาการเหล่านั้นได้ เราเริ่มทาหลังจากแผลเริ่มสมานกันในสัปดาห์ที่ 2  ผ่านไป 1 เดือนรอยนูนจะเริ่มเรียบเนียนกลมกลืนไปกับผิว
การทานอาหาร เราทานตามปกติ ส่วนอาหารเสริมที่ทานเพื่อเร่งการสมานแผล เพื่อนเราแนะนำสารสกัดจากเปลือกสน เพราะสารโปรแอนโทไซยานิดินในเปลือกสนจะลดการอักเสบและดูแลหลอดเลือดได้ไว เราทานขนาด 300 มิลลิกรัมต่อวัน ตอนเช้าก่อนไปทำงาน ประมาณสัปดาห์ที่สอง อาการแผลนูนเริ่มยุบลงจนเพื่อนๆทักว่าหายบวมไวจัง
ผ่านไปแล้ว 2 เดือน ตาสวยแค่ไหนถามใจเธอดู
E16_แบ้ง_2m (1).jpg E16_แบ้ง_2m (2).jpg E16_แบ้ง_2m (3).jpg

ใครสนใจดูภาพต่อๆไปว่าเข้าที่แล้วจะเป็นยังไงก็เข้าไปดูได้ที่นี่เลย Ig: Song_jae_a
ใครที่สนใจติดตามผลงานก็มี หนังสือเรื่อง Make Up No Make Up แต่งก็สวยไม่แต่งก็ใส (สำนักพิมพ์อมรินทร์)และ Gaymasutra (สำนักพิมพ์ PleaseHealth ไปหาซื้อ่านกันได้เลย ^^
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้