Collagen โปรตีนที่มีผลต่อภาวะชราของผิวพรรณ และการฉีดคอลลาเจน
ก่อนรับการฉีด
หลังรักการฉีด
collagen เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง คือ scleroprotein ที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน( connective tissue) โดยจะอยู่ในรูปของ fiber ที่ประกอบด้วย peptide chain( สายไขมัน) 3 สายที่เรียกว่า triple helix โดยจะถูกสร้างโดย fibroblast มีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประสิทธิภาพความยืดหยุ่นของคอลลเจนจะเสียไป โดย พบว่าคอลลาเจนจะเหนียวมากขึ้นและอุ้มน้ำได้น้อยลง ดังนั้นจึงทำให้ผิวหน้าแห้งได้ง่าย
จากภาวะที่คอลลาเจนที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้นนี่เอง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการหย่อนยานของผิวหนัง และริ้วรอย ทำให้มีการหาหนทางแก้ไขและหาสารที่มีผลในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งในปัจจุบันที่ทราบกัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี และในบางคนก็ได้นำสารคอลลาเจนจะฉีดเติมบริเวณที่บกพร่องดังกล่าว
การฉีดคอลลาเจน เพื่อนำมาแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น ได้มีการนำมาใช้ในระยะ 20 กว่าปีที่ผ่านมา( ค.ศ.1981) กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะด้านศัลยกรรมตกแต่ง
คอลลาเจน จำแนกตามการแก้ปัญหาริ้วรอย โดยการเติมให้เต็ม
เติมคอลลาเจน เข้าไปโดยตรง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ชื่อ Zyderm ซึ่ง สกัดจาก วัว( Bovine collagen) แบ่งได้เป็น 2 ส่วนประกอบคือ
1.1 Zyderm 1 ประกอบด้วย Bovine collagen 3.5 mg/CC + Lidocain(ยาชา) 0.3 % + Normal Saline(น้ำเกลือ) 100
1.2 Zyderm 2 ประกอบด้วย Bovine collagen 6.5 mg/CC + Lidocain(ยาชา) 0.3 % + Normal Saline(น้ำเกลือ) 100
การเติมสารคอลลาเจน อาจทำให้เกิดปฏิกริยาต่อผิวหนัง ได้ 3 ลักษณะดังนี้
1. ปฎิกริยาจากการชอกช้ำ(Trauma) ซึ่งเป็นผลจากการแทงเข็ม และดันสารคอลลาเจนเข้าไป โดยจะพบเป็นรอยแดง หรือฟกช้ำ ซึ่งอาจหายได้เอง ภายใน 1-7 วัน
2. ปฏิกริยาจากการแพ้ เนื่องจากสารคอลลาเจนเป็นสารแปลกปลอม แม้จะได้ทำการสังเคราะห์ลดปฎิกริยาการแพ้แล้ว ก็อาจมีโอกาสขึ้นได้ ดังนั้นก่อนทำการฉีด แพทย์ส่วนใหญ่จะทำการทดสอบการแพ้ โดยลองฉีดสารคอลลาเจนเข้าที่บริเวณ ท้องแขน แล้วรอแปลผล ประมาณ 4 สัปดาห์ ว่าบริเวณที่ฉีดที่อาการแพ้ แล้วเกิดบวมแดง หรือบวมนูน(ซึ่งบ่งบอกการแพ้) ถ้าไม่พบรอยดังกล่าว ก็น่าจะฉีดได้ นอกจากนี้อาการแพ้ อาจเกิดอาการกับร่างกายบริเวณอื่น เช่น ไขข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้น
3. ปฏิกริยาจากการฉีด มักเกิดจากการฉีดที่ไม่ชำนาญ โดยอาจฉีดตื้น หรือ ปริมาณมากเกินไป ทำให้เกิดเป็นตุ่นนูนเรื้อรัง หรืออาการติดเชื้อบวมแดง
ข้อจำกัดในการฉีดสารคอลลาเจน ได้แก่
1. มีอาการแพ้ได้บ้าง(ประมาณ 1-4 %)
2. ไม่คงตัวถาวร ต้องฉีดซ้ำ ภายใน 6-8 เดือน
3. ริ้วรอยที่มีขนาดเล็ก อาจทำให้เห็นเป็นรอยนูน เนื่องจากปริมาณที่ฉีดไม่พอดีกับรอยร่องหลุม
4. ตำแหน่งที่ฉีดแต่ละแห่ง อาจมีวิธีฉีดแตกต่างกัน ทั้งปริมาณ ตำแหน่งของเข็มที่ปักลงไป ชนิดของคอลลาเจน เพื่อผลการรักษาที่แตกต่าง
จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า คอลลาเจน มีข้อจำกัดทั้งในเรื่องราคา ผลข้างเคียง และความคาดหวัง ดังนั้นจึงได้มีสารตัวใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ทดแทนข้อบกพร่องของคอลลาเจน เช่น Botox, New-Fill หรือ การทำ IPL แต่ท่านก็ควรพิจารณาให้ละเอียด ถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหา เพราะภาวะร่วงโรยของผิวหนัง ดำเนินต่อเนื่องไม่หยุดยั้งตามกาลเวลา ไม่มีอะไรที่จะแก้ปัญหานี้ได้
ปล. นำความรุ้มาแบ่งปันกัน..จาก แหล่งที่มา » คลีนิก นีโอ |