อุทาหรณ์เรื่องมัดจำจมูกคะ

deluxe

เรื่องคือว่าเรามัดจำเงินค่าทำจมูกไป 4,000 บาทกับคลินิกแห่งหนึ่งที่อยู่เชียงใหม่แล้วมาเปิดสาขาที่กรุงเทพตรงปากซอย รัชดา 13

คือเราโทรไปสอบถามถ้าจะทำจมูกต้องไปทำที่เชียงใหม่ใช่ไหม (เพราะคลินิกที่กรุงเทพปิดไปแล้ว) แต่คือเราไม่สะดวกคะ

ทางคลินิกบอกว่ามีทางออกให้ลูกค้าคือจะมีการออกค่าเครื่องไปกลับให้ไม่เกิน 3,000 บาทคะ ให้เรานั่งไลออนแอร์

จริงๆเราอยากทำจมูกที่คลินิกนี้มากคะในสมัยก่อนที่เค้ายังไม่มาเปิดที่กรุงเทพ แต่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะทำเพราะไกลและคิดว่าการเดินทางคงไม่สะดวก ไหนจะนั่งเครื่องต่อรถอีก ต้องมีคนพาไปอีก หลายอย่าง

พอเค้ามาเปิดที่กทม.เลยรีบเข้าไปปรึกษาและมัดจำ จองคิว แต่ด้วยความที่ติดงานเยอะช่วงนั้นเลยเลื่อนการผ่าตัดออกไป ผ่านไปสักระยะได้ข่าวว่าคลินิกที่กทม ปิดแล้ว

การที่จะไปทำจมูกที่เชียงใหม่ซึ่งต้องนั่งเครื่องไปกลับมันไม่สะดวกเราเลยคะ อีกอย่างเราต้องไปคนเดียวด้วย เราเลยบอกขอค่ามัดจำคืนครึ่งหนึ่งได้ไหม

ทางคลินิกบอกตัดซิริโคนไปแล้วคืนมัดจำไม่ได้ แล้วก็บอกว่าเราไม่คิดจะทำกับเค้าเอง เอาจริงๆนะคะถ้าไม่คิดจะทำจะมัดจำเยอะไปทำไม เพราะจริงๆคลินิกให้มัดจำแค่ 2000 แต่เราคิดว่ามัดจำไปเยอะหน่อยจะได้ไม่ต้องเตรียมเงินวันทำมาเยอะ แต่นี่มันความผิดคลินิกปะคะ ปิดคลินิกหนีลูกค้าเฉย

สรุปคือเราต้องเสียค่ามัดจำไปฟรีๆกับคลินิกนี้  แล้วอยู่ดีๆจะเปิดคลินิกหรือปิดคลินิกควรคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ให้ลูกค้าหน่อยนะคะ

บางครั้งคลินิกควรเห็นใจลูกค้าบ้างนะคะ ลูกค้ามีแต่เสียกับเสีย ทำก็เสียไม่ทำก็เสีย เพลียคะ

noom6977

ขอพูดแบบตรงๆเลยนะครับ ถ้าจะบอกว่าสมเพชรก็น่าจะใช่ หมอมงคลแกไม่สะดวกเดินทางไปกรุงเทพครับ หลังๆเลยมีการคืนค่าตั๋วให้คนที่เดินทางมาจาก กทม.

และคลีนิคที่ กทม. ก็น่าจะปิดไปแล้ว อันนี้ก็น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายครับ หมอก็มีคนเดียว

แต่ฝีมือต้องบอกว่าหมอมงคลแกอันดับ 1 ในโซนภาคเหนือแล้วหล่ะครับ ขนาดผมจมูกคดๆก่อนทำ ยังทำให้ดูตรงได้พอสมควร บวมวันเดียววันที่สองหายบวมแล้ว ไม่เขียวไม่แดง อันนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของสมเพรชจริงๆครับ