รีวิวเสริมจมูกโดยหมอวรวิทย์

girlicious_galz

สวัสดีค่ะ หายไปนานจากที่สัญญาว่าจะมาอัพเดทศัลยกรรมโดยคุณหมอวรวิทย์ แต่ขอเท้าความจากที่โพสก์ครั้งก่อนว่าจะไปเสริมจมูกกะคุณหมอตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่เกิดความผิดพลาดเรื่องเวลา เพราะว่าตัวนาเดียเองไม่ได้อยู่เมืองไทย เลยค่อนข้างลำบากในการกำหนดวันให้มันเหมาะสม  แล้วก็มาเสียคุณยายช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอีก มีโอกาศได้กลับมาเป็นสิบวันแต่ไม่ได้ขึ้นมากรุงเทพเลย และก่อนหน้าที่คุณยายจะเสียนี้ได้จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วหลังปีใหม่ แต่มาเสียคุณยายกระทันหัน ก็เลยกลับลงมาแบบไม่ได้ตั้งตัว กลับจากงานศพคุณยาย ตอนแรกกะว่าจะขอเลื่อนวันบินจากเดือนมกราคมเป็นเดือนอื่นแทน แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร เพราะจองตั๋วหลายใบต้องไปหลายที่ เลยตัดสินใจ เอาหน่ะ คิดว่ามาพักผ่อนก็ได้ ตั้งสองอาทิตย์ เลยกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ทีนี้มันว่างจัดไง เลยคิดว่าเราจะทำอะไรดี ก็เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆล่ะ ไปทำจมูกดีไม๊ ก็เลยลองโทรๆตอนแรกเลยโทรหาคุณหมอวรวิทย์ แต่คุณหมอบอกจะไปตปท วันที่16-19 ก็เลยไม่ได้นัด เพราะตอนแรกคิดว่าอยากทำวันที่16 มกราคม ทีนี้ก็เลยลองโทรหาหมอภู นัดได้วันที่22 แต่มาคิดอีกที วันที่24 ต้องลงไปหาแม่กลัวจมูกหายไม่ทันเลยลองโทรถามหมอวรวิทย์ใหม่ เลยตกลงกัน ก็เลยได้วันที่20 ตอน8.00 น และได้โอนเงินมัดจำไปหนึ่งพันบาท อันที่จริงตั้งแต่แรกเลยที่ลองมาอ่านที่ดั้งโด่ง นาเดียนั่งดูหลายๆแพทย์ นาเดียก็ตกลงใจเลือกหมอวรวิทย์ตั้งแต่แรก ด้วยเหตุผลที่ว่า หมออยู่ที่ฟอร์จูนด้วย แต่แปลกไม่ค่อยมีคนไปทำด้วย ทั้งที่มีประสบการณ์มานานและที่ฟังมาคุณหมอมีความปราณีต และสามารถทำได้โด่งเหมือนฝรั่ง นี้คือเหตุผลทำไมเลือกท่าน แต่พอไม่ได้ไปทำตอนนั้นก็อ่านอีกหลายๆคุณหมอ ก็เลยสนใจคุณหมอภู เพราะราคาไม่แพงและฝีมือดี แต่เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวย ท้ายที่สุดเลยได้ทำกะหมอวรวิทย์ ในราคา 17,000 ขึ้นราคาจากเดิม  15,000 (แต่ขอตินิดหนึ่งว่า นาเดียจำได้ว่าตอนแรกนาเดียจำได้ว่าอยู่ในราคาเดิม แต่วันนี้ไปจ่ายบอกว่าราคาขึ้นตั้งแต่หลังปีใหม่ ใช่ยอมรับ แต่ตอนนั้นอ่านดูเวปไซด์ของ รพ จุฬาเวช ขอยืนยันยังราคา15,000 ตรงนี้ก็ค่อนข้างไม่พอใจ)

girlicious_galz

จ้ะ รอชมได้เลยค่ะ อัพเดทวันต่อวันเลย อิอิ

girlicious_galz

โอเค เกริ่นมาเยอะแร้นน พร้อมด้วยแอบบ่นๆนิดหน่อย ก็โถๆ ต้องจ่ายเงินเพิ่มตั้งสองพันนิหน่า เอาละนะ จะเล่าเหตุการณ์ระทึกใจให้ฟังแร่ะน่า ก่อนอื่นเล่าตอนเตรียมตัวก่อนนะ กลับไทยมาวันที่15 ตอนกลางคืน วันที่16 ไปดูซุปเปอร์จูเนียร์ (กรี๊ดดดดด)เกี่ยวไม๊ ไม่เกี่ยว แต่อยากบอก อิอิ 17-19ไปสวนผึ้ง เป็นไงเตรียมตัวดีไม๊ หุหุ ไปผ่อนคลายไง จะได้ไม่ตื่นเต้น อิอิ เอาจริงๆก็ได้ ก็ก่อนไปตะลอนทัวร์ กะไปซื้อยาเตรียมๆไว้แล้ว โหยเยอะมาก เฉพาะค่ายา สองพันกว่าอ้ะ คิดดูดิ ร้านยาเค้ามีไม่ครบก็เลยบอกให้เภสัชไปหาซื้อมาให้หน่อย บอกเค้าว่า ไม่ว่างต้องไปตจว และต้องการใช้มากๆพี่เค้าก็ใจดีนะ ก็หามาให้จนครบ น่ารักที่สุด หุหุ โอเค เตรียมตัวพร้อมแล้ว รอจนถึงวันนี้วันที่20 มกราคม ตื่นตั้งแต่7.00น เพราะนัดกะหมอ 8.00น ที่จุฬาเวช นั่งแท็กซี่จากงามวงศ์วาน ถึงเทพารักษ์ นานเหมือนกัน แอบหลับ ~_~!ไปถึงก็นั่งรอคุณหมอ แป๊บนึง และพยาบาลก็เรียกเข้าไป คุยนานมาก(ไม่เกินสิบห้านาที )
หมอ: เคยทำจมูกมาไม๊ครับ หลังจากนั้นจับๆที่จมูก บอกว่าเนื้อเยอะอยู่
นาเดีย:ไม่เคยค่ะ
หมอ:ถ้าตามใจหมอนะ ยกตรงระหว่างคิ้วหน่อย เพราะมันมาหักตรงนี้เลยดูจมูกสั้น และยกตรงปลายแค่นี้พอใจไม๊
นาเดีย:อืม ก็โอเคนะค่ะ แต่ขอมีฮัมพ์นิดนึงนะค่ะ
หมอ:งั้นเอาตามนี้ มีอะไรจะถาม มีอะไรสงสัยไม๊
นาเดีย:ไม่มีค่ะ
(อวสาน)
อิอิ ง่ายๆสั้นๆดีไม๊ เพราะอ่านไปเยอะแล้ว เลยไม่สงสัยอะไร แค่ขอฮัมพ์นิดหน่อยกะขอไหมละลาย เพราะไม่สามารถมาหาคุณหมอได้อีก คุณหมอก็แนะนำว่าไหมละลาย ดูแลยากนิดหนึ่ง พอครบอาทิตย์นึง ต้องเอาสำลีชุบน้ำร้อนหน่อยๆมาเช็ดคราบ ค่อยๆเช็ด จนกว่าจะออก

เอาหล่ะ ถึงเวลาขึ้นเตียงแล้ว ใส่ชุดคลุม ใส่หมวกเรียบร้อย ล้างหน้าด้วยอะไรซักอย่างสีเหมือนเบตาดีน ล้างสองครั้ง แล้วไปนอนรอบนเตียง คุณหมอก็เอารูปมาให้ดู เราก็ดู ๆก็บอกแบบนี้ แบบนี้ คุณหมอก็บอกแบบนี้ไม่มีฮัมพ์นะ เราก็ว่าเอ้าเหรอค่ะ ก็เห็นหน่อยๆนั้นนะ เถียงหมออีก หมอก็เลยชี้ให้ดูอีกแบบ บอกแบบนี้เค้าเรียกมีฮัมพ์ ซึ่งในความรู้สึกมันดูมากไป ก็เลยเปลี่ยนใจงั้นนู่เอาแบบตรงๆไม่เอาฮัมพ์ ขอโด่งแบบฝรั่ง หมอก็บอกว่า โด่งมากไปก็ไม่ใช่ว่าสวย ก็เลยงั้นเอาตามที่คุณหมอเห็นสมควร ดูว่าสวยแล้วกัน ขอมีหยดน้ำด้วย คุณหมอก็บอกว่า หยุดน้ำมีอยู่แล้ว ทำให้ทุกคน โอเค หลังจากพูดคุยเสร็จ คุยหมอก็ให้นอนรอ เอาผ้ามาครอบ เหลือแต่ใบหน้า หลังจากนั้นคุณหมอก็เหลา ซิลิโคน รู้สึกว่านานมาก เพราะเรารอจนหลับไปเลย แกก็ทาบๆเหลาๆ ทาบๆ อยู่แบบนี้ นานมากๆพอเสร็จก็บอกว่าหมอขออนุญาติฉีดยาชา เจ็บนิดนึง โอ้โห.....ไม่นิดแล้วม้างงง น้ำตาเล็ดเลย เรางี้บิดมือตัวเองเลย โหยเจ็บอ้ะ แต่พอเข็มถัดๆไปก็โอเคขึ้น ก็ก็เริ่มตัดๆบอกว่าเจ็บบอกหมอนะ ก็ตัดๆไป แต่ทางซ้ายมันยังรู้สึก ก็เลยบอกว่าหมอเจ็บ แกก็เลยฉีดยาชาเพิ่มไปอีก ทีนี้ก็ตัดๆแงะๆยัด รู้สึก เหมือนมันครืดๆตรงดั้ง ยังจำเสียงได้เลย มันรู้สึกเสียวๆนะ แต่ไม่เจ็บหรอก หมอก็บอกว่าจมูกนาเดีย ทำยากมาก เพราะจมูกสองข้างเหมือนสูงไม่เท่ากัน แกเหลาแล้ว เหลาอีก ก็เลยต้องเพิ่มยาชาบ่อยเพราะเสียเวลาตรงเหลาซิลิโคนแบบซ้ำไปซ้ำมา ครั้งแรกที่ให้ดูเลย มีฮัมพ์ค่อนข้างสูง เพราะจมูกเดิมนาเดียมีฮัมพ์สูงอยู่แล้ว แกเลยเหลาๆลงมาอีก พอโอเค ก็เหลือแต่ดูให้ตรง ทุกอย่างตรง ฐานตรง รูจมูกตรง แต่ไม่เท่าอยู่อย่างเดียวคือช่วงข้างๆมันไม่เสมอกัน แกก็บ่นกะผู้ช่วย เอาไงดี เอาออกอีกนิดนึงไม๊ พูดกะตัวเอง ไม่เอาดีกว่า ไม่รู้เพราะมันบวม หรือยังไง เอายังไงดี แกก็บอกนาเดียว่า มันไม่เท่ากันนิดเดียว ไม่เอาออกดีกว่าเพราะถ้าเกิดมันไม่ใช่ ถ้ามันยุบ มันจะแย่ไปอีก นาเดียเลยเอากระจกมาดู บอกตรงๆนาเดียมองไม่เห็นหรอก กำ ก็บอกแกมองไม่เห็น สายตาไม่ดีเหรอ อ้าว ก็มันดูไม่ออกไง ก็เลยบอกได้แล้ว เอาแบบนี้แหล่ะ จะได้ดูธรรมชาติ อิอิ ก็เลยเย็บไหม เรียบร้อย รับยา เป็นอันว่าเสร็จ  ก็นั่งรถแท็กซี่กลับงามวงศ์วาน แหม เลือกรถได้เหมาะเจงๆพี่ท่านขับแบบ กระตึกกระตัก ก็แอบเจ็บ ถึงห้องปั๊บ อัดยาที่ซื้อมาสองพันกว่าเลย ดีแฮะ ไม่เจ็บเลย แต่ตอนนี้ออกนาเนียแล้ว

girlicious_galz

โอเค ตามความคิดเรานะ สำหรับเราหลังจากที่คุณหมอทำเรียบร้อยแล้ว ค่อนข้างดูธรรมชาติมากเลย หรือเป็นเพราะเราเป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้ว แต่มันมาหักตรงระหว่างคิ้ว กะปลายไม่ค่อยเชิด ดูไม่ค่อยชัด ไม่เป็นสันเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจไปทำนี้ล่ะค่า

girlicious_galz

เดี่ยวเอารูปตอนยังไม่เสริมให้ดูก่อนน่า

girlicious_galz

รูปตอนยังไม่เสริมจ้ะ

girlicious_galz

ส่วนรูปที่เสริมแล้วรอก่อนนะค่ะ แป๊บๆๆๆๆ

girlicious_galz

มาแร้นน มาแร้น หุหุ ราคาเหรอ พูดแล้วอารมณ์เสีย แง๊ๆๆๆๆ อย่างอื่นไม่รู้อ่ะคร่า แต่เสริมจมูกแบบสไตล์เกาหลี ขึ้นมาสองพันอ่ะคร่า คือเรื่องคิวนี้ไม่ทราบจริงๆว่าถึงไหนแล้ว แต่ตอนที่โทรนัด ก็ได้แบบง่ายๆมาก เพราะตอนแรกคือเรากลับไทยวันที่15 ก็เลยโทรถามว่าคุณหมอจะว่างวันที่16 ไม๊ แต่คุณหมอบอกว่า วันที่16-19ต้องไปตปท ก็เลยไม่ว่างไง เราเลยไปจองคิวหมอภูแทน ได้วันที่22 แต่มาเปลี่ยนใจอีกครั้งเพราะ วันที่24ต้องลงใต้ไปหาแม่ ก็เลยกลัวว่าหายไม่ทัน ทีนี้เลยลองโทรหาหมอวรวิทย์อีกครั้ง ก็ลองคุยๆไปๆมาๆได้วันที่20 มกราคม ตอน 8.00 น จ้า  

girlicious_galz

หืม หน้าบวมน่าดูเลย ขนาดอัดยา แต่เราว่าคุณหมอมือหนักพอสมควรนะ แต่ดีหน่อยที่ไม่เจ็บเลยตอนนี้ (กินยาซะขนาดนั้น)

รูปต่อไปนี้รูปหลังจากทำไม่ถึงชม และนั่งรถถึงห้องก็ประมาณ ชม นึง

girlicious_galz

ไม่ถึงชม จ้า

girlicious_galz

ลองนะ ไมรูปไม่ขึ้น

girlicious_galz

จะได้ไมเนี้ยะ

girlicious_galz

แง๊ๆๆๆ

girlicious_galz

นี่เป็นรูปวันแรกที่ทำมาเลยนะค่ะ

girlicious_galz

โอย แง๊ๆๆ ไม่ทราบว่าทำไม ลงรูปไม่ได้ ลงได้แค่นี้เอง งั้นเดี่ยวขออนุญาติผ่านไป เลยแล้วกันนะค่ะ ทำวันที่20/01/11 เดี่ยวจะเอารูปถ่ายจากมือถือลงดีกว่า แต่ทำผ่านมาแล้วเป็นเวลา12 วันนะค่ะ
1.ช่วงวันแรกๆหน้าจะบวมทั้งหน้าเลย เริ่มจากจมูกจะช้ำบริเวณ ระหว่างคิ้ว ผิวช้ำเป็นจ้ำแดงมากๆ พอวันที่สองตรงใต้เบ้าตาบวมช้ำม่วงๆเขียว ทั่วบริเวณเลย วันที่3 น่าเกลียดสุดๆเหมือนโดนคนรุมกระทืบมา บวมอืดไปหมด นี่ขนาดซื้อยามาเตรียมไว้แล้วนะ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย T-T (ช่วงนี้จะทานยาตามที่คุณหมอจ่ายมา พร้อมทั้งประคบด้วยเจลเย็นตลอดทุก2-3ชม.และทานยาใบบัวบกเป็นแค๊ปซูล พร้อมทั้งดื่มน้ำใบบัวบก ทานโปรตีนเสริม พร้อมทั้งผักผลไม้ อัดมันเข้าไปแล้วก็ทาบัวหิมะทั่วบริเวณ พร้อมทั้งทาซีเบล สการ์แคร์ไปด้วย หน้าทำความสะอาดด้วยที่ความสะอาดใบหน้าแบบไม่ใช้น้ำ และไม่แตะต้องใบหน้าเลย)

girlicious_galz

พอวันที่4 อาการบวมจะดูลดน้อยลง แต่อาการเลือดคลั่งบริเวณใต้ตาจะมีมากขึ้น แบบว่าเบ้าตาดำมาก ถึงมากที่สุด โดยเฉพาะตรงหัวตา จะคล้ำมากๆ ที่นี้ทำไงหล่ะ จะกลับบ้านไปหาแม่ด้วย เลยคิดว่าประคบด้วยเจลร้อนดีกว่า ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาประคบแล้วก็นวดๆตรงบริเวณตาไม่ให้โดนจมูก ก็ช่วยได้แต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ถึงวันต้องเดินทางลงใต้แล้ว (ทำเสร็จแล้วไม่ได้ไปหาคุณหมออีกเลย) เพราะแค่สี่วันก็ลงไปนครแล้ว พอไปถึงก็ไปพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลตรวจเช็คร่างกาย ไม่ทราบว่าเพราะเดินเยอะหรือเปล่า วันต่อมาอาการบวมก็ลดลงเยอะด้วยเช่นกัน (วันต่อไปเลยขยันเดิรสุดชีวิตด้วยคิดว่าอาจทำให้เลือดลมไหลคล่องตัว) วันที่5 อดทนไม่ไหวแล้ว คิดว่า ทำยังไง ทาอะไรดีนะ ที่จะทำให้เบ้าตาจางลงได้ เลยไปซื้อรีพาริลมาทาอีก ตื่นขึ้นมาตอนเช้าใต้ตาสีจางลงเยอะมากๆเลย แต่ก็ยังคล้ำอยู่ เหมือนคนไม่ได้นอนมาเป็นสิบชาติเลย ก็ทำอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ เป็นสิบวันก็นอนหมอนสูงตลอด จะมีตะแคงบ้างก็แค่ซักไม่กี่นาทีให้หายเมื่อยแค่นั้น แต่มาตะแคงช่วงวันที่9-10แล้ว เพราะกลัวมันเอียงนี้ล่ะค่ะ ยอมทนทรมาน(มาก)

girlicious_galz

พอวันที่10 ไปแล้ว คิดว่าแผลคงหายแล้ว เลยค่อยล้างหน้าด้วยสบู่เด็กอ่อนๆนะค่ะ ก็ทายา แต่ตอนนี้เป็นเหมือนแผลเป็นไหมยังละลายไม่หมดเลย(ไม่ทราบต้องทำยังไงค่ะ ข้างในหมดแล้วเหลือแต่ตรงเย็บด้านนอก ยังโผล่ออกมาเป็นเส้นๆ) ก็พยายามทาครีมทายาเรื่อยๆ ตอนนี้อาการหน้าเข้าที่มากขึ้น ใต้ตาไม่มีรอยฟกช้ำดำเขียวแล้ว ทิ้งไว้แต่รอยหมีแพนด้า เหมือนคนไม่ได้นอนมาเป็นเวลานานๆ ดูหน้าตาตอนนี้เหมือนคนอดหลับอดนอน โทรมมากๆ เพราะไม่ได้บำรุงผิวทาครีมหรืออะไรเลย กลัวมันจะแพ้เป็นสิวเพราะล้างหน้าไม่ได้  

ทีนี้มาดูสภาพ ที่ผ่านมาแล้ว12วันนะค่ะ ดูไม่จืดเลยทีเดียว

girlicious_galz

คือตอนนี้เพิ่งสังเกตุเห็นหลังจากทำไปได้ประมาณวันที่9 ไปแล้ว ว่าจมูกมันเบี้ยว สังเกตุดูกันนะค่ะ แล้วตรงปลายมันไม่เท่ากัน ยุบไม่เท่ากัน ซึ่งคุณหมอวรวิทย์ก็เคยพูดตอนกำลังเช็คจมูกกับผู้ช่วย ว่าด้านขวาจะสูงกว่านิดหน่อย แต่หมอท่านเช็คว่า จะเหลาออกอีกนิดดีไม๊ อะไรแบบนี้ แต่หมอบอกว่า ฐานตรงแล้ว รูจมูกตรงแล้ว เลยไม่เหลาออกเพราะไม่แน่ใจว่า มันเกิดมาจากอาการบวมหรือเปล่า เกรงว่าถ้าเหลาไปมันจะแย่เลย ไม่เหลา ซึ่งตอนนั้น นาเดียเองยังมองไม่ออกเลยค่ะ เชื่อใจและไว้ใจค่ะว่าต้องทำออกมาดี ถึงตอนนี้ก็ยังพยายามนึกไปทางที่บวก เพราะพอมันเห็นแล้ว คือมันค่อนข้างชัด ว่ามันเอียง ตรงปลายสองข้างสูงไม่เท่ากัน แต่ก็คิดให้กำลังใจตัวเองว่า เพิ่งผ่านมาแค่12 วัน มันอาจจะบวม ยังคงไม่เข้าที่ ปลอบใจตัวเองต่างๆนาๆ ต้องการรอให้มันผ่านไปก่อน แต่ตอนนี้รู้สึกนอยด์ๆแล้ว ใครเคยมีอาการแบบนี้บ้างไม๊ค่ะ ช่วยมาพูดคุยด้วยหน่อยนะค่ะ จะร้องไห้แล้ว ตอนแรกที่จะไปทำ เพราะเพื่อนก็เชียร์ เราก็เห็นงาม คือจริงๆพอใจในจมูกเดิมตัวเองอยู่แล้ว แต่แค่อยากให้มันโด่งดูเป็นสันกว่านี้เลยตัดสินใจไปทำ แต่ตอนแรกกะจะแคลเซิ่ลแล้วเพราะอีกใจก็กลัวว่าถ้ามันไม่ดีกว่าเดิมจะทำไง ถอดออกได้ไม๊ แล้วจมูกจะเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ท้ายที่สุดก็ไปจนได้ แล้วตอนนี้ก็มานอยด์โทษตัวเอง เศร้าจังเลย มีใครเคยเป็นแบบนี้มาปลอบใจหน่อยนะค่ะ แง๊ๆๆๆ

girlicious_galz

โอยๆๆไม่มีใครมาช่วยเลย แง๊ๆๆๆ