|
ภาคต่อคะ หลังจากใช้วิธีอดข้าวเย็นไม่สำเร็จ ก็มาใช้วิะีกินยาระบาย เม็ดเหลือง (เพื่อนๆบางคนอาจเคยเห็นนะคะ เม็ดละบาท) กินเข้าไปแล้วก็จะใช้ยาถ่ายๆออกมา จากกิน1 เม็ด เพิ่มเป็นสอง เป็นสาม จนถึงขั้นกินสิบสามเม็ด เราคิดว่าไม่ไหวละ มันชักจะดื้อยา เลยหยุดยาระบาย ผลคือ ท้องอึดไม่ยอมถ่าย เราเลยเปลี่ยนมากินยาระบายยี่ห้อ งามระหงแบบเม็ด โอเคเลยใช้ได้ผล และเป็นยาที่ทำมาจากสมุนไพร ก็ใช้มาตลอดจนถึงตอนนี้เลยคะ และก็เน้นการกินผัก แต่มีอยู่ช่วงที่ตั้งใจจะลดจริงๆคือเราออกกำลังกาย และได้มีโอกาสมาเป็นแม่ค้าขายน้ำเต้าหู้ ก็เลยผอมเองดดยอัตโนมัติ เพราะการเป็นแม่ค้าขอบอกว่าเหนื่อยมาก ร่างกายทำงานไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่ 8โมงเช้า ถึง4ทุ่ม เราทำงานที่ได้ใช้แรงตลอด ยกหม้อเต้าหู้ทีละครึ่งหม้อ (หม้อเบอร์40 นะคะ) พอเลิกงานเก็บขาย เหนื่อยๆก็กินอะไรไม่ลงแล้วคะ เป็นอย่างนี้มาเป็นสองปี น้ำหนักก็ลงมาเรื่อยๆ เคยลงมากสุดเหลือ47 แต่คนรอบข้างบอกว่าผอมเกินไป ก็เลยกินๆๆๆ ให้น้ำหนักคงที่อยูที่ 50 กิโล ตอนนี้ไม่ได้ลดแล้วคะ อยากกินอารัยก็กิน บางทีกินดึกด้วย แต่ก็ไม่อ้วนแล้วนะคะ สงสัยไขมันจะออกไปตอนทำงานขายน้ำเต้าหู้ หลังจากนั้นเพื่อนก็ทักว่าไปทำอารัยมาหน้าเปลี่ยน (ภาพบนชุดสีม่วง) เราก็บอกว่าไม่ได้ไปศัลยกรรมอารัยเลย แต่ปลายปีที่แล้วตั้งใจจะไปเสริมจมูกที่ยันฮี เราก็ไปถึง รพ.แล้ว ไปคนเดียวนั่งรอพบหมอจนเที่ยง พอเข้าไปปรึกษาหมอๆบอกว่าเป็นคนมีดั้งอยู่บ้างแล้ว ทำไปก็ไม่ต่าง เราเลยตัดสินใจไม่ทำ)
แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.ย. 54 เกิดอยากทำจมูกขึ้นมาทันที เลยดูในเน๊ตและโทรไปที่คลีนิคบุญรัตน์ พยาบาลบอกว่าถ้าจะทำให้มาวัน วันจันทร์ คิวแรก ประมาณ8โมงครึ่ง แต่เรากัวเจ็บ วางสายจากพยาบาลเสด ประมาณบ่ายโมงครึ่ง เราเลยอาบน้ำ แต่งตัวออกไปที่คลีนิคเลย และวันนั้นก็ได้ทำเพราะคิวไม่เยอะ บ่ายสามโมงครึ่ง แล้วทำเสร็จ แล้ว โชคดีมากๆที่ไปแล้วเจอวันที่คนน้อย คะ
ตอนนี้เราทำงาน ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รูปที่เอามาลงในวันนี้ยังไม่เคยให้ใครดูเลยนะคะ ขนาดแฟนเรายังไม่กล้าให้ดูเลย สิ่งเดียวที่ทำในชีวิตนี้คือ จมูกคะ |
|