รีวิวทำจมูก ศัลยกรรมครั้้งแรกในชีวิต

me_sa

ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เอางี้แล้วกันเนอะ
เริ่มจากเราอยู่ดีๆก็อยากทำจมูก จมูกเดิมไม่ได้แบนหรืออะไรมากนะ แค่ตรงสันดั้งมันไม่มี
เวลาใส่แว่นทีหลุดวืดๆ คนไม่มีสันเหมือนกันน่าจะเข้าใจเนอะอ่ะดูรูปประกอบ



หน้าสดไปนิดไม่ต้องตกใจกันนะ

ก่อนจะตัดสินใจทำเราติดตามเซลล์ศัลยกรรมคนนึงอยู่เกือบปี เห็นหลายๆเคสทำมาแล้วสวย
มา ราคาก็ไม่แรงเว่อร์ แถมถ้ามีปัญหาในระหว่างรับประกันเค้าตามดูแลตลอด เราเลยคิดเอาก็เอาวะ
ลองดูสักครั้งในชีวิต เลยถามชื่อหมอ คลีนิก มาลองหาข้อมูลดูก่อน แวบมาดูในเว็บดั้งโด่งนี้บ้าง
ตามพันทิปบ้าง  แต่เอาจริงๆไม่เจอรีวิววของหมอคนนี้อ่ะ แต่แบบเออราคามันยั่วยวน
และมีเคสรีวิวออกมาเรื่อยๆ ก็เลยตัดสินใจทำที่ด๊อกเตอร์วีคลีนิคแถวซ.พหลโยธิน 30 กับ อ.ชาญชัย
(อยากจะบอกว่าเลือกทำศัลยกรรมเพราะราคามันไม่ดีนะ ควรเลือกจากฝีมือของหมอมากกว่า
แต่เราทำไปแล้ว และผลมันออกมาโอเคก็เลยสบายใจ) เราทำทรงตั๊กแตนแมนทิส
ทรงฮิตที่ใครๆก็ทำ เราอยากให้จมูกมันสโลบ ปลายพุ่งๆ ก็บอกเซลล์ที่ดูแลไป เซลล์เค้าก็แนะนำดีนะ
ว่าปลายจมูกเรา เนื้อมันน้อยให้เสริมเนื้อเยื่อกันทะลุหรือไม่ก็เสริมกระดูกหลังใบหู เราก็ถามราคา
เพราะสนใจหลังใบหูเหมือนกัน แต่ราคาก็นะ 2 เท่าจากราคาที่จะทำจมูกเลย เราเลยเลือกเสริม
เนื้อเยื่อแทน



นีคือทรงซิลิโคนที่คุณหมอเอามาทาบที่จมูกแล้วเหลาให้เข้ากับรูปทรง ลืมบอกไปว่าเราตะไบฮัม
ด้วย เรามีฮัมตรงข้างจมูกด้านขวานิดนึง อยากบอกว่าตอนโดนฉีดยาชาเราร้องโอ๊ย!!เลย
โคตรเจ็บ โดยเฉพาะตอนโดนฉีดตรงปีกจมูกทั้ง 2 ข้าง และตรงกลางรูจมูกอ่ะ เรานอนน้ำตาไหล
อยู่เกือบ 10 นาที ไม่ได้ร้องนะ แต่น้ำตามันไหลเองอ่ะ นึกถึงแล้วก็ยังกลัวอยู่เลย เซลล์ที่ดูแลเราเข้ามา
ในห้องผ่าตัดด้วย มาจับมือคอยให้กำลังใจ ก็ถือว่าเค้าดูแลดีนะ พอยาชาออกฤทธิ์ก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ
ตอนหมอตะไบฮัมและยัดซิลิโคนเราไม่รู้สึกอะไรเลย เฉยมากกก



รูปนี้คือตอนทำเสร็จทันที เราปกติแล้วน้ำเหลืองไม่ค่อยดี แพ้ง่ายเวลายุงกัดนิดนึง ก็ขึ้นผื่น
เกามากก็เป็นแผล พอมาทำจมูกมันเลยบวมทันทีหลังทำเสร็จเลย

ต่อไปจะมีแต่รูปล่ะนะ



วันที่ 1 ยังมีพลาสเตอร์แปะอยู่ที่จมูก เราไม่ได้ประคบอะไรเลยนะ มีกินยาลดการอักเสบ ลดบวม
และก็ทายาควบคู่ไป ยาReparil Gel อ่ะ เห็นมีหลายๆกระทู้แนะนำไว้ เรากินน้ำมะพร้าวด้วยนะ
อยากหายบวมเร็วๆอ่ะ







จะเริ่มเห็นได้ชัดว่าพอหลายๆวันเข้า ใต้ตาเริ่มช้ำเขียวม่วงมากขึ้น วันที่ 4 เราเริ่มมีการประคบร้อนมั่งแล้ว
เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น พร้อมทายา Reparil Gel กินยาลดบวม



วันนี้น่ากลัว สภาพเหมือนโดนสามีซ้อมมา ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดู เพื่อนตกใจ บอกว่าน่ากลัวมาก
เราลางานหลายวันอยู่นะ เพราะไม่อยากไปทำงานสภาพนี้อ่ะ พอดีพักร้อนยังเหลือ เลยสบายหน่อย



วันนี้แอบออกไปแรด เบื่ออยู่ห้องเลยพยายามแต่งหน้าปกปิดออกไปดูหนังที่โรงหนัง
แถวๆบ้าน แต่เอาจริงๆก็ปิดไม่เนียนหรอก มันก็เห็นรอยช้ำอยู่ดี ไม่รู้คอนซีลเลอร์ไม่ดีหรือฝีมือเราแย่




รอยช้ำเริ่มจางลงบ้างแล้วล่ะ แต่ก็ยังชัดเจนอยู่ จะออกไปไหนทีก็ยังคงต้องใส่แมสปิดหน้า เดี๋ยวคน
เค้าจะตกใจเอา วันนี้ไปตัดไหมแล้วด้วย หมอที่มัดไหมอ่ะ มันแน่นกินเนื้อข้างจมูก ตอนไปตัดออก
อย่างเจ็บอ่ะ แต่อยากสวยก็ต้องทน สโลแกนนี้ใช้ได้เสมอ

me_sa

นี่ครบ 14-16 วัน รอยช้ำหายหมดแล้ว แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่ต้องตื่นเช้ามากเพื่อมาโบกคอนซีลเลอร์อีกต่อไป




รูปสุดท้ายแล้ว จมูกดูสันเป็นคมขึ้นมาทีเดียว มีสโลบแต่เอาจริงๆเรายังไม่พอใจซะทีเดียว เราอยากได้สโลบปลายพุ่ง
อันนี้รู้สึกว่าจะเป็นหยดน้ำนิดๆแทน มันคงขึ้นอยู่กับทรงจมูกและเนื้อจมูกเราด้วยมั้ง แต่คนรอบข้างชมว่าสวยนะ
ไม่เวอร์ แถมมีถามว่าตัดปีกด้วยเหรอ เราไม่ได้ตัดนะ แค่เดิมๆไม่ใช่คนรูจมูกกว้างอยู่แล้ว พอเสริมมันดึงเชิดขึ้นไป
รูจมูกเลยดูแคบลง ก็โอเคแหละนะในระดับนึง ไม่เบี้ยว ไม่เอียง ทำให้หน้าเราโดยรวมดูดีขึ้น (หรือเปล่า)

จบและการรีวิวการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเรารวมค่าเสียหายในการทำครั้งนี้คือ ค่าทำจมูก 7900 เสริมเนื้อเยื่อ
1000 ค่ายา 500 รวมเบ็ดเสร็จเป็น 9400 บาท ก็ยังถือว่าถูกมากอยู่นะ ราคานี้เป็นช่วงโปร ถ้าไม่โปรรู้สึกว่าจะ 12900 บาท
ไม่รวมค่ายาอีก 500 และมีประกันเบี้ยว เอียง ทะลุอีก 3 เดือน ถือว่าใช้ได้แหละ ในราคาเท่านี้

สิ่งที่อยากทำต่อไปก็คงจะเป็นโบท็อกซ์กับร้อยไหมแหละ และอาจมีฟิลเอลร์คางกับแฟตนิดหน่อย เพื่อให้หน้าโดยรวมดูชัด
กว่านี้ ไม่บานเป็นชามข้าวหมา และดูตึงไม่หย่อนคล้อย เราจะ 30 แล้วอ่ะ ก็ดูแลตัวเองนิดนึง แต่เราไม่เอาหน้าวีนะ
เพราะไม่ชอบเป็นการส่วนตัว เรารู้สึกว่าหน้ามันจะเหมือนๆกันไปหมด เราอยากให้มีเอกลักษณ์ของเราคงอยู่


เราขอจบการรีวิวแค่นี้นะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ สงสัยอะไรถามได้ ถ้าเราตอบได้เราก็จะมาตอบนะ