เคยแก้มป่อง แต่ตอนนี้หน้าเรียวแล้วค่ะ ไม่ต้องไปตัดไขมันให้ยุ่งยาก

Jessica.ben

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน ขอแนะนำตัวนะคะ เราชื่อ ตู่ เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ เพราะชอบแต่งหน้า สไตล์ต่างๆ ซึ่งการแต่งหน้าแต่ละแบบก็แล้วแต่โอกาสและสถานที่ด้วยนะคะ  ณ ตอนนี้ตู่อายุ 19 ก็พยายามพัฒนาการแต่งหน้าของตัวเองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้เทรนหน้าเรียวมาแรงมากๆ และสำหรับคนที่เกาะกระแสการBLEND หรือคอนทัวร์หน้า ให้ฝึกทำฝึกแต่งบ่อยๆ ก็จะค่อยๆ เก่งขึ้นมาเองนะคะ ใจเย็นๆ  
แต่ถ้าใครคิดว่าตัวเองแต่งหน้าไม่เก่ง ตู่มีตัวช่วยที่จะทำให้แก้มป่อง เป็นหน้าเรียวขึ้นได้ และเป็นชนิดที่หน้าเรียวแบบไม่ต้องแต่งหน้าเลยมาฝากกันค่ะ

มีคนบอกว่าเราหน้าก็ไม่ได้บานนะ รูปหน้าสวยอยู่แล้วจะไปทำอีกทำไม ด้วยความที่เราต้องทำรีวิวแต่งหน้ายังไงก็ต้องมีรูปหน้าที่เรียวสวยได้รูป ประหยัดเวลาในการแต่งหน้าและไม่เปลี่ยนเมคอัพด้วยจ้า55555

        เราต้องสังเกตตัวเราก่อนค่ะว่า หน้าเราเนี่ย หน้าบาน หรือ แก้มป่อง เพราะอะไร  บานอยู่แล้วหรือเพราะว่าอ้วน ดูกันทีละอย่าง แต่สำหรับตู่ ไม่ได้อ้วนแน่นอน

        ไม่รอช้าศึกษาข้อมูลคลีนิค แต่ทุกครั้งที่ทำต้องให้ผู้ปกครองรับทราบด้วยนะคะ สำหรับที่บ้านตู่ไม่ว่าอะไร ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เขาก็สนับสนุน
        สุดท้ายลงเอยที่การแนะนำของคนรู้จัก ปรึกษาหมอคลินิกแถวสยาม เพื่อความมั่นใจค่ะ ตอนแรกบอกว่าถึงต้องขนาดตัดไขมันกระพุ้งแก้มรึเปล่า หมอแนะนำว่าแค่ฉีดโบท็อกซ์ยังไม่แนะนำเลย มันยังไม่เมาะสมกับวัยของเรา อายุเรายังน้อย เดี๋ยวกล้ามเนื้อเหี่ยวก่อนวัย อีกอย่างคือโบท๊อกซ์จะสลายกล้ามเนื้อเรา เลยทำให้ดูหน้าเรียวขึ้น (เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย !!!)รอให้ถึงเวลาก่อน คุณหมอเลยแนะนำวิธีเมโสแฟตค่ะ

หมอจับๆ ดูแก้ม และเหนียง บอกว่าหน้าเราไขมันไม่เยอะ อาจจะลงได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ในใจไหน ๆ ที่บ้านก็ให้มาทำแล้วก็จัดเลยละกัน หึหึ อยากลองมานานละ แค่คอร์สเดียว
ไหนๆก็มาเดินสยามบ่อยอยู่ละ

        หลังจากปรึกษาแล้วก็ตัดสินใจ ทำเลย เพราะหมอให้คำแนะนำดีมากๆ และโชคดีที่หมอว่าง ไม่มีคิวคนไข้ด้วย ใช้เวลาทำไม่นาน
ไปดูขั้นตอนการทำเลยค่ะ

1. ขั้นตอนการทำความสะอาดหน้า

กลิ่นหอมอ่อนๆของคลีนซิ่งมิลล์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายค่ะ และน้ำหนักมือพี่เจ้าหน้าที่นิ่มมาก เขาเช็ดไปด้วยนวดไปด้วยให้สองรอบเลยล่ะค่ะ

2. การเปิดรูขุมขน เป็นขั้นตอนที่ตู่ไม่เคยทำมาก่อนนั่นคือ การพ่นโอโซนร้อนเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขุน สังเกตเห็นละอองมั้ยคะ นั่นแหละไอโอโซนเพื่อเปิดรูขุมขนให้ตัวยาซึมเข้าผิวเราได้ง่ายขึ้น

3. ประคบน้ำแข็งอีกครั้งเพื่อลดอาการบวมช้ำ ก่อนใส่ยาให้ผิว เลยขอให้พี่เจ้าหน้าที่ทางคลินิกถ่ายรูปยาให้ซักอีกนิดนึง

        คุณหมอบอกว่าปกติ ถ้าทำที่หน้า ต้องใช้ lipolytic solution ลดไขมัน แค่ 5 ml. คือ หมด 1 ขวด พอดี มากกว่านั้นก็ไม่มีผล และยาจะถูกขับออกเหมือนเดิมค่ะ

4.พอเสร็จจากฉีด lipolytic solution แล้ว ก็เช็ดหน้าให้สะอาด และทำโอโซนเย็นต่อเพื่อปิดรูขุมขนอีกครั้ง รู้สึกสดชื่นมากค่ะ ฟินเคลิ้มหลับซะงั้น
        ความรู้สึกหลังทำครั้งแรก รู้สึกตึง ๆ หน้า ดูกระจกก็ไม่มีรอยนะคะ แต่ที่ปลื้มมาก คือ ทำแล้วหน้าไม่บวม เดินออกจากคลินิกแบบสวยๆ ได้เลย ^^

มาแบบรวบยอด ขั้นตอนเหมือนกันทั้งห้าครั้ง ครั้งละไม่เกิน 20 นาทีเสร็จ
ตัดภาพครั้งที่สามไป เพราะคล้าย ๆ กันกับ ครั้งที่ 4 นะคะ

มองข้างๆ มันดูวี ยกขึ้นกว่าเดิม

ด้านหน้าแก้มที่ห้อยๆ หายไปเลยค่ะ ยิ่งดูวีมากเมื่อรวบผมขึ้น ที่สำคัญคือ เพิ่มความมั่นใจให้ตู่มากขึ้นแน่นอนตอนออกกล้องและลดระยะเวลาในการBLENDหน้า คอนทัวร์ แต่งหน้าขึ้นเยอะด้วยนะ
ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนเครื่องสำอางค์โดนฝนไปก็จบได้เหมือนกันนะคะ
ปิดท้ายคำคม สำหรับตัวตู่เอง

แค่หน้าเรียวก็ดูแพง แต่งยังไงก็ปังหมด แต่อย่าลดความเป็นตัวของตัวเองไป
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ด้วยนะคะ
สอบถามได้หลังไมค์ และฝากติดตามรีวิวอื่นด้วย ขอบคุณค่ะ

nivet

ทำที่คลีนิคไหนราคาเท่าไร

Jessica.ben

nivet ตอบกลับเมื่อ 2016-7-23 08:43
ทำที่คลีนิคไหนราคาเท่าไร

AMED CLINIC SIAM SOI.3 ค่ะ