เจ้าของ: fanta
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ทำไงดี เมื่อตรงนั้นของแฟนเหม็น

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขล่าสุด NoToriouz เมื่อ 2009-12-6 12:40

แนะนำนะครับ...กลิ่นพวกนี้มาจากเชื้อราที่ทุกๆท่านทราบแหละครับ

เป็นพวก Candida อ่ะครับ ถ้ามีมากหรือสะสม จนกรดในช่องคลอดไม่สามารถฆ่าหรือทำลายโดยสภาวะปกติได้หมด ก็จะผลิตของเสียออกมาเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นนี่แหละครับ ไอ้ของเสียนี่แหละมันเกิดการ Ferment หรือหมัก(หมม)จนเกิดกลิ่นไม่ดีออกมา ทางแก้ ถ้าใช้ Lactacid หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ทำความสะอาดก็เอาไม่อยู่ครับ ดีไม่ดี ยิ่งทำให้สภาพความสมดุลหรือ Balance ในช่องคลอดเสียไป เชื้อโรคอื่นๆ เข้าไปแล้จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วยรวมทั้ง Sperm ของฝ่ายชายถ้าไม่มีการใช้ถุงและคิดว่าจะหลั่งภายนอกได้ทัน ท่านคิดผิดเลยเพราะโดยปกติร่างกายพอใกล้ถึงฝั่งจะมีระบบ Auto Discharge แรกออกมาทำให้ลูกน้อยๆของคุณหลุดออกมาแต่ไม่มากพอที่จะเข้าสู่ไข่ของฝ่ายหญิงได้เพราะอะไร?...เพราะว่าช่องคลอดฝ่ายหญิงมีค่าความเป็นกรดภายในและสามารถฆ่า Sperm ได้หมด 99% แต่ถ้าไม่มีกรดเหลือพอ ท้องแน่ๆครับถ้าบังเอิญไข่สุกและไม่มีการทานยาคุมพอดี ถึงไม่แนะนำให้แค่ล้าง ล้าง ล้าง ด้วยสารชะล้างเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับพี่น้อง อีกอย่างเรื่องการติดเชื้ออื่นๆจากภายนอกโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอ่อนๆที่มากับอาวุธของฝ่ายชาย พวกStaphylococcus ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงได้ (เอ๊ะ แล้วเราไม่ได้กินจะท้องเสียได้ไง น่าคิด...แต่ท่านผู้หญิงจับมันไงครับและก็ลืมล้างมือไปกินขนมช่วงพักยกและเห็นว่ามีการออรัลด้วยนี่นา...ไม่รอดครับ) รวมทั้ง Neisseria gonorrhea ที่ก่อโรคหนองใน ไม่ต้องขมวดคิ้วนะครับ ผมทราบว่าคุณ Fanta ไม่ได้เป็นและสะอาดพอ แต่เพราะว่าเชื้อพวกนี้มันมีในอากาศทั่วไปแต่ไม่แข็งแรงจนกว่าจะเกิดการหมักหมมหรือขาดการทำความสะอาดจนมันมีแหล่งอาหารที่เจริญเติบโตและสร้างปัญหาได้ อีกตัวที่น่ากลัวถ้าผมจำไม่ผิดคือ Chlamydia trachomatis (ถ้าเขียนไม่ถูกอภัยด้วยน้า...) ที่มาจากอาวุธฝ่ายชายเช่นกัน ตัวนี้ร้ายมาก มะเร็งปากมดลูกอย่างเดียวเลยครับ ตามด้วยเยื่อบุตาอักเสบกับปอดบมแทรกซ้อนได้(เชื้อตัวนีทางทวารก็มีการติดนะครับ...กลุ่มเฉพาะก็ทำความสะอาดอาวุธดีๆน้า) ดูน่ากลัวพอยังครับ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับคุณ Fanta... ดังนั้นควรไปพบแพทย์ดีที่สุดครับ

หมอสูติจะให้ใช้ยาเหน็บช่องคลอดเพื่อฆ่าเชื้อในช่องคลอดรวมทั้งปากช่องคลอดด้วย ช่วงนี้ถ้าจำไม่ผิดหมอจะสั่งห้ามสนุกกันอย่างน้อย 2-3 วัน อีกแบบคือยาสำหรับทานเพื่อฆ่าเชื้อ ต้องยอมรับนะครับพวกนี้เป็นรา ราจะมีสปอร์ทุกท่านที่มีความรู้ด้านจุลชีวะจะทราบดีว่าพวกมันถูกลำลายยากมาก (ให้พี่ๆน้องๆ คิดถึงกลากเกลื้อนอ่ะครับ นานมากกว่าจะหาย...มันเกิดจากพวกราเหมือนกันจ้า) ดังนั้นจะต้องทานยาเม็ดใหญ่และหลายขนานแน่ๆ แต่สุดท้ายก็จะหายเป็นปกติครับ

สิ่งอันตรายที่อาจจะเกิดถ้าคุณ Fanta ไม่ยอมพาแฟนไปพบหมอละก็...บอกเธอไว้เลยครับว่า เชื้อพวกนั้นจะเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในอนาคตครับ อีกทั้งถ้าคุณยังขึนมัวใช้แต่ Cleansing product ละก็ อย่างที่ผมบอกครับ ช่องคลอดแฟนคุณจะสะอาดมากกกกส์ จนเชื้อโรคอื่นเข้าไปได้ง่ายมาก โดยเฉพาะ ไวรัส ...ตัวการของการเกิดมะเร็งร้าย อีกตัวเลยทีเดียว หรือ พื้นๆก็อาจจะเป็นชอคโกแลตซีด หรือ ซีดอื่นๆ (สาวๆรู้จักดีเน๊อะ...)

เกือบลืมไปครับ... Candida ที่พูดถึงตอนต้นข้อความน่ะ ไม่หายหมดจากคุณผู้หญิงไปไหนหรอกนะครับ มันมีในอากาศและทั่วไป แต่ไม่ต้องห่วงครับ รักษา Balance ในช่องคลอดให้ดีครับ (ทำอย่างไรได้บ้าง ปรึกษาหมอครับ) อีกอย่างลืมยังครับที่พบบอกว่ามันเป็นรา รามีสปอร์ สปอร์คือ...ง่ายๆก็ละอองมันแล้วกัน ดังนั้นมันปลิวละล่องๆ ไปเรื่อยจนกว่าจะเจอที่ยึดเกาะ สถานที่ที่สำคัญคือ กกน. แน่นอนครับ มันไม่ไปไหนง่ายๆฝังลึกกับเนื้อผ้าได้ดี ดังนั้นทำความสะอาดอย่างเข้มงวดบ้างนะครับถ้ามีโอกาศโดยการแช่ใน เดทตอล หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อเสื้อผ้าทั่วๆไป และตากในที่โล่ง ลมโกรก หรือแดดจัดๆ และสำคัญที่สุด ก่อนเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าและก่อนใส่ ออกแรงนิดครับ...สะบัดๆๆ สลัดๆๆๆ หน่อยครับ... (ถ้าเป็นผม จะทิ้งหใหมดแล้วซื้อใหม่ เริ่มปรับพฤติกรรมใหม่เลยดีก่า)

เอาซะเยอะจนรกเลย...ขอโทษทีครับ พอดีรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆน่ะครับ จริงๆ

:: แชร์ความรู้กันครับ...ผมก็รู้แค่นี้ เท่าที่เรียนมาครับ
^^

คะแนน

4

ดูบันทึกคะแนน

จขกท ..คงจะลำบากใจน่าดู
กระทู้ นี้ อ่านแล้ว แอบฮา
แอบมาอ่านน

ได้ความรู้ด้วยค่า
ถ้า แฟน จขกท ไม่กล้าไปหาหมอ พี่ว่าลองไปปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาในเบื้องต้นก่อนก้ได้
แต่ถ้าไม่หาย ควรจะไปหาหมออย่างยิ่งนะจ้ะ
เข้ามาเจอสะดุดหัวข้อ
เลยมาอ่าน
น่าเห็นใจค่ะ
ยา ว่าน่าจาบอกตรงๆน่าค่ะ แต่พูดประมาณว่า
ออ ทำไมมันมีกลิ่นอะ(ทำหน้างงๆด้วย)
ตอนไปฉี่ได้ล้างอะเปล่าเนี่ยย(หน้างงอีกที แสดงความไร้เดียงสา 55+)
นี่ มีความรู้นะจะบอกให้...
คงต้องหาหมออย่างเดวอ่ะคะ
หาหมอครับ ปล่อยไว้นานๆไม่ดีนะ

เหมื่อนเรามีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากล่ะ ถ้ามีกลิ่นปากผิดปกติก็สังเกตุได้ว่าจะมีปัญหาในช่องปากตามมา

แต่ถ้าตรงนั้นมีกลิ่น ไม่นานก็จะมีปัญหาในนั้นตามมา อิอิ
35#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-12-7 18:42:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ผมจะบอกแล้วคับ แต่ ไม่กล้า!!!!!!!!!!!!

ผมไม่ได้ทะลึ่งน้า.......

วันนี้ผมกับแฟน เรามีไรกันอีก

แต่วันนี้แฟนทำอีกท่านึงคือให้ผม

อยู่ด้านล่างแล้วเธอนั่งยอง ๆ บนหน้าผม

ให้ผมเลียของเธอซะนานเชียว

ผมคงคุ้นเคยกับกลิ่นนี้แล้วกระมังคับ

เธอทำหน้าพอใจและมีความสุขมาก

ผมก็เลยคิดว่าปล่อยไว้อย่างนี้ดีกว่า

เพื่อน ๆ ว่าดีไหมคับ
แก้ไขล่าสุด M... เมื่อ 2009-12-7 19:04
ผมจะบอกแล้วคับ แต่ ไม่กล้า!!!!!!!!!!!!

ผมไม่ได้ทะลึ่งน้า.......

วันนี้ผมกับแฟน เรามีไรกันอีก

แต่วันนี้แฟนทำอีกท ...
ต้นฉบับโพสโดย fanta เมื่อ 2009-12-7 18:42



ไม่ส่งผลดีทั้ง 2 คนนะ ควรจะบอกความจิง ให้เค้าไปหาหมอเช็คดีกว่านะ
Fanta คงไม่ได้อ่านที่ผมโพสสินะ...

...แล้วแต่นะครับ ไม่ใช่จิ๋มผม

คะแนน

2

ดูบันทึกคะแนน

Fanta คงไม่ได้อ่านที่ผมโพสสินะ...

...แล้วแต่นะครับ ไม่ใช่จิ๋มผม
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2009-12-7 19:41

555555555555555
สงสัยไม่เดือดร้อนแล้วมั้งคะ ฮ่า ๆ ๆ

ดูท่าทางจะไม่ได้รับความเห็นจากคนที่มาตอบเลย

ยังไงจะสนุกกัน ก้อขอให้ปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ

ด้วยความปราถนาดีคร้า
แหะๆๆ อารายเนี่ย
อันที่จิงแล้วเรื่องกลิ่นอับผู้หญิงมีกันทุกคนนะยิ่งช่วงประจำเดือนแล้วก็..ก่อนมีไรกันอาบน้ำก่อนอ่ะเป่า...เคยกังวลอยู่บ่อยๆนะเวลาที่มีไรกะแฟนอือ...(เชื่อป่ะขนาดอาบน้ำล้างอย่างดีแล้วตัวเราเองยังมีความรู้สึกอับๆเลยต้องคอยวิ่งเข้าห้องน้ำหลายรอบ
กว่าจะมั่นใจอิอิ...แฟนคุณอาจมีปัญหาทางช่องคลอดก้ได้นะลองสังเกตดูว่ากลิ่นนั่นมาจากไหนถ้าจะบอกเค้าตรงๆนะอย่าเลยเพราะเค้าต้องอายดีไม่ดีเค้าจะไม่ยอมมีไรด้วยน้า...เอางี้สิอาบน้ำด้วยกันแล้วลองทำให้ในห้องน้ำจะได้ไม่เหม็นไง๊
แนะนำนะครับ...กลิ่นพวกนี้มาจากเชื้อราที่ทุกๆท่านทราบแหละครับ

เป็นพวก Candida อ่ะครับ ถ้ามีมากหรือสะสม จนกรด ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2009-12-6 12:02


ความรู้แน่นปึ้กเลยค่ะ

ขอมาเสริมนิดนะคะ

บางทีการมีกลิ่นจากช่องคลอดของผู้หญฺงนั้นอาจมีอีกสาเหตุนึง นั่นคือ ... "เนื้องอก"ค่ะ

ก้อนเนื้องอกเนี่ยแหละค่ะตัวดีเลย เพราะเวลามันเจริญเติบโตนั้น มันจะโตอย่างรวดเร็วมาก จนเลือดสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงไม่ทัน พอไม่ทันเนื้อก็เกิดการตาย และเน่าได้ในที่สุด บางทีก้อนเนื้องอกนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นก้อนอกมาให้เราเห็นหรอกนะคะ มันจะแทรกไปตามเนื้อปกติของเรา จนไม่อาจจะทราบได้

เนื้องอกบางอย่างมันจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นค่ะ ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้วที่เป็นมักจะพบตอนไปตรวจภายใน ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นค่ะ เคยได้ยินโฆษณาที่ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกกันใช่มั๊ยคะ นั่นแหละค่ะ กว่าจะรู้ตัวก็สายแล้ว

ส่วนเรื่องเชื้อรา ตามที่คุณ NoToriouz เขียนไว้นั่นแหละค่ะ ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่สำคัญของผู้หญิงส่วนมากค่ะ เพราะอวัยวะเพศของเรามันอ่อนแอนะคะ ไม่ค่อยทนต่อความไม่สมดุล การใช้สบู่ฟอกก็อาจทำให้ normal flora ของเรามันตายแล้วติดเชื้ออื่นๆได้ง่ายขึ้น

ส่วนอีกปัญหาที่พบบ่อยๆคือ คุณผู้หญิงเวลาเข้าห้องน้ำค่ะ ถ้าใช้ทิชชูกัน ก็มักจะเช็ดจากก้นย้อนเข้ามาใช่มั๊ยคะ นั่นแหละค่ะ มันจะนำพาเชื้อโรคที่ในระบบทางเดินอาหาร ตัวสำคัญคือ E.coli (normal flora) ในกระเพาะเราเนี่ยแหละค่ะ ตัวดีเลย รักษายาก ดื้อยาสุดๆ อย่าชะล่าใจว่าเราล้างก้นของเราสะอาดเพียงพอแล้วนะคะ เพราะแบคทีเรียพวกนี้มันฉลาดค่ะ มันซุกซ่อนได้

ดังนั้นแนะนำสำหรับผู้หญิงทุกคนนะคะ เวลาเช็ดให้ใช้วิธีซับจากข้างหน้าไปข้างหลังค่ะ อย่าปาด มันติดเชื้อได้แน่ๆค่ะ ยิ่งถ้าช่วงร่างกายเราอ่อนแอ จะมีโอกาสมากขึ้น

^^
อ่านมาหลายแรป
แนะนำหาหมอค่ะ
ทั้งคู่เลย
เพราะถึงแฟน(ญ) หาหมอแล้ว แก้ไขแล้ว แต่ไม่หาย
แสดงว่าคุณแฟน(ช) เป็นต้นเหตุนะค่ะ
เพราะเราเวลาเรามีอะไรกับแฟน ช่วงไหนไม่มี ตรงนั้น เราจะไม่มีกลิ่นอับค่ะ
แต่เวลาวันไหนที่เรามีอะไรกับแฟน ล้างก็แล้ว อะไรก็แล้ว จะมีกลิ่นออกมาค่ะ
อยากให้แนะนำไปตรวจทั้งคู่ค่ะ เผื่อจะเป็นเชื้อรา ไรเงี้ย

ปล.เมื่อก่อนแฟนเราเค้าไม่ค่อยชอบล้าง ไม่รู้ว่าขี้เกียจอะไร
เด๋วนี้ต้องบังคับ อยากมีก็ต้องล้างก่อน ก็ทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นกับความสะอาด ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ

(พิมพ์เหมือนตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์พวกน้ำยาล้างช่องคลอดไปซะแร้ว ==")
ไปพบสูติด่วนนะคะ  เพราะเราเองก็มีแฟนแต่จะตรวจภายในทุกปี ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก  แต่ตรวจเพื่อเป็นการป้องกันไว้  ตรวจรังไข่  ตรวจมะเร็ง  เอาเป็นว่าตรวจหมดเลย  ถ้ามีอะไรผิดปกติหมอก็จะบอก  ไม่ต้องกลัวเลย บางทีเคยถามหมอว่าบางเดือนก่อน+หลังประจำเดือนมาจะรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอ่อนๆแต่มันไม่ใช่กลิ่นที่ปกติ หมอบอกว่าไม่เป็นไร  เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  แต่ถ้ากลิ่นมันแรงมากจะต้องพบหมอเพื่อตรวจภายใน  เพราะข้างในอาจมีการติดเชื้อ  ถ้าปล่อยไว้นานจะเป็นมากขึ้น  และถ้านานเกินไปแบบกลิ่นแรงขึ้นมากๆๆอีก จะเป็นอันตรายอย่างมาก...เอาเป็นว่าเราเป็นห่วง......รีบไปหาหมอเร็วๆๆเลยนะคะ
ถ้าเป็นอย่างงั้น.....มีวิธีง่ายๆค่ะและได้ผลดีด้วยค่ะ

มาแก่ปัญหาเฉพาะเหตุกันเลยดีกว่าค่ะ

สาเหตุของการที่มีกลิ่นเหม็นที่จุดซ้อนเล้นเกิดจากเรารับประทานน้ำน้อน

กลั้นฉี่  

วิธีทำง่ายๆก็คือ  ทานน้ำเยอะๆ ฉี่บ่อย    เพียงแค่นี้ภายใน4วันก็จะรู้ทันทีค่ะว่ากลิ่นเหม็นนั้นได้ค่อยๆหายไป

ครบ1อาทิตย์กลิ่นหายไปเลยทีเดียวค่ะ  แต่ต้องทานน้พเยอะๆเป็นประจำทุกวันน่ะค่ะกลิ่นเหม็นก้จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลยค่ะ

เพราะนัทเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอเลยต้องดูแลร่ายกายตัวเองเป็นพิเศษผู้หญิงควรเห็นความสำคัญของตัวเองทุกจุดน่ะค่ะ

หน้าตาก็ต้องดูดีทุก24ชั่วโมง
สาเหตุของการเกิดกลิ่นผิดปกติอาจมีหลายสาเหตุนะคะ !!!

อาจมีสาเหตุเริ่มจากการตกขาว (ระดูขาว,ประจำเดือนขาว,มุตกิต)
ตกขาว หมายถึง สิ่งที่ถูกขับออกจากทางช่องคลอดซึ่งไม่ใช่เลือดระดูขาว ปกติจะเป็นสีขาวถือเป็นอาการปกติของผู้หญิงไม่ใช่โรค บางครั้งเมื่อเกิดการติดเชื้อ ระดูขาวจะผิดปกติ ทำให้มีสีอื่นๆ เช่น สีเหลือง สีเหลืองปนเขียว หรือสีน้ำตาลเป็นต้น(ลองแอบสังเกตที่กางเกงชั้นในของแฟนดูนะคะ แต่อย่าให้เค้าเห็นนะคะเดียวจะผิดใจกัน)

ระดูขาวจะมี 2 ประเภทนะคะ คือ ระดูขาวปกติและระดูขาวที่ผิดปกติ

ระดูขาวปกติ (Physiologic leukorrhea) จะมีลักษณะเป็นสีขาว กลิ่นออกเปรี้ยวนิดหน่อยแต่ไม่คัน ช่วงที่จะมีระดูขาวออกมามากคือช่วงเวลาใกล้ตกไข่ ช่วงระยะตั้งครรภ์ ขณะมีอารมณ์ทางเพศ การใช้ยาคุม
ส่วนระดูขาวผิดปกติ (Pathologoc leukorrhea) จะมีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น มักจะมีอาการคัน แสบ หรือปวดท้องน้อยด้วยนะคะ สาเหตุหลักๆของระดูขาวผิดปกติคือ การติดเชื้อรา เชื้อพยาธิ เชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะติดเชื้อมากกว่าหนึ่งชนิด หรืออาจจะรับประทานยาปฏิชีวนะเป็ฯเวลานานๆยาก้อจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่อยู่ในช่องคลอดที่สมดุล ก้ออาจจะทำให้เกิดระดูขาวขึ้น หรืออาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้วิธีออรัลเซ็กซ์ เพราะแบคทีเรียอาจจะเกิดจากช่องปากของคู่นอน (ไม่แปรงฟันก่อนออรัลฯ คือ กินอาหารแล้วมีแบคทีเรียสะสมอยู่ก้อจะขยายตัวไปกับน้ำลายได้นะจ๊ะ) หรืออาจเกิดจากอวัยวะเพศชายด้วยก้อได้(มีแบคทีเรียสะสมหรือทำความสะอาดไม่ทั่วถึง)
ระดูขาวที่ผิดปกติจะเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกันนะคะ

ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อรา,ยีสต์(Candida Vulvovaginitis)จะมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะการตกขาวขะมีสีขาวเป็นก้อนคล้ายๆแป้งเกาะติดผนังช่องคลอด (บางครั้งเวลามี sex ก้อจะติดออกมากับอวัยวะเพศชาย)
ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อพยาธิ(Trichomonas vaginitis)จะมีสีเขียวปนเหลืองเป็นฟอง ปากมดลูกมีลักษณะเป็นจุดแดง
ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย(Bacterial vaginitis)ระดูจะมีกลิ่นเหม็นคาวคล้ายๆกับกลิ่นปลาเน่า(คิดว่าแฟนของคุณ Fanta น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้) และระดูจะมีสีใสถึงขาวขุ่นเลยล่ะค่ะ  รีบไปพบแพทย์นะคะ เป็นไปได้ต้องไปทั้งคู่เลยค่ะ เพราะเราไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรและจากใคร หากคุณมีคู่นอนเพียงคนเดียวก้อสามารถรักษาให้หายขาดได้
แต่ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งมีคู่นอนหลายคนล่ะก้อต้องมานั่งสืบกันอีกทีล่ะคะ(เคยมีคนไข้กรณีดังกล่าวน่ะค่ะ)

ก้ออยากจะให้เป็นวิทยาทานกับคุณผู้หญิงทุกคนค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว  ดีนะคะที่มีคนยกเรื่องนี้มาพูดคุยและปรึกษา ฉะนั้นเราควรรักษาสุขอนามัยของตัวเองให้ดีนะคะ เพราะนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกหากไม่รักษาและป้องกันค่ะ

ส่วนวิธีป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดนะคะก้อควรจะรับประทานอาหารทีมีคุณภาพ ออกกำลังกาย(ในที่โล่งแจ้ง *_*) นอนหลับให้เพียงหอ ดื่มน้ำมากๆ ,ดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาดและแห้งและสวมใส่เสื้อผ้าที่อากาศถ่ายเทสะดวก,อย่าใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน(ยาแก้อักเสบ ฯ) ,ไม่สวนล้างช่องคลอดเพราะจะทำให้ความสมดุลเสียไปและไม่แน่ก้ออาจเกิดจากที่ฉีดน้ำ,งดร่วมเพศขณะรักษา ถ้าจำเป็นให้สวมถุงยาง,การทำความสะอาดทวารหนัก ควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง,หลีกเลี่ยงผ้าอนามัยแบบสอด @@ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคะ ไม่ควรมองข้าม ควรปรึกษาแพทย์ด่วนๆค่ะ

  1. ไข้หวัดใหญ่ฯ2009 ระบาดระรอกที่สองแล้วนะคะ //ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
คัดลอกไปที่คลิปบอร์ด

รู้ชัด รู้จริง เรื่องหวัดใหญ่ฯ 2009 โทร 02-5903333 หรือ www.kmddc.go.th
คุณ Notoriouz ให้ข้อมูลละเอียดมากๆๆ
เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงล่ะที่จู่ๆ ก็มีกลิ่นแบบเค็มๆ ออกมาค่อนข้างแรงเวลามีอะไรกับแฟน ขนาดเรายังหมดอารมณ์ถ้าเป็นแฟนจะขนาดไหน
จริงๆ เราเป็นคนไม่มีกลิ่นเลยนะ แฟนคนก่อนๆ ยังบอกเลยว่าเราอะไม่มีกลิ่นเลย ดีมากๆๆ
แต่พอมีแฟนคนนี้ แรกๆ ก็ไม่มีกลิ่น เค้ายังออรัลให้เราอย่างสนุกสนาน -_-" แรกๆ อ่ะนะ
พอเราเริ่มกินยาคุมแล้วมีอะไรกับเค้าแบบไม่ใส่ถุงก็ถึงเริ่มมีกลิ่น จนเราสังเกตได้เลยอ่ะว่าเค้าเลิกออรัลให้เรา นานๆทีทำให้แต่ก็ประมาณสองวิ อะไรงี้
เราว่าแฟนของจขกท ก็ต้องรู้ตัวแหละ ขนาดเรายังรู้เลย แต่เค้าอาจจะไม่กล้าไปหาหมอ
ตอนนี้แฟนเราอยู่เมืองนอก ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนแล้ว กลิ่นมันก็เริ่มๆ หายไปง่ะ
ถ้ายังไง ทางที่ดีน่าจะพาแฟนไปหาหมอนะ  เพราะตอนเราเป็น เราพยายามล้างๆๆๆๆ ก็ไม่หาย
จริงๆ
คุณ Notoriouz ให้ข้อมูลละเอียดมากๆๆ
เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงล่ะที่จู่ๆ ก็มีกลิ่นแบบเค็มๆ ออกมาค่อนข้างแรงเวลา ...
ต้นฉบับโพสโดย akd เมื่อ 2009-12-9 15:51



ช่วยๆกันครับ... มองจากสาเหตุใกล้ตัวกันก่อนละกันนะครับ มันคือจุดที่แก้ไขได้ง่ายและไวสุด...
ไม่อยากทำให้แตกแยกนะคะ แต่จากที่ได้รู้มา ปัญหาจากเชื้อและโรคต่างๆมักมีสาเหตุจากฝ่ายชายนะคะ คือผู้หญิงที่จะติดเองโดยไม่มีเพศสัมพันธุ์มีได้น้อยมากๆ ส่วนใหญ่้เกิดจากการเข้าห้องน้ำที่สาธารณะ หรือการใช้ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น ซึ่งคิดว่าน้อยมากที่จะใช้ร่วมกันคนอื่นได้ ส่วนใหญ่จะติดจากฝ่ายชายมากกว่าค่ะ เพราะอวัยวะเพศหญิงนั้นเป็นที่รองรับ ไม่ว่าอารัยก็มากองได้หมด แม้แต่ขี้ไคลของฝ่ายชาย ที่เรียกว่าขี้เปียก ก็ยังสะสมได้และอาจทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะฉะนั้น การรักษาความสะอาดนอกจากตัวฝ่ายหญิงเองแล้ว ฝ่ายชายต้องรักษาเช่นเดียวกัน ที่สำคัญอย่าสำส่อนดีที่สุดเพราะคุณกำลังพาโรคร้ายๆมาให้แฟนโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นฆาตรกรเงียบได้เลยทีเดียวนะคะ ขออภัยที่ตอบแบบนี้เพราะนี่คือข้อมูลจริงค่ะ เคยได้ยินไหมคะ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ูแล้วมักจะมีโอกาสเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก หรืออื่นๆกับจุดนั้น มากกว่าหญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ90ค่ะ จบข่าว
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้