ที่มาของขาเรียวเล็กกระชับ กับ Masterpiece clinic (รีวิวดูดไขมันครบ 1 เดือน)

Pattama60

เราเป็นคนๆ หนึ่งที่หุ่นไม่ค่อยดี  คือก็ไม่ได้อยากอ้วนนะ อยากหุ่นสวยๆ ไม่ต้องถึงขนาดพริตตี้นางแบบหรอกแต่แค่อยากมีแขนขาเอวที่ไม่มีส่วนเกินก็พอใจละค่า แล้วไอ้ตัวเรามันก็ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายด้วยไง มีแรงฮึกทีนึงก็ค่อยออกกำลังกาย ออกกำลังกายได้ 2-3 วันก็หมดไฟแล้ว ถึงบ้างครั้งออกกำลังกายได้ถึงอาทิตย์ขาก็แทบจะไม่ลดให้เราเลย ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ เฮ้อ ถามว่าจะชาตินี้มีหุ่นดีกับเขาบ้างได้มั้ย เราคงตอบว่ายาก

ปกติเราเป็นคนที่ไม่อ้วน แต่จะอวบหน่อยๆ ขาใหญ่นิดๆ (ที่จริงก็ไม่นิดหรอกนะ) เวลาใส่กระโปรงสั้นๆ หรือใส่กางเกงขาสั้นตัวจะตันมาก แถมซื้อกางเกงมาบางตัว ใส่กางเกงได้แต่เอวหลวม พอซื้อแบบเอวพอดีมาก็ยัดขาไม่ลงอีก ทำไมชีวิตต้องลำบากกับการใส่กางเกงด้วย ไม่เข้าใจ เคยคิดที่จะไปฉีดแฟต แต่เห็นเขาบอกว่าไม่คุ้มเพราะต้องฉีดหลายเข็มแล้วต้องมาฉีดเรื่อยๆ เราก็ไปหาวิธีอื่นต่อไป ที่จริงวิธีที่หาได้ส่วนใหญ่ก็ต้องออกกำลังกาย ใครขี้เหนื่อยขี้เบื่อเหมือนเราจะเข้าใจว่ามันยากมาก จนสุดท้ายได้ผลสรุปว่าเราควรจะดูดไขมัน เห็นแว้บแรกตอนนั่งหาวิธีลดขาใหญ่อยู่เพลินๆ สะดุดตากับคลินิกที่อยู่แถวมาบุญครอง เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานแล้วก็ดูน่าสนใจดี คนแน่นเต็มตลอด

เลยลองเสริชในเน็ตดู หารีวิวคนที่เขาเคยทำกับที่นี่และก็เจอรีวิวเยอะแยะเลยค่ะ มีทั้งคนธรรมดาๆ และพริตตี้ มาดูดไขมันเยอะมาก ส่วนใหญ่ที่เห็นในรีวิวก็ขาเรียวเล็กขึ้นกันทุกคน เราก็มีประกายความหวังว่าถ้าเราได้ดูดไขมันก็น่าจะดีไม่ใช่น้อย เห็นที่นี่เค้าเคลมไว้ว่าปรึกษาฟรีไม่เสียเงินซักบาท เราก็เอาสิ กล้าให้ปรึกษาฟรี เราก็กล้าไปปรึกษาเหมือนกัน เราโทรไปตามที่ในกูเกิ้ลบอกไว้ โทรไปก็มีสอบถามประวัติเล็กน้อย แล้วก็บอกปัญหาส่วนที่เราอยากทำ ทางคอลเซ็นเตอร์ก็นัดคิวมาให้เราค่ะ

แค่ 3 วัน ก็ได้เข้าไปปรึกษาแล้ว  (เห็นในรีวิวบางคนรอเป็นอาทิตย์) เราเดินทางไปถึงคลินิกตอนบ่ายโมง เพราะมีคิวนัดไว้ มาถึงพนักงานก็สอบถามว่าต้องการทำอะไรเล็กน้อย แล้วให้เรากรอกประวัติรอค่ะ ระหว่างรอก็นั่งกินน้ำกินขนมได้ เราก็ไปนั่งชงน้ำมะตูมนั่งกินรอฆ่าเวลาค่ะ นั่งเล่นโทรศัพท์ไป กินขนมไปซักพักใหญ่ๆ พนักงานก็มาพาเราไปคุยกับหมอ บนชั้นสอง

มุมน้ำขนมค่ะ พนักงานบอกกินได้เลย ชอบตรงนี้ของฟรี ฮ่าๆๆ

ได้เจอคุณหมอเชี้ยวค่ะ  เจอหน้าหมอ หมอถามว่าเราเคยศัลยกรรมอะไรหรือเปล่า ฉีดสารแปลกปลอมมามั้ย แล้วเช็คๆ จับๆ ที่ขาเรา หมอก็บอกไขมันส่วนเกินค่อนข้างเยอะ ถ้าให้สังเกตว่าส่วนไหนเป็นไขมัน ส่วนไหนเป็นกล้ามเนื้อให้ลองหยิบเนื้อที่ขาขึ้นมา จับติดขึ้นมาได้เยอะแค่ไหน ก็แปลว่าไขมันเราเยอะเท่านั้นค่ะ ที่จริงหมอก็พูดหลายอย่างอยู่ มีอันนึงที่จำได้คือ หมอบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่ดูดไขมันได้ ถ้าคนที่อ้วนมากๆ ก็จะดูดไขมันมากไม่ได้เพราะอันตราย และต้องดูดไขมันในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะเกินไป ซึ่งคุณหมอต้องวิเคราะห์อย่างเชี่ยวชาญมากๆ เพราะไม่อย่างนั้นหลังดูดไขมันจะทำให้หนังเหี่ยวและย้อยสูง อย่างของเราถ้าอ้วนกว่านี้ซัก 10-20 Kg. อาจดูดไขมันไม่ได้ด้วย เราชอบเพราะหมอทำให้เราเข้าใจ และเห็นว่าจะทำสวยอย่างเดียวไม่ได้ ความปลอดภัยต้องมาด้วย ไม่ใช่สักแต่จะขายของอย่างเดียว คุณหมอใส่ใจดีจริงๆ ค่ะ

พนักงานที่ดูแลไม่ได้บังคับให้ทำ  บอกตัดสินใจก่อนได้นะคะ แต่เราก็แบบเงินมันร้อน เงินมันพร้อม อยากจะดูดไขมันแล้ว เอาเงินเราไปเถอะ ฮ่าๆ ก็เลยตัดสินใจดูดไขมันกับที่นี่ดีกว่า (ที่ตัดสินใจเลือก เพราะคุณหมอดูน่าเชื่อถือ ใส่ใจ และเข้าใจคนไข้ อย่างเรา สงสัยอะไรตอบได้หมด  ประกอบกับรีวิวที่ศึกษามายิ่งมั่นใจ) ตัดสินใจแล้วก็ตกลงจ่ายค่ามัดจำและนัดวันดูดไขมันกับพนักงาน พนักงานจะให้ใบนัดทำศัลยกรรม

Pattama60

ระหว่างนั่งรอ มุมหน้าเคาเตอร์คลินิกสะอาดดีค่ะ

รอดูดไขมันไปอาทิตย์กว่าๆ พนักงานแนะนำการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน  งดกินยา วิตามิน เครื่องดื่มมึนเมา ต้องเลิกกินไปเลย 1 อาทิตย์ แล้วพักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าป่วยหรือไม่สบายต้องแจ้งคุณหมอก่อนด้วย ดีที่ของเราไม่มีปัญหาอะไรเลยจนถึงวันที่ได้ดูดไขมัน

ในที่สุดก็ถึงวันทำจริงแล้ว  เข้าไปแบบมั่นใจว่าจะมีขาเล็กๆ แบบคนอื่นบ้าง   เข้าคลินิกไปช่วงบ่ายแก่ๆ ก่อนดูดไขมัน 1 ชั่วโมง พนักงานก็เอาเอกสารมาให้เราเซ็น เพื่อยินยอมทำศัลยกรรม แล้วก็เอายามาให้ พร้อมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ หลังจากนั้นก็อธิบายว่ายาควรกินเมื่อไหร่ ดูแลตัวเองยังไง นัดมาติดตามผลหลังทำกี่วัน ประมาณนี้ค่ะ

พอได้เวลา พนักงานก็พาเราขึ้นชั้นสองไปเปลี่ยนชุด เราต้องใส่กางเกงในที่คลินิกให้ และเปลี่ยนเสื้อไปใส่เป็นชุดคลุมของคลินิก ของที่เหลือเราก็ฝากกับพนักงานไว้ เราเห็นมีล็อกเกอร์ด้วย น่าจะเก็บไว้ในล็อกเกอร์ล่ะมั้ง ล้างหน้าล้างตาเสร็จ พนักงานก็พาไปห้องใหญ่ๆ เหมือนห้องผ่าตัด เสร็จแล้วพนักงานก็บอกว่าเดี๋ยวจะมารับนะคะ แล้วก็เดินกลับไป เราก็เข้ามาในห้องก็มีพยาบาลอยู่สามสี่คน กำลังยืนเตรียมอุปกรณ์อยู่ เราเห็นเครื่องมือ และอุปกรณ์ในห้องดูดีมีมาตรฐาน ห้องก็สะอาด ดูแล้วสบายตา สบายใจอยู่ค่ะ

เราเห็นหมอเดินตามเราเข้ามาติดๆ แล้วก็คุยกับเราว่าจะต้องดูดไขมันตรงไหนบ้างหมอก็ใช้ปากกาขีดๆ ไว้ค่ะ เราถ่ายรูปมาให้ดูด้วย เห็นขีดเยอะๆ แบบนี้เพราะเราต้องดูดไขมันออกไปทั้งขาเลยค่ะ ขาถึงจะเล็กลง พอขีดเสร็จพยาบาลก็มาทำความสะอาดขาให้แล้วให้เราไปนอนที่เตียง ตอนนั้นก็งงๆ หน่อยเพราะมีหลายขั้นตอน แต่ก็ทำตามที่หมอบอกได้ ซักแปปหมอก็บอกจะฉีดยาให้กับเราอาจทำให้รู้สึกมึนๆ (ซึ่งหมอบอกยาตัวนี้เป็นเทคนิคเพนเลส เป็นเทคนิคเฉพาะของคลินิกที่ทำให้ไม่ตื่นเต้นและตกใจกลัว)พอหมอฉีดยาให้เราก็รู้สึกมึนๆ ขึ้นจริงๆ แต่มึนไม่มาก รู้สึกสบายๆ ไม่เจ็บค่ะ ช่วงนั้นเราก็นอนฟังเพลงวนไปชิวๆ  คุณหมอก็ให้พลิกตัวบางเป็นระยะ พอเสร็จพยาบาลก็ให้ลุกมาใส่ที่ซับน้ำเกลือ เพราะหมอฉีดน้ำเกลือเข้าไปที่ขาด้วย หมอบอกว่า2-3 วันแรกจะมีน้ำเกลือไหลออกมาต้องใส่ผ้าซับน้ำตลอด แต่ถ้าเต็มก็ต้องเปลี่ยน เสร็จแล้วก็ใส่ผ้าซัพพอร์ตทับไว้เฉยๆ

เอา(ไขมัน)ส่วนเกินออกจากชีวิตไปได้ซะที ฮ่าๆ

ดูดไขมันเสร็จหมอก็แนะนำวิธีดูแลหลังดูดไขมัน คืออย่างแรกต้องใส่ซัพพอร์ตตลอดเวลา ตลอด 1 เดือน และ1  อาทิตย์แรกต้องคอยทำความสะอาดแผลทุกวันค่ะ สำหรับเรื่องเซลลูไลท์หรือผิวไม่เรียบหลังดูดไม่ต้องกังวล เพราะ ที่นี่คุณหมอใช้หัวดูดไขมันแบบ Smoothรักษาเซลลูไลท์ และทำให้ผิวไม่เป็นคลื่นหลังดูด ดีอะ ฟังแล้วสบายใจไปอีก  พยาบาลพามานอนพักที่ห้องพักฟื้น ให้เรานอนพักแล้วเอาถังไขมันมาให้เราดูค่ะ เขามีเขียนติดไว้ด้วยว่าดูดไขมันไปได้เท่าไหร่ ของเราดูดไขมันออกมาทั้งหมด 1830 Ml. เทียบเป็นกิโลแล้วก็ดูดไขมันไปเกือบ 2Kg. เลยแหน่ะ เรานอนพักอยู่ประมาณ 30 นาทีได้ก็เริ่มหายมึนเลยกลับบ้านดีกว่า ช่วงที่เดินทางกลับบ้าน ตอนเดินเรานี่เดินชิวๆ สบายๆ ไม่เจ็บ ไม่ปวดเลยค่ะ แต่เดินเร็วๆ ก้าวขายาวๆ ไม่ได้มันรู้สึกตึงๆ ค่ะ

ไขมันส่วนเกินที่ดูดออกมาเยอะมากเลยค่ะ


กลับบ้านมาวันแรก ตอนนั้นเราเช็ดแผลเลยถ่ายเก็บไว้ว่าขาช้ำแค่ไหนค่ะ
ที่เห็นจุดๆ คือรอยแผลหลังดูดไขมันขาเราเอง

Pattama60

กลับมาถึงบ้าน แค่ครึ่งชั่วโมงผ้าซับน้ำก็เต็มแล้วค่ะ ต้องเปลี่ยนเรื่อยๆ แต่ตอนกลางคืนเราจะไม่ได้ตื่นมาบ่อยเลยใช้วิธีที่เคยเห็นในรีวิวคือใช้ผ้าอนามัยค่ะ (แอบอาย) พอใส่ผ้าซัพพอร์ตก็เอาผ้าอนามัยไปแปะไว้ ตรงรอยแผลค่ะ แล้วก็หลับสนิทตลอดคืน ตื่นมาตอนเช้าผ้าอนามัยจะชุ่มๆ หน่อย แต่ไม่ล้นไม่เลอะออกมาข้างนอกค่ะ ดีจริง เราเช็ดแผลวันละ 2 รอบ และอาบน้ำทุกวันค่ะ แต่แผลห้ามโดนน้ำนะคะ ใช้ปลาสเตอร์กันน้ำปิดแผลแล้วอาบน้ำ อาบเสร็จก็เอาออกค่ะ เดี๋ยวแผลอับ เวลาอื่นเราก็ใส่ผ้าซัพพอร์ตค่ะ ใส่ตลอดยกเว้นตอนอาบน้ำนะคะ กลัวขาไม่กระชับ ฮ่าๆ วันที่ต้องไปทำงานก็ใส่ซัพพอร์ตแล้วก็นั่งทำงานได้สบายๆ ค่ะ ไม่เจ็บไม่ช้ำ ไม่ต้องลางานพักฟื้นขาเลยค่ะ

ครบอาทิตย์มาตัดไหมและคุยกับหมอค่ะ

ครบอาทิตย์ต้องกลับไปคลินิกเพื่อตัดไหมและคุยกับหมอค่ะ ขาเราค่อนข้างมีรอยช้ำเยอะอยู่หมอแนะนำให้ประคบอุ่นเพื่อให้เลือดไหลเวียนดีๆ แล้วรอยช้ำจะหายเร็วขึ้นด้วย ที่เหลือเราก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากที่หมอกำชับให้ใส่ซัพพอร์ตตลอด 1 เดือน เรากลับมาก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าน้ำหนักหายไปบางมั้ย แต่น้ำหนักลดไปนิดหน่อยเองค่ะ ประมาณเกือบโล แต่ก็รู้สึกว่าตอนใส่กางเกง (เราใส่ขายาว) จากที่เคยใส่ลำบากก็ใส่ได้ง่ายขึ้น

หลังดูดไขมัน 1 เดือน ถ่ายรูปให้ดูหน้าหลังเลยค่ะ ว่าขาเล็กลงจริงๆ ปลื้มมาก

หลังดูดไขมัน 1 เดือนค่ะ


หลังดูดไขมัน 1 เดือนครึ่ง ขาเล็กได้ใจมาก

ครบ 1 เดือนเราก็กลับไปคลินิกอีกรอบ เพื่อเช็คว่าขาเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้รอยช้ำเราหายไปหมดแล้วค่ะ ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยตั้งแต่ทำมา แถมตอนนี้ขาก็เรียวขึ้นเยอะมากค่ะ ที่จริงหมอเขาก็บอกว่าเดี๋ยวอีกซัก 3 เดือนจะเข้าที่กว่านี้ แต่เราว่าตอนนี้ก็เห็นผลเยอะแล้วนะเนี่ย คือขากระชับใส่กางเกงง่ายขึ้น ใส่แล้วพอดีขาพอดีเอว ไม่หลวมเอวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แล้วเรารู้สึกว่าตั้งแต่ดูดไขมันมาใส่อะไรก็สวยมั่นใจ  แถมตอนนี้รอยแผลจากการดูดไม่มีแล้วค่ะ  ไม่ผิดหวังเลยที่เลือกดูดไขมันที่คลินิกนี่ ใครที่ออกกำลังกายแล้ว แต่ขายังใหญ่คุมซอยอยู่ตลอดๆ  แล้วอยากสัมผัสขาสวยบ้างสักครั้งในชีวิต  เราว่าการดูดไขมันช่วยได้ดีเลย  สำหรับเราถูกใจที่นี่ เพราะ พนักงานบริการดี คุณหมอเก่งมีความเชี่ยวชาญด้านนี้  เน้นความปลอดภัยมาก่อน  ถือว่าคุ้ม เสียเงินครั้งเดียว เจ็บนิดเดียวขาเรียวกระชับเลยอ่ะ  ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เสียเวลาพักงานด้วย  ใครสนใจลองนัดปรึกษาที่Line @masterpiececlinic เหมือนเราก่อนก็ได้ค่ะ  เราเองคงไม่มีวันนี้   ถ้าเราไม่ตัดสินใจที่เข้าไปปรึกษาและดูดไขมัน  ขาคงใหญ่ไปตลอดๆ   ตอนนี้ลาขาด ขาหมู  แต่ยังไงก็อย่าลืมดูแลตัวเอง ออกกำลังกายบ้างไม่ให้ขากลับไปใหญ่เหมือนเดิมนะคะ

ก่อนดูดไขมันและดูดไขมันไป 1 เดือนครึ่งค่ะ กล้าแต่งตัวสวยๆ อวดคนอื่นแล้วค่ะ

auygotgot

ไปทำราคาเท่าไหร่คะ

rilakkumi

ตอนทำเจ็บมั้ยอ่า ดูขาช้ำๆ น่าจะเจ็บ

Pattama60

auygotgot ตอบกลับเมื่อ 2017-9-14 15:46
ไปทำราคาเท่าไหร่คะ

เราทำ 49,000 จ้า

Pattama60

rilakkumi ตอบกลับเมื่อ 2017-9-14 16:20
ตอนทำเจ็บมั้ยอ่า ดูขาช้ำๆ น่าจะเจ็บ

ไม่เจ็บจ้า เดินได้สบาย แต่มีชาๆตรงที่ดูดนิดๆ

Firstty3740

แนะนำที่มาสเตอพีชคลินิคคะ เคยดูดต้นแขนกับต้นขาลดลงอย่างเห็นได้ชัดคะ
สนใจไปทำพร้อมกันนะคะ line: farrollyfirstty