ประสบการณ์ชีวิตเปลี่ยน หลังดูดไขมัน กับคุณหมอทรงยศ ที่ ดรีมคลินิก

KJmomo

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

        ดิชั้นขอบอกก่อนเลยว่าที่มีความรู้สึกอย่างดูดไขมัน เนื่องจากปัจจุบันอายุมากขึ้น เลข 4 ย่างเลข 5 กินอะไรเข้าไป มันเผาผลาญออกยากมากๆ ทั้งๆที่ออกกำลังกายตลอด เลยตัดสินใจใช้วิธีลัด  โดยการดูดไขมัน เปิดหาข้อมูลในเวปไซส์คุณหมอที่เชี่ยวชาญ ราคาพอรับได้ การบริการต้องดี และเห็นผลจริงๆ ดูอยู่หลายที่เลยค่ะ สุดท้ายมาจบที่ ดรีมคลีนิก

เหตุผลเพราะ
1.Promotion ที่โดนใจ ดูดไขมัน ท้อง+เอว  38900 แต่จะดูดได้ ไม่เกิน 2.5 ลิตร (ซึ่งขอบอกว่า 2.5ลิตรมันเยอะมากนะคะถ้าดูจากในรูป)

2.ไปดูข้อมูล คุณหมอในเว็บแพทย์สภา คุณหมอเป็นแพทย์เฉพาะทางจริงๆ และเชคในเว็บไซต์ของคุณหมอ คุณหมอนั้นได้เดินทางไปเรียนการดูดไขมันจาก เกาหลีเลย ทำให้เรารู้สึกว่า ได้ราคาโปรโมชั่น แต่คุณภาพระดับเกาหลี คุ้มอยู่

3.พอเข้าไปปรึกษา คุณหมอพูดตรงไปตรงมา คือไม่ได้อวยเราบอกว่าเราจะกลายเป็นสาวร่างผอม แต่คุณหมอจะพูดถึงความเป็นไปได้ ว่าเอาออกได้เท่านี้ ๆ การดูดไขมันเป็นการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ไม่ใช่การลดน้ำหนัก ไม่ให้คาดหวังว่าหลังจากที่ทำไปแล้ว น้ำหนักจะลดแบบฮวบฮาบ

4.ที่สำคัญคือหมอจะเน้นย้ำเรื่องการมา Follow up แบบถี่ๆ มาก ค่ะ ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ ว่ามีหมอคอยดูแลผลลัพธ์ให้อยู่ตลอดเวลา

5.สิ่งที่รู้สึกถูกใจ ที่สุดคือปัญหาที่กังวลค่ะ เรื่องหลังทำผิวระไม่เรียบ หย่อน หรือไม่กระชับ คุณหมอก็บอกใช้เทคนิคการให้ยานอนหลับระหว่างทำ พอนอนหลับแล้ว เราไม่ดิ้น คุณหมอจะดูดได้สะดวก ผิวเราก็จะเรียบเนียน ไม่เป็นผิวส้มค่ะ ขอบอกเลยว่าที่คลินิกอื่นส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยใช้ยาสลบระหว่างทำ มันมีโอกาสเสี่ยงจะเกิดปัญหาที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ

        ก่อนขึ้นห้องผ่าตัด คิดว่าไหนๆเจ็บแล้ว เลยปรึกษาคุณหมอว่า อยากดูดเอาส่วนสะโพกด้วยเลยดีกว่า แบบอยากใส่กางเกงยีนส์ได้ค่ะ อะไรได้ เลยขอเพิ่มเงินอีก 25000 รวมค่าใช้จ่ายเป็น 63,900.-  เทคนิคการผ่าตัดเป็นแบบการให้ยานอนหลับทางสายน้ำเกลือ เพราะคุณหมอบอกว่า การดูดไขมันถ้าหลับสนิทไขมันจะออกได้เยอะเพราะเราไม่ดิ้น หลับไปเลยจะได้สบายๆ  
หลังทำวันแรกรู้สึกสบายมาก ไม่ค่อยเจ็บ ด้วยความที่ยังมีฤทธิ์ยานอนหลับอยู่ด้วย  ตอนทำคุณหมอฉีดยาสลบ ไม่ใช้ยาชา เราก็เลยไม่รู้สึกเจ็บขณะทำด้วย (แต่จริงๆยาชาจะผสมอยู่ในน้ำเกลือที่เรา ดูดเวเซอร์เข้าไปค่ะ )

หลังทำเสร็จ พยาบาลบอกว่าไขมันออกเยอะมาก ทั้งหมดรวม 3.4 ลิตร ส่วนไขมันเพียวๆอย่างเดียว 2.2 ลิตรเลยค่า!!

เนื่องจากเราอยู่ ต่างจังหวัดจึงมาทำแผลทุกวันไม่ได้ เลยขอคุณหมอกลับไปดูแลเอง และก็นัดพบแพทย์ อีกครั้งคือวันตัดไหม   แผลเล็กมากๆๆ แทบมองไม่เห็นเป็นรอยนิดเดียว คุณหมอเลยแนะนำยาทารอยแผลเป็นให้กลับไปทา

หลังจากนั้นคุณหมอแนะนำ ใส่ชุดยกระชับตลอด 3 เดือน ขอบอกว่า อึดอัดแต่ต้องทน  และคุณหมอก็แนะนำให้ทำ RF เป็นคลื่นวิทยุนวดเพื่อสลายพังผืดและให้เพื่อหุ่นสวยกระชับขึ้นค่ะ  ผลลัพธ์คิอ ตัวเบาขึ้น เอวหายไป 11 ซม. ชอบแต่งตัวมากขึ้นมั่นใจขึ้น  และสามีชมด้วยค่า  แต่ผลเสียก็มีไม่ใช่ไม่มีนะคะ ช่วง 3-4 เดือนแรกๆเนี่ย ร่างกายช่วงเอวเราจะรู้สึกเหมือนคนเส้นตึงๆค่ะ เหมือนร่างกายมันต้องปรับตัวจากการที่เอาไขมันออกไปแบบรวดเร็ว ก็จะพยายามออกกำลังกายแบบเบาๆช่วยไปด้วย เดินเร็ว หรือโยคะ ยืดเส้นก็จะช่วยได้ค่ะ
ครั้งหน้าจะมาทำขาและรีวิว ให้น้องๆอ่านกันต่อแน่นอนค่ะ

nidnidja

เห็นแล้ว อยากทำมั่ง เอวลดไปเลย