|
![](http://www.dungdong.com/rd/22021986.png)
ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยที่ไม่สามารถลงรูป และให้ LINE ติดต่อได้ เนื่องจากไม่ได้บอกใครว่าศัลยกรรม (ขอโทษจากใจจริงๆ) แต่จะมาเล่ารายละเอียดการผ่าตัดให้ฟังค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นอีกรีวิวให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในการตัดสินใจก่อนทำ เพราะเราคิดว่าข้อมูลประกอบการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆๆ เหมือนที่เราได้อ่านรีวิวจากศิษย์พี่หลายคนในห้องนี้ค่ะ ระบุชื่อได้ไม่หมด แต่ขอบอกว่าอ่านแทบทุกคน
ต้องขอบคุณมากๆเลย มันเป็นบุญคุณที่ยิ่งใหญ่จริงๆ (ไม่ได้เว่อร์เลยน๊า) ดังนั้นจุดประสงค์ที่มาเล่าก็เพื่อเพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจอยู่ค่ะ...ไม่ได้เป็นหน้าม้าแต่อย่างใด
ตอนนี้เราพึ่งผ่าตัดมาได้ 6 วัน
ขอเล่าตั้งแต่วันแรกที่มาปรึกษาค่ะ
ต้นกุมภา : เรามาคลินิกจาก BTS ลงสถานีแบริ่ง แล้วต่อแทกซี่ (บอกแทกซี่ว่าลงอุดมเดช) ผ่านพิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร เลยมาไม่เยอะ คลินิกอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 11 กับ 13 ค่ะ
ก่อนมาก็โทรเชคกับเจ้าหน้าที่ก่อน เค้าให้เรามาประมาณ 5 โมงเย็น แต่เรามา 4 โมงกว่าๆ สุดท้ายคุณหมอมาทุ่มครึ่ง - -
แล้วพนักงานก็เรียกเข้าห้อง ขอบอกว่าเรากลัวหมอมากกก...รู้สึกได้ถึงความดุ 55 เพราะถามอะไรไปแกก็ตอบกวนๆ แต่ข้อดีของแกคืออธิบายหมดค่ะ เราก็บอกไปว่าอยากตัดโหนกกับกราม
หมอก็ประเมินหน้าเราให้ก่อน เราเป็นคนกะโหลกใหญ่ หน้ากลมป๊อก โหนกแก้มเป็นลูก แต่ว่าไม่ได้ยื่นออกมาด้านข้างเยอะนะคะ คือเนื้อตรงขมับเราเต็มอะค่ะ ส่วนกรามก็ใหญ่พอประมาณ และพอมีคางอยู่แล้ว แค่ไม่แหลมออกมามาก เราจึงไม่อยากทำวีไลน์
หมอก็บอกก่อนเลยว่า...คุณน่ะ หน้ากลมมาก จะผ่าแล้วเรียวเป็นดาราเกาหลีมันก็เป็นไปไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจ ว่าพื้นฐานคนต่างกัน หมอก็แนะนำให้ทำวีไลน์ จะได้มีคางมายื่นรองรับเนื้อ
แต่ใจเราไม่เอาค่ะ เพราะกลัวคางออกมาแหลมเกิน ชอบคางสั้นๆมากกว่าเพราะโครงหน้าเราเหมาะกับแบบนี้ ก็ได้แต่ตอบหมอว่า ค่ะๆๆ (กลัวหมอดุ)
หมอก็อธิบายต่อ ว่าโหนกแก้มสามารถตัดได้ตั้งแต่บริเวณก่อนจะถึงหู ไล่เข้ามาตรงมุมกระดูก ส่วนกรามก็ตัดตรงมุมออก แต่ถ้าทำวีไลน์จะเหลาให้มาถึงคาง จึงได้รูปหน้าที่เรียวกว่าตัดกรามอย่างเดียว
ถามหมอเรื่องไทเทเนียมที่เอามายึด เวลาเดินผ่านเครื่องสแกนมันจะดังมั้ย หมอตอบว่า คุณเคยอุดฟันมั้ย มันเล็กยิ่งกว่าที่ใช้อุดฟันอีก สรุปว่าไม่ดังนะ
สุดท้ายเราขอทำเพราะมันเป็นปมด้อยเรามาตั้งแต่เด็ก โดนล้อว่าหน้าแป้นมาตลอด ไม่เคยทำผมทรงอื่นนอกจากเอาผมมาปิดหน้า ลมพัดทีนี่ โห ผู้ชายมอง (แบบอึ้งๆ 555) ถึงแม้อาจจะลดได้ไม่เรียวเว่อ แต่อย่างน้อย การตัดออกไปมันก็เรียวลงแน่นอน เพราะได้ทำเต็มที่แล้วกับราคาเท่านี้ เราก็พอใจมากแล้วค่ะ
ก่อนหน้านี้ หน้าเราฉีดเมโสเป็นสิบๆครั้ง โบท๊อกก็แล้ว ผ่าไขมันกระพุ้งแก้มก็เคย หน้าก็ยังกลมอยู่ ก็เลยใช้วิธีนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย
ออกจากห้องหมอมาจองคิว ต้องมัดจำ 5000 บาท ไม่ว่าทำกี่รายการก็เท่านี้ จองได้วันที่ 1 พ.ค. วันแรงงานพอดี ไชโย แต่ก็พอทราบเรื่องโรคเลื่อนขอหมออยู่ ไม่เป็นไรค่ะ เราหวังผลจากการผ่าตัดมากกว่า
ราคาลดโหนกแก้ม 70000 + ตัดกราม 50000 รวมเป็น 120000 มัดจัด 5พัน ที่เหลือเอามาจ่ายวันผ่า
ระหว่างนี้มีเวลาประมาณ 3 เดือน พยาบาลให้งดวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด แต่เราไม่ทานอยู่แล้ว แต่มีปัญหาคือเราความดันต่ำ เวียนหัวง่าย ก็กลัวๆอยู่ ระหว่างนี้ก็ออกกำลังกายเบาๆค่ะ นอกนั้นก็กินอาหาร กินๆจนน้ำหนักขึ้นมา 2 โลแน่ะ |
|