รีวิว เสริมจมูกคลีนิคหมอศราวิน สงขลา ครับผม

s36495

สวัสดีครับวันนี้ผมมาขอรีวิวผลการทำศัลยกรรมกับคุณหมอศราวิน นะครับ ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 1เดือนกว่าๆแล้วนะครับ  โดยผมเป็นคนสงขลาแต่โดยกำเนิด ก็เลยศึกษาหาแพทย์ที่น่าจะใว้ใจอยู่ก็ใช้เวลาอยู่นานพอควร ซึ่งในสงขลา-หาดใหญ่ก็มีคลีนิคชื่อดังอยู่่หลายแห่ง แต่ติดตรงที่ว่าผมไม่รู้จัก ก็รู้จักแต่คุณหมอท่านนี้เพราะเนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน และเป็นคุณหมอที่เสริมจมูกให้กับป้าของผม ผมขอเริ่มรีวิวเป็นข้อๆๆดังนี้นะครับ

ตัวอย่างก่อนทำ



ซึ่งสามารถเห็นได้ว่า ผมเป็นคนที่จมูกปลายแบน แล้วที่สำคัญ เบี้ยวด้วย สาเหตุเนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุตอนเด็กๆ(สังเกตุได้จากรอยแผลเป็น)และการเกิดซีสต์ที่ข้างๆปีกจมูก ซึ่งผมก็ได้มาผ่าซีสต์กับคุณหมอท่านนี้ เมื่อผ่าเสร็จก็พบว่าจมูกเบี้ยว เนื่องจากซีสต์ที่กดทับเป็นเวลาหลายปีเลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้จมูกผมเบี้ยว (แต่ใส่แว่นเลยมองไม่ค่อยออก)


ผมก็ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับการทำจมูกของคลีนิคแต่ละที่แต่ละแห่ง บางที่ก็บอกว่าดี บางที่ก็บอกว่าเบี้ยว สุดท้ายก็มาพบกับคุณหมอท่านนี้ เพราะก่อนหน้านี้อย่างที่บอกอะครับ เคยรักษาผ่าซีสต์ที่จมูกเรา ผมว่าอย่างน้อยคุณหมอก็น่าจะเห็นหรือจำเค้าโครงจมูกเราได้ ก็เลยเข้าไปตรวจสอบประวัติเกียวกับแพทย์ท่านนี้ในสมาคมศัลยแพทย์เสริมสวย ก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจเกียวกับคุณวุฒิที่คุณหมอได้ศึกษามา  สุดท้ายก็เลยมุ่งหน้าเข้าไป

ครั้งแรกคุณหมอก็ได้ทำการวัดโครงหน้า คุยต่างๆนาๆว่าจมูกแบบเราจะทำแบบไหน โด่งมากได้ไหม เพราะผมเป็นคนที่มีเนื้อจมูกน้อยและบางซึ่งจะเสี่ยงกับการทะลุได้ แต่ไม่เป็นไร ผมก็เลยบอกหมอเอาแบบที่ธรรมชาติที่สุด ดูดี ไม่โด่งเวอร์จนเสี่ยง หมอก็เลยรับปากว่าจะทำให้ธรรมชาติที่สุด โดยมีซิลิโคนให้เลือก 3 ราคาคือ 8,000/10,000/12,000 ผมเลือกราคา 12,000 ซึ่งเป็นแบบอย่างดีที่สุดของคลีนิค และนิ่มซึ่งเหมาะกับคนที่เนื้อจมูกน้อยและบาง เมื่อคุยรายละเอียดเสร็จก็นัดเข้าห้องผ่าตัดในวันต่อไป

ก่อนทำการผ่าตัดปกติคุณหมอเค้าจะให้ทานยานอนหลับอ่อนๆๆแต่ผมไม่สามารถทานได้เพราะเนื่องจากมีปัญหาเกียวกับการแพ้ยาตัวนี้ ก็เลยได้แต่ฉีดยาชา โดยเริ่มจาก ดั้งบริเวณหัวตา ไล่ลงมา จนถึงปลายจมูก และปลายในรูจมูกทั้ง 2 ด้าน ซึ่งน้ำตาก็ไหลโพละเลย เพราะเจ็บจี๊ดๆโดยเฉพาะ ในรูจมูก หลังจากนั้นคุณหมอก็นำซิลิโคนให้เราดูว่า ตัวนี้แหละที่จะอยู่กับเราตลอดไป แล้วก็นำมาทาบกับจมูก แล้วเหลาไปพลางๆเพื่อรอให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่

เมื่อยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ก็รู้สึกได้เลยว่าคุณหมอ ดึงปลายรูจมูกขึ้นและพยายามยัดอะไรบางอย่างเข้าไป ซึ่งทำให้เราหวาดเสียวใช่ย่อย แต่ก็ไร้ความรู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แล้วก็มีท่อเหมือนท่อดูดเลือดคอยดูดๆๆแหย่ๆในรูจมูกตลอดเวลา ส่วนเจ้าซิลิโคนนั้นก็ได้ยินเสียงหมอพูดกับผู้ช้วยผ่าตัดว่า โด่งไป แล้วคุณหมอก็ดึงออก นำมาเหลาใหม่ แล้วใส่ใหม่ จนกว่าจะได้ขนาดที่คุณหมอพอใจ เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง คุณหมอก็ทำการเย็บแผลเป็นอันเสร็จกิจกรรม แต่หมอให้ผมนอนสักพัก ประมาณ 10 นาที จนลุกจากเตียง เพื่อไปจ่ายเงิน,รับยามาทาน รวมถึงฟังวิธีการดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดและวันนัดมาดูแผล/ตัดไหม

รูปภาพ เพิ่งเสริมเสร็จใหม่ๆ


เมื่อถึงบ้าน หมอแนะนำว่า 24 ชั่วโมงแรกให้ประคบเย็น นอนหมอนสูง และชันประมาณ 30 องศาประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อลดการบวม

รูปภาพ 1 ชั่วโมงผ่านไป หลังจากผ่าตัด


ความบวมก็ค่อยๆๆมาเรื่อยๆๆทั้งๆๆที่ผมประคบเย็นตามที่หมอบอกอย่างเคร่งครัด


เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ถามว่าเจ็บแผลไหม  ผมบอกตรงๆๆเลยนะครับว่า ไม่มีอาการปวดเลย  มีแต่อาการหน่วง หนักๆๆที่หน้าเท่านั้นเอง อาจจะเป็นเพราะเรากำลังประคบเย็นก็เลยช่วยลดการปวดได้ด้วย

เมื่อครบ 24 ชั่วโมงของการประคบเย็น คุณหมอแนะนำให้ประคบอุ่นเพื่อให้เลือดไหลเวียน