|
อ่อ เรารู้สึกผิดกับน้องเราและน้องเอ (เพื่อนน้อง) มากๆ
น้องเรา (ซึ่งแก้ไปไม่ถึงสัปดาห์) มาคุยให้น้องเอฟังใหญ่เลย ว่าหมอทำดี เค้าเหลาซิลิโคนเคสต่อเคส ทำนานเกือบ 3 ชั่วโมง หมอละเอียดมาก รับประกันว่าเล็กลงทรงสวยด้วย
ซึ่งน้องเอก็มีปัญหาเรื่องจมูกใหญ่ ชมพู่ เนื้อเยอะอยู่แล้ว ได้ยินแบบนั้นก็อยากทำ (จมูกน้องเอไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน) แต่ก็ยังไม่แน่ใจ เลยมาหาข้อมูลในเว็บดั้งโด่ง เจอกระทู้คุณชิเข้า โอ้โห...น้องมันเห็นแบบนั้น อยากจะทำเดี๋ยวนั้นเลย
สรุปก็ไปปรึกษาที่รามาวดีคลีนิค สมุทรปราการ ไปพร้อมกับน้องเราซึ่งหมอนัดตัดไหม คุณหมอบอกจมูกน้องเอมาทำกับหมอถูกต้องที่สุด หมอถนัดเลยล่ะ เพราะต้องแก้เยอะ ใช้เทคนิคเยอะ บลาๆๆ.... สรุป 80,000 อ้าวววว น้องเออ้างเลยว่า หนูไม่ใช่เคสแก้นะคะ จมูกหนูใหม่ๆ เลย ทำไมแพงกว่าน้องเรา หมอบอกมันแพงที่ฝืมือหมอนี่ล่ะ สุดท้ายต่อไปต่อมาลดเหลือ 65,000
วันที่ไปทำ ก็บอกว่าเอาแบบพุ่งๆ ใกล้เคียงกับคุณชิ หมอบอกทำอย่างเค้าไม่ได้ เค้าไม่ได้จมูกใหญ่ หน้าเค้าก็เล็กๆ อย่างเราต้องอีกแบบ เดี๋ยวหมอทำให้สวยกว่าอีก แต่จะโด่งแบบเค้าไม่ได้นะ ต้องแบบของเรา น้องเอได้ยินแบบนี้ก็ โอเคค่ะหมอ งั้นแล้วแต่หมอเลย
สุดท้ายนะคะ ได้จมูกทรงผู้ชายกลับมาก ขี้เหร่กว่าน้องเราอีก
ส่วนสภาพจมูกระหว่างรอให้ยุบ ก็แย่พอๆ กับน้องเราเลย ช้ำบวม อักเสบ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เคสแก้
คลีนิคของคุณหมอเราว่าสกปรกอ่ะ ปล่อยให้หมาเข้าห้องผ่าตัดได้ไง พนักงานผู้ช่วยหมอใส่รองเท้าเข้ามาได้ไง ทำไมไม่เป็นรองเท้าปลอดเชื้อ ระหว่างผ่าตัดนะ ภรรยาคุณหมอก็เปิดประตูเข้าๆออกๆ มายืนดูว่าถึงไหนแล้ว จะเสร็จยัง
สำหรบคอมเม้นท์นี้ ถ้าจะมองว่ามาดิสเครดิต คงไม่ถูกค่ะ แต่เพื่อต้องการให้เห็นอีกด้านของผลงานคุณหมอท่านนี้ แน่นอนว่า ศัลยกรรมยังไงก็เสี่ยง เคสหลุดต้องมีบ้าง ซึ่งนี่ก็ถือเป็นกรณีศึกษา ไว้ประกอบการพิจารณาสำหรับคนที่ต้องการแก้ โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้หญิงจมูกโต ชมพู่ เนื้อเยอะ ปีกใหญ่ เราว่าต้องดูหลายๆ หมอค่ะ
อีกเรื่องค่ะ ระหว่างรอน้องเอปรึกษาคุณหมอ ก็มีน้องที่ทำจมูกกับคุณหมอได้เกือบอาทิตย์ เข้ามาพบคุณหมอ เราก็เลยถามว่าเป็นไงบ้าง น้องบอกว่า ไหมหลุดแล้วค่ะ เลือดก็เกรอะกรัง หมอบอกห้ามเช็ด ให้มันเกรอะไปแบบนั้น แต่น้องคนนี้เค้าหายใจไม่ออก ต้องใช้ปาก เพราะเลือดมันแข็งปิดรูจมูกทั้งสองข้าง
หลังจากพูดคุยกัน ก็เลยขอดูรูปก่อนเสริม เป็นแบบเดียวกับน้องเราเลยอ่ะ
|
|