|
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ บล๊อกนี้ขอเผยหมดเปลือกถึงการทำศัลยกรรมจมูกครั้งแรกในชีวิตของเอค่ะ
ขอท้าวความก่อนที่จะทำจมูกครั้งนี้ก่อนนะคะว่าไปไงมาไงถึงทำจมูกได้
จริงๆแล้วเอก็ไม่ได้ไม่มีดั้งขนาดนั้นนะคะ เพราะเอเป็นคนใต้ที่มีดั้งค่ะ ไม่ได้แหมบนะจ๊ะ
แต่จมูกดูสั้น ปลายจะกลม และสันจมูกระหว่างคิ้วอาจจะไม่ได้พุ่งมาก (ทั้งๆที่น้องชายจมูกพุ่งยังกะแขก)
เอก็เฉยๆกับจมูกตัวเองไม่ได้รู้สึกว่าจะไม่มีอะไรกับเค้า แต่เพราะปากที่ห้อย หันข้างแล้วปากกับจมูกอยู่ระนาบเดียวกัน เอไม่ชอบเลย เลยมีโอกาสได้ปรึกษากับคุณหมอมนัส Meko Clinic เรื่องศัลยกรรมปาก ซึ่งนั้นทำไม่ได้ค่ะเพราะเป็นที่กระดูกโครงหน้าของเอ คุณหมอแนะนำทำจมูกให้ยื่นออกมาเล็กน้อยดีกว่า แต่ด้วยความกลัวเจ็บและไม่พร้อมจริงๆ (ง่ายๆคือป๊อด!) เลยไม่ทำจมูก ไปจัดฟันแทน โดนถอดฟันไป 4 ซี่ กับผ่าฟันคุดไปอีก 1 ซี่จัดแบบ Damon ซึ่งจะเข้าเร็วกว่าปกติ แต่จะเจ็บกว่า …..แล้วมาคิดเอิ่มนี่โดนเข็มจิ้มเจ็บตัวเยอะกว่าทำจมูกอีกปะเนี่ย ฮ่าาา
และด้วยเอทำทรีทเมนท์และเลเซอร์ที่เมโกะทุกเดือนตลอดๆ ที่นี่เค้าดังเรื่องศัลยกรรมอยู่แล้ว ทำให้เอเห็นคนเดินเข้าออกมาศัลยกรรมเยอะมาก มาล้างแผล และอีกปัจจัยคือน้องพนักงานที่นี่จมูกเป๊ะ หน้าเป๊ะมาก อดไม่ได้ที่ถามตลอดว่าทำจมูกปะค่ะ? ซึ่งส่วนใหญ่ทำและทำที่นั่น คือสวยธรรมชาติมากค่ะ ไม่ดูหลอกตา ไม่ดูหน้าศัลด้วย ทำให้เออยากทำอีกแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจอีกครั้งว่า “เอาวะ..ทำเป็นทำ” เลยนัดวันค่ะ เอาวันที่เร็วที่สุด ได้วันที่ 1 ก.ค. คือไปถึงทำเลย แต่ด้วยความกลัวเหมือนเดิมแหละขอเจอคุณหมอก่อนขอคุยกับคุณหมอก่อนว่าทรงไหนได้
เมื่อถึงวันนัดคุณหมอก็ใช้คอตตอนบลัชสองอันดึงจมูกลงมาว่าจะทำประมาณนี้นะ โดยเอเอาทรง maymac ให้ดูชอบทรงนี้ แต่ด้วยความที่เนื้อจมูกเอเยอะกว่า จะดึงออกมาไม่เหมือนและอาจจะดูไม่ธรรมชาติ เอเลยบอกคุณหมอขอธรรมชาตินะคะ แค่ให้หน้าดูมิติเวลาหันข้างค่ะ แต่ไม่ต้องพุ่งโด่งมาก กลัวหน้ากระเทย เผื่อไว้เพราะฟันยังจัดไม่เข้าที่ แล้วก็เอารูปตัวเองตอนแต่งหน้าเต็มแบบเฉดดิ้งจมูกเยอะๆให้ดูว่าหมอค่ะ ขอทรงแบบที่เฉดดิ้งค่ะ…(คนอะไรเอาจมูกตัวเองมาเป็นแบบ) คุณหมอเลยบอกว่าต้องตะไบกระดูกตรงสันออกและใส่ซิลิโคนค่ะ เพื่อให้เนียนที่สุด และปลายเชิดเล็กน้อยค่ะ
ซึ่งเอได้แชร์ทั้งหมดนี้ในรูปแบบของวีดีโอด้วยก็ลองดูกันได้นะจ๊ะ
https://youtu.be/AKYpFv8Rnh0
เมื่อถึงวันผ่าตัดอยากบอกว่าตื่นเต้นมากกกกกกก…ชนิดเปลี่ยนใจทันมั้ย 555 แต่ท่องไว้เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็สวยแล้ว คุณหมอนัด 6 โมงเย็น เอทำจริงๆก็ประมาณ 2 ทุ่มค่ะ ซึ่งด้วยความกลัวเจ็บเอเอายาชาแบบทาที่เค้าเอาไว้สักคิ้วอะค่ะ มาทาทิ้งไว้และปิดด้วยที่ห่ออาหาร
ทาจนจมูกชาไปหมดละ ก็กลัวไง จริงๆแล้วไม่ต้องทานะ ถ้าใครที่ไม่กลัวเจ็บ…จริงๆเอไม่กลัวเจ็บค่ะ แต่เอกลัวเข็มมาก คือเห็น หรือรู้สึกว่าต้องเป็นเข็มก็เสียวแล้ว เลยเอาที่สบายใจทายาชาก่อนเลยฮ่าา
พอถึงเวลาพยาบาลก็ให้เอไปเตรียมตัวโดยการคลีนหน้าทั้งหมด และกินยาคลายเครียด 2 เม็ดเล็กๆ ซึ่งจะมีฤทธิ์ทำให้รู้สึกง่วงนิดๆ แต่สำหรับเอไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ เพราะความตื่นเต้นนั้นมีสูงมาก ไม่มีผลอะไรเลยจริง เมื่อเข้าห้องผ่าตัด เป็นวินาที โอ้ยยยยแม่เจ้ากลัววว เป็นห้องผ่าตัดปกติ เตียงนอนธรรมดาไม่ได้ดูตึกเครียดมาก คุณหมอยิ้มแล้วถามเอว่า “คุณเอตื่นเต้นมั้ยค่ะ” และเอตอบคุณหมอไปแบบรวดเร็วว่า “มากค่ะคุณหมอ ฉีดยาชาไม่เจ็บนะคะ”
และแล้วก็นอนลงบนเตียงก็ทำการคลุมผ้าเหมือนเวลาทำฟันเลยค่ะ แต่เว้นช่องไว้ตรงจมูก จากนั้นคุณหมอก็เริ่มทำการวัดและมาร์คจุดให้ตรง จากนั้นก็ฉีดยาชาค่ะ เริ่มจุดแรกคือระหว่างคิ้ว จุดนี้คือทนได้เพราะชาอยู่แล้วระดับหนึ่ง แต่คุณที่พีคมากจริงๆ และเจ็บมากๆๆๆๆๆ คือปลายจมูกด้านใน ซึ่งยาชาที่เอทาไปก่อนนั้นไม่ถึงอยู่แล้วค่ะ คือเป็นอะไรที่เจ็บมาก เพราะเนื้อตรงนั้นอ่อนแบบบอบบางเนอะ แต่พอเมื่อผ่านเข็มนั้นไปแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ ระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ คุณหมอก็ทำการเหลาซิลิโคนและทาบกับจมูกค่ะ หลายครั้งอยู่เพื่อความเป๊ะและเป็นธรรมชาติค่ะ
|
|