|
11. ควรใช้ห้องนอนเพื่อการนอน หรือกิจกรรมทางเพศเท่านั้น หรืออาจมีกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการนอนหลับ เช่น เปลี่ยนชุดนอน อาบน้ำ แปรงฟัน ส่วนกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูโทรทัศน์ หรือทำงาน ไม่ควรใช้ในห้องนอน เพราะอาจทำให้เกิดอาการพะวง หรือกังวลจนนอนไม่หลับได้
12. หากนอนไม่หลับภายใน 10 นาที ไม่ควรกังวล หรือมองนาฬิกา แต่ควรลุกจากที่นอน เพื่อหากิจกรรมอื่นๆ ทำ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ แล้วกลับมานอนใหม่อีกครั้ง เมื่อรู้สึกง่วงนอน
13. ฝึกจิตใจ และสมองให้เรียนรู้ว่า ห้องนอน คือสถานที่ที่ใช้พักผ่อนเท่านั้น ดังนั้นก่อนการนอนหลับ จิตใจ และสมอง ต้องได้รับการผ่อนคลาย โดยให้สัมพันธ์กับร่างกายที่ผ่อนคลาย ห้องนอนที่ผ่อนคลาย รวมไปถึงเตรียมกิจวัตรประจำวันให้พร้อมในการนอน เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และนอนหลับอย่างมีความสุขมากขึ้น
14. ควรควบคุม หรือจัดการกับความเครียดของตนเอง ให้เวลากับตนเอง เพื่อค้นหาสาเหตุของความเครียด โดยวิธีการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นนั้น อาจหาบทความ หรือคำแนะนำต่างๆ มาศึกษา เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางไว้ใช้ในการจัดการความเครียด ทั้งนี้มีอยู่หลายวิธี เช่น การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การทำสมาธิ เป็นต้น
ทั้งนี้ ยังมีอีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ คือ การเผชิญหน้ากับความเครียดโดยตรง เช่น ให้เวลา 30 นาที ตอนเย็นอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง ไม่มีสิ่งต่างๆ มาคอยรบกวน จากนั้นให้เขียนความเครียดหลักๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ลงในกระดาษ ขนาดเท่ากับรูปถ่าย 1 แผ่น ต่อหนึ่งความเครียด โดยเรียงลำดับความสำคัญ จากมากไปหาน้อย เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พยายามตอบคำถามว่า ท่านจะจัดการความเครียดในแต่ละข้ออย่างไร อาจไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไป คำตอบจะชัดเจนขึ้น หรือความเครียดจะถูกลดความสำคัญลงไป
เทคนิค 14 ข้อดังกล่าวข้างต้นนี้ หากทำต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จะช่วยทำให้สมาชิกบ้านไหนที่นอนไม่หลับ สามารถหลับได้อย่างสบาย ฝันหวานตลอดคืน อย่างไรก็ดี ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะครับ จะได้หลับฝันดีกันถ้วนหน้า เพื่อที่จะตื่นรับเช้าที่สดใส มีพลังในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และทำหน้าที่ของแต่ละคนกันต่อไป |
|