ดู: 1003|ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ร้อยไหม PDO ปลอดภัย ผ่าน อย. เกร็ดความรู้จากหมออ้วน รักษ์-คุณ

[คัดลอกลิงก์]
[b] การร้อยไหมละลาย PDO
ร้อยไหมละลาย PDO.


              เมื่อ2ปี ที่แล้วประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2554  หมอได้เดินทางไปกรุงโซลประเทศเกาหลี เพื่อดูงานเครื่องมือแพทย์ KIMES exhibition fair ทุกๆปีจะจัดที่ Coex exhibition center (คนเกาหลีเขาออกเสียงว่า โค เอ็ก สึ) ระหว่างที่เดิน ชมเครื่องมือแพทย์ก็เหลือบไปเห็นบูธเล็กๆเอาทีวีมาเปิดให้ดู มีเข็มเสียบหน้าอยู่เต็มไปหมด ยืนดูอยู่สักพักจึงเข้าใจว่าเขาทำเพื่ออะไร เกิดความสนใจเลยไปลงชื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย ตอนนั้นมีคุณหมอคนไทย 2ท่านได้ลงชื่อเอาไว้แล้วเช่นกัน (ต่อมา1ใน2ท่านก็ได้เป็นตัวแทนไป) หลังจากกลับมาจากเกาหลีได้เดือนเดียวก็มีการนำการร้อยไหมละลายเข้ามาสาธิตใน ไทยซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติ สร้างความแตกตื่นในวงการคลินิกความงามอย่างมาก บริษัทต่างๆพยายามแข่งกันทำการตลาดนำไหมPDO(Polydioxanone)เข้ามาขายในไทยกัน ช่วงนั้นหมอจำได้ว่าใครอยากเรียนจะต้องไปเรียนที่เกาหลีและมียอดสั่งกันหลายแสน หมอ เองก็โดนไปกับเขาด้วยเช่นกัน^^  จากนั้นภายใน3เดือนการร้อยไหมละลายเป็นที่นิยมมากในประเทศเราอย่างไม่น่า เชื่อ อัตราค่าบริการเส้นละ3,000บาทกันเลยทีเดียว(ตอนนั้นคลินิกหมอตั้งราคา 1,200บาทต่อเส้น) จากเดิมที่มีไหมPDOเพียงยี่ห้อเดียวต่อมามีเพิ่มอีกมากกว่า 5ยี่ห้อภายใน3เดือน ซึ่งพอจะบอกได้ว่าขายดีกันมากแค่ไหนนะครับ ภายใน6เดือนการร้อยไหมเป็นบริการหลักในคลินิกความงาม เครื่องมือแพงๆที่ซื้อมาฝุ่นเกาะกันเลยทีเดียวเพราะใครๆเข้ามาในคลินิกก็ อยากร้อยไหม นอกจากนี้มีการพัฒนาเทคนิคการร้อยไหมกันแบบก้าวกระโดด เช่นร้อยไหมลดรอยย่นหน้าผาก ยกคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้ว ร้อยไหมลดรอยตีนกา ร้อยไหมทำตาสองชั้น ร้อยไหมใต้ตา ร้อยไหมแก้มลูกส้ม ร้อยไหมเสริมจมูก ร้อยไหมร่องแก้ม ร้อยไหมยกมุมปาก ร้อยไหมปากเซ็กซี่ ร้อยไหมยกแก้มที่ห้อย ร้อยไหมลดกรามให้หน้าเรียว ร้อยไหมกระชับสัดส่วน และมีแม้กระทั่งร้อยไหมกระชับช่องคลอดครับ...(หมอเองก็ฝึกทุกอย่างยกเว้นอัน สุดท้ายที่ขอผ่านไม่ทำครับ)
ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมครับ เมื่อหมอร้อยไหมกันมากขึ้น(คลินิกไหนๆก็ทำ) ปัญหาและผลข้างเคียงต่างๆจึงเกิดตามมาครับ เช่นเดียวกันกับการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่งเมื่อคนทำกันเยอะๆ เราจะสังเกตุเห็นว่า คนนี้จมูกเอียงเบี้ยว คนนี้ทำแกนใหญ่ไป อีกคนก็ปลายสั้นไปนิดไม่มีหยดน้ำ บางคนโชคร้ายทำแล้วติดเชื้อเน่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผ่าตัดเสริมจมูกไม่ควรทำครับ เพราะเป็นผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้และแพทย์แต่ละท่านก็พยายามป้องกัน ผลข้างเคียงเหล่านั้นอย่างสุดความสามารถแล้ว กลับมาที่ผลข้างเคียงการร้อยไหมละลายPDOกันครับ เมื่อมีการทำมากขึ้นความผิดพลาดจากเทคนิคการทำก็เห็นได้ชัดครับ เช่น มีบวมและรอยเขียวช้ำอย่างน่าตกใจ ร้อยตื้นไปมองเห็นเส้นไหมที่หน้า(ตกใจอีก) มีการอักเสบเป็นหนองจากการติดเชื้อ(อันนี้เรื่องใหญ่ หมอที่ทำก็ตกใจตาม) บางคนอาจจะมีปลายไหมโผล่ออกมาสามารถคลำได้(ซึ่งต้องมาให้หมอสะกิดแล้วตัดออก ครับ) และในคนที่ร้อยไหมเสริมจมูกอาจมีไหมโผล่ออกมาจากปลายจมูก และที่สำคัญอีกอย่างคือค่าใช้จ่ายที่สูงมากครับ(ตกใจตอนจ่ายตังค์) ประกอบกับมีการแข่งขันทางการตลาดระหว่างคลินิกความงามด้วยกันเองจึงเกิด คำถามที่ว่า "การร้อยไหมเกิดคอลลาเจนหรือผังผืด???" ซึ่งมีคนถามหมอเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะครับ หมออยากให้เราถามตัวเองว่าคอลลาเจนคืออะไร? แล้วผังผืดคืออะไร? แล้วเราจะทราบว่าทั้งสองอย่างคือสิ่งเดียวกันครับ หากเราสามารถกำหนดได้ว่าให้เกิดผังผืดในแนวไหนเพื่อให้ผังผืดนั้นช่วยยก กระชับใบหน้าหรือแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แล้วเราจะยังเรียกว่าผังผืดหรือจะเรียกว่าคอลลาเจนครับ เช่นเดียวกับแผลเป็นที่มือเราซึ่งก็คือเนื้อเยื่อของเรา(คอลลาเจน) แต่เราเรียกว่าแผลเป็นเพราะไม่สวยและไม่มีประโยชน์ หลายท่านอาจจะเคยทำเทอร์มาจซึ่งเป็นการใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุมาทำลายคอ ลลาเจนเก่าให้ตายไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา เพื่อให้หน้ากระชับตึงขึ้นนั่นก็เป็นอีกตัวอย่างที่เอาผังผืดมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ เราเลยเรียก "คอลลาเจน"
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 14:17:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้

จากที่หมอได้ร้อยไหมละลายมาประมาณ2ปีเต็มๆและจากได้มีโอกาสเข้าฟังงานประชุมวิชาการเรื่องร้อยไหมละลายหลายๆครั้ง พอจะสรุปเกี่ยวกับการร้อยไหมแบบกระชับดังนี้นะครับ
1.ร้อยไหมไม่ได้อันตรายเลยหากทำด้วยเทคนิคที่ดีพอ
2.ผลของการร้อยไหมขึ้นอยู่กับ
   -เทคนิคในการดีไซน์ให้เกิดแนวของผังผืดหรือคอลลาเจนที่จะให้ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยเป็นสำคัญ(ร้อยแบบใส่ไปเรื่อยไม่ดีแน่ๆครับ)   
-จำนวนไหมที่ใช้ หากใช้ไหมมากเห็นผลชัดครับ

3.ร้อย ไหมละลายไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องเช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว ยกคิ้ว และลดกรามซึ่งทั้งหมดควรแก้ไขด้วยการฉีดโบทอกซ์จะดีที่สุดครับ
4. หลังทำควรรับประทานยาปฏิชีวนะและยาลดบวมพร้อมทั้งมาพบแพทย์ตามนัด(ส่วนใหญ่สวยแล้วจะไม่กลับมาครับ)  
5.ไหมละลายPDOสามารถละลายได้ใน 6เดือนถึง 1ปีจริง เพราะมีการทดสอบและวิจัยทางการแพทย์ก่อนแล้วจึงได้จัดอยู่ในกลุ่มที่ละลายได้
ปัจจุบัน ตัวหมอเองร้อยไหมเฉพาะเทคนิคV shapeเท่านั้นครับ ซึ่งถือว่าเห็นผลชัดเจนที่สุดและไม่มีผลข้างเคียงอะไรที่จะต้องกังวลครับ สามารถทำได้ตั้งแต่ข้างละ5เส้นขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ร้อยเองและสภาพความหย่อนคล้อยของแก้มครับ หลังทำ 2-4สัปดาห์จะรู้สึกได้ว่าใบหน้ากระชับขึ้น และอาจจะทำร่วมกับการฉีดโบทอกซ์ก็ได้ครับ

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เดอะพรีเมี่ยม รักษ์-คุณคลินิก @ โลตัส ทาวน์ อิน ทาวน์
Callcenter :  02-9346185 / 086-3551067
Website : http://www.ruk-khunclinic.com
Fanpage : http://www.facebook.com/rukkhunclinic
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-4-12 14:34:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เพิ่มเติมความรู้ในเรื่องความสวยความงาม วิวัฒนาการใหม่ๆ  ติดตามได้ที่

http://rakkhunclinic.blogspot.com/p/blog-page_7097.html
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-12 19:08:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มีปัญหาอยากปรึกษา แนะนำอิบ๊อคหมออ้วนโดยตรงเลยนะคะ

https://www.facebook.com/rukkhunclinic?ref=hl
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-5-19 13:33:14 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อ่านไว้เป็นความรู้ค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้