สวัสดีเพื่อนๆ อีกครั้งนะคะ ช่วงนี้อีฟพอมีเวลา ขอแชร์รีวิวที่ทำมาแบบรัวๆ เลยแล้วกัน 5555 ครั้งที่แล้วอีฟแชร์เรื่องฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไป ใครที่ยังไม่ได้อ่านก็ตามเข้าไปส่องย้อนหลังได้ที่รีวิวหัวข้อ “เติมหน้าผากนูนสวยด้วยฟิลเลอร์ครั้งแรก มาดูผลลัพธ์ที่ได้..!” นะคะ ^^ งานฟิลเลอร์จบไป งานดูดไขมันต้นขาใหม่ก็เข้ามา ล่าสุดเราเพิ่งไปดูดไขมันต้นขากับมาสเตอร์พีซ คลินิก มา(อีกแล้ว 55555)
อย่างที่เคยบอกค่ะว่าเราเป็นคนชอบออกกำลังกาย แต่สำหรับบางคนการออกกำลังกายก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสัดส่วนได้เสมอไป อย่างเราที่เป็นคนมีโครงสร้างกระดูกใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอไขมันส่วนเกินตามต้นขาอีก บอกเลยว่าไขมันต้นขาเป็นอะไรที่ลีนออกยากมาก ต่อให้คุณออกกำลังกายหนักมากแค่ไหน โอกาสที่มันจะหลุดลอยออกไปก็ไม่ได้มีเยอะมาก มันลดยาก! ยิ่งตอนใส่กางเกงสปอร์ตออกกำลังกายยิ่งเห็นต้นขาชัดค่ะ
ก่อนดูดไขมันต้นขา
เราเลยขอใช้ทางลัดไปพร้อมกับการออกกำลังกาย ด้วยการดูดไขมันต้นขาค่ะ และนับเป็นการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตของเราเองเหมือนกันนะ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เราศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีดูดไขมันต้นขาอยู่นานมาก จนเริ่มมั่นใจว่าหลังดูดไขมันต้นขาไปจะได้ผลลัพธ์แบบไหน ปลอดภัยแค่ไหน และต้องดูแลตัวเองยังไงต่อ
เช็คอิน! มาปรึกษาเรื่องดูดไขมันต้นขาที่มาสเตอร์พีซคลินิกค่ะ
เราเลยนัดคิวปรึกษากับคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องดูดไขมันต้นขาจากพี่พนักงานที่รู้จักกันค่ะ แต่ปกติจะจองคิวผ่านไลน์ของคลินิกก็ได้เหมือนกันค่ะ วันปรึกษาคุณหมอจะเอาเครื่องหนีบคล้ายๆ ที่หนีบผ้ามาหนีบที่ขาเรา ตอนแรกอายมาก เพราะคำว่าไขมัน กับคำว่าส่วนเกิน เป็นคำที่ผู้หญิงเราไม่อยากได้ยินกันอยู่แล้ว แล้วนี่ถึงขั้นมาปรึกษาเรื่องดูดไขมันต้นขา.. แต่คุณหมอบอกว่ามีคนไข้เข้ามาปรึกษาเรื่องดูดไขมันทุกวัน วันละเป็น 10 เคส โดยเฉพาะเรื่องดูดไขมันต้นขา เป็นเรื่องปกติมาก ลืมบอกว่าเราได้ปรึกษากับคุณหมอสมบูรณ์ค่ะ คุณหมอขึ้นชื่อเรื่องการดูดไขมันมาก ได้ยินมาว่าเคยประจำอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์กับโรงพยาบาลราชวิถีมาก่อนด้วย คุณหมอสมบูรณ์ประเมินว่าเรามีไขมันที่ต้นขาปานกลาง จะดูดไขมันก็ได้ หรือจะกลับไปออกกำลังกายดูก่อนก็ได้ แน่นอนเราเลือกดูดไขมัน 55555 ก็ตั้งใจแล้วว่าจะเอาไขมันออกไปให้เยอะที่สุด ที่เหลือเดี๋ยวลีนต่อเองไง ^^
ตัวอย่างหน้าตาเครื่องหนีบที่คุณหมอใช้ตรวจตอนปรึกษาค่ะ
ดูดไขมันต้นขาเสร็จแล้ว ไม่เห็นจะเจ็บเลย ><
ตอนดูดไขมันเราไม่รู้สึกเจ็บเลยจริงๆ ค่ะ เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีการให้ยาสลบจากวิสัญญีแพทย์โดยเฉพาะ ระหว่างผ่าตัดเราก็เหมือนจะหลับๆ ไป 55555 แต่เห็นตัวเล็กแบบนี้ใช้เวลาดูดไขมัน 2 ชั่วโมงเลยนะ ตื่นขึ้นมาในห้องพักฟื้นเห็นขวดชมพูๆ วางอยู่บนโต๊ะ ลองมองดีๆ อุ่ย.. ขวดไขมัน!!
|