|
|
เราเข้าพบหมอสุชาติตอนเก้าโมงกว่าๆ เพื่อพูดคุยและเตรียมตัวผ่าตัด จากนั้นก็ขึ้นไปที่ห้องผ่าตัด ผู้ช่วยคุณหมอบอกว่าเก็บผมค่ะ ล้างมือสามครั้งให้สะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เสร็จแล้วก็ล้างหน้าอีกสามครั้งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ รู้สึกแสบตานิดหน่อยค่ะ ล้างจนสะอาดแล้วก็เดินเข้าห้องผ่าตัด ผู้ช่วยคุณหมอก็ให้เราขึ้นนอนบนเตียงแล้วเขาก็ผูกมือทั้งสองข้างติดไว้กับเตียง นอนรอคุณหมอพักนึง คุณหมอก็เข้ามาแล้วก็ถามว่าพร้อมรึยัง ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับเพราะถ้าเราตื่นเต้นจะทำให้แผลหายช้า เลือดจะคั่ง ซึม มากกว่าปกติ เราก็เลยพยายามทำใจให้สบายไม่ตื่นเต้น นอนนิ่งๆ แล้วก็ท่องในใจตลอดเวลาว่า พุธธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด คาถานี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะ เป็นคาถาขององค์หลวงพ่อพุทธโสธร เราท่องตลอดจนกระทั่งคุณหมอทำจมูกฉันเสร็จ เริ่มต้นการทำจมูกด้วยการใช้สำลีจุ่มยาฆ่าเชื้อปั่นที่จมูกเป็นการฆ่าเชื้อโรคและป้องกันการติดเชื้อ เวลาปั่นจะรู้สึกแสบจมูกนิดหน่อยเพราะปั่นเข้าไปลึกพอสมควรค่ะ พอปั่นเสร็จหมอก็ฉีดยานอนหลับ ฉันรู้สึกเหมือนว่าตายแล้วมาเกิดใหม่เลยค่ะ มันวังเวงมาก พอรู้สึกตัวอีกทีมันชาไปทั้งหน้าแล้ว จำได้ว่าหมอใช้สำลีอุดจมูกทั้งสองข้าง ...เหมือนคนตายเลยเนอะ 555 ให้เราหายใจทางปาก เสร็จแล้วเรารู้สึกว่ายามันลงคอหมอเลยบอกว่าให้กลืนลงไปอย่าบ้วนเดี๋ยวเลอะเทอะ ตอนนั้นคุณหมอเริ่มปฏิบัติการกับจมูกแล้วฉันรู้สึกว่าหมอตะไบที่วันดั้งทั้งสองข้าง มันเจ็บอ่ะนะ แล้วก็รู้สึกเหมือนยัดแท่งซิลิโคนเข้าไปในจมูกเสร็จแล้วก็กดทับที่จมูกหลายครั้ง ตอนนั้นเจ็บมากพอสมควรนะเพราะกดหลายครั้งมากเลยสงสัยกดให้ซิลิโคนมันติดกะจมูกมั้ง ทำอยู่ประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็เริ่มเย็บแผลที่รูจมูกทั้งสองข้างให้เข้าติดกัน ตอนเย็บไม่เจ็บแต่รู้สึกเหมือนเข็มเย็บกระสอบเลยอ่ะ...เสร็จแล้วหมอก็เปลี่ยนสำลีที่อุดจมูกให้ใหม่แล้วบอกว่าให้ขยันรีดเลือดบ่อยๆ จะได้ไม่บวมมาก ตาจะได้ไม่เขียวช้ำ ถ้าขยันรีดเลือดก็จะไม่ปวด ไม่บวม และหมอก็นำสก๊อตเทปมาปิดที่จมูกเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจทันที มันรู้สึกตึงไปทั้งหน้าเพราะฤทธิ์ของยาชานั่นแหละ.....ค่ะ
แต่โชคดีมากที่แผลนั้นเจ็บเพียงแค่วันแรกวันเดียว พอวันที่สองไม่เจ็บไม่ปวดเลย เพียงแต่มีเลือดคั่งที่ตานิดหน่อย เอง พอวันที่สามก็เริ่มหายแดง เริ่มจะสวยแล้วค่ะ...เพราะเราทำตามที่หมอแนะนำไงคะ....อันนี้คือฝีมือของคุณหมอุชาติล้วนๆค่ะ....คุณหมอเก่งมากเลยค่ะคอร์นเฟริม.....'''''''และที่สำคัญต้องหมั่นล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำต้มสุกและทายาฆ่าเชื้อทุกวัน หมั่นซับน้ำมูกและทานยาลดน้ำมูก ทานยาสม่ำเสมอ และไม่ทานอาหารหมักดอง ของแสลง เผ็ดจัด ร้อนจัด เพียงแค่นี้เราก็สวยได้อย่างปลอดภัยแล้วค่ะ
|
|
ตาวิเศษ
โพสต์ 2011-5-12 18:26:01
บุ๊คมาร์ก
แชร์
เนวิเกเตอร์
สมุดโน็ต
Color card
