|
ถึงวันนัด 1 พ.ค. : มีเจ้าหน้าที่โทรมาเลื่อนตอนเช้า (...จ้า ขอวันเดียวพอนะ) ok ไม่เป็นไร
วันที่ 2 พ.ค. : พี่คนเดิมโทรมาบอกว่าห้องว่างแล้ว 4 โมงเย็นให้เข้ามาเลย กรี๊ดๆ ตื่นเต้น
เย็นวันที่ 2 พ.ค. : เรามาถึงคลินิก ก็มาเจาะเลือด วัดความดัน โดนซักประวัติต่างๆ และเซ็นเอกสารค่ะ (เราแทบไม่อ่าน โดนพี่พยาบาลดุเลย ต้องอ่านละเอียดก่อนเซ็นนะคะ)
เสร็จแล้วก็มีพี่ผู้จัดการมารับไปเอกซเรย์ที่รพ.เปาโลสมุทรปราการ ไม่ไกลจากคลินิกค่ะ เอกซเรย์ตรงหัว กับช่วงปอด แล้วก็กลับมาคลินิก พยาบาลให้เข้ามาพบคุณหมอเพื่อถ่ายรูป
หมอก็อธิบายการผ่าตัดอีกครั้ง ว่าเราตัดออกมาผลจะลดลงไม่เรียวมาก เพราะกะโหลกใหญ่ ถ้าแนะนำให้ทำวีไลน์ จะได้ผลเรียวที่สุดเท่าที่จะได้ (คิดในใจ : ไม่ทันแล้วค่ะหมอ ไม่ได้กดเงินมาเพิ่มอีก 5หมื่นด้วย ของมีค่าก็อยู่บ้านหมด 555 ) แต่คราวนี้รู้สึกหมออารมณ์ดี ชวนคุยเรื่องงาน เรื่องอื่นๆด้วยค่ะ
สุดท้ายก็จบด้วยที่ว่า เล็กลงแน่นอนเท่าที่จะเล็กได้ ได้ยินแบบนี้ใจชื้นเลยค่ะ แล้วหมอก็บอกว่าคืนนี้ไม่ได้ผ่านะ เพราะพรุ่งนี้จะไปทำบุญ กลับมาคงได้ผ่าคืนพรุ่งนี้เลย จะนอนนี่หรือกลับบ้านก็ได้ เพราะบ้านไม่ไกลมาก แต่เราขอนอนนี่ค่ะ
แล้วพี่พยาบาลก็พาขึ้นไปห้องพัก เจาะเลือดอีกครั้ง และมีค่าเลือดเพิ่ม 1 ถุง 1500 บาท ที่ต้องจ่ายเพิ่ม ทานอาหารเย็น แล้วก็นอนค่ะ ต้องปิดไฟนอนก่อนเที่ยงคืน จะได้ไม่รบกวนห้องข้างๆ
อุปกรณ์ที่คลินิกมีให้ : ผ้าเช็ดตัว ชุดสีม่วงใส่ก่อนผ่าตัด ชุดนอนสีเขียว ยาสระผม ครีมนวด แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ แต่พวกนี้เราเตรียมมาเองด้วยเพราะเราใช้เยอะ และขอยืมไดร์เป่าผมจากพี่พยาบาลได้ค่ะ
ส่วนห้องน้ำมี 2 ห้อง สะอาด เป็นส่วนตัวใช้ได้ เสียแค่เวลาอาบ น้ำจะนองเต็มพื้นเลย ระบายไม่ดีเท่าไหร่
วันที่ 3 พ.ค. : มีอาหารเช้ามาให้ตอน7โมงกว่า แล้วก็เที่ยงและเย็น หลังจากนั้นให้งดอาหาร ขอบอกพยาบาลที่นี่พูดจาดีทุกคน และน่ารักมากๆ เจอแค่คนเดียวที่พูดไม่ดี แต่แค่จังหวะเดียวเองค่ะ นอกนั้นโอเคหมด
พี่ที่ใส่ชุดพยาบาลขาวที่ดูมีอายุที่สุดในนั้นใจดีมากๆ คอยมาบอกเราว่าคืนนี้ได้ทำแน่นอน ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็สวยแล้ว > <
วันที่ 4 พ.ค. : ตอนดึก หรือ 00:10 น.ของวันที่สี่ มีพยาบาลมาปลุกให้ไปอาบน้ำสระผมแปรงฟัน แล้วมารอเจาะเลือดที่ห้องพัก ระหว่างอาบน้ำตื่นเต้นมากค่ะ กังวล ว้าวุ่นใจ สารพัดอย่างเลย พอเป่าผมแห้งแล้ว พยาบาลก็มาวัดความดัน วัดไข้ ซักประวัติอีกรอบ แล้วค่อยลงไปห้องผ่าตัด
พอไปถึงห้องผ่า ก็มีหมอดมยาตัวใหญ่ๆ คนนึง กับอีกคนคอยซักประวัติ ชวนคุย แล้วบอกให้ทำใจให้สบาย พอฟื้นแล้วห้ามดิ้นนะ ส่วนหมอจุฑายังไม่ทันเจอ ก็สลบไปซะก่อน ว่าจะยิ้มให้ซักหน่อย 55
ตอนนอนบนเตียงผ่าขอบอกว่า ตื่นเต้นมากกก ตามองไปรอบห้องเลย พี่ที่เอายามาให้ดมก็บอกให้หลับนะ แต่ระหว่างที่เรายังไม่หลับ เรากระพริบตาถี่ๆให้เค้าเห็นเลยค่ะ เพราะเห็นหมอที่ตัวใหญ่ๆเตรียมจะสวนสายฉี่ให้เต็มที่เลย แบบว่า...อย่าพึ่งนะ หนูกลัวเจ็บ สูดไปเกือบซักพักเลยก็เริ่มรู้สึกชาไล่จากปอดขึ้นมา แล้วก็หลับคร่อกก..
................... |
|