|
ต้นฉบับโพสต์โดย บีบีค่ะ เมื่อ 2012-10-23 23:00 ![]()
โทดทีถามอีกข้อนะค่ะ แร้วผิวทรายกะธรรมดา
มันหั้ยควา ...
รูปทรงของถุงซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมหน้าอก
1. ทรงกลม
เมื่อใส่เข้าไปแล้วจะคงรูปเป็นทรงกลมแบน โดยแพทย์จะเปิดแผลที่ใต้รักแร้ทั้งสองข้าง และเคลื่อนตัวถุงซิลิโคนจากรักแร้ มาวางไว้ที่เต้านมได้โดยที่ยังคงรูปเป็นทรงกลมซึ่ง ซิลิโคนทรงกลม จะดูแลได้ง่าย เนื่องจากหลังจากเสริมหน้าอกแล้ว คนไข้จะต้องทำการนวดหน้าอกเพื่อป้องกันปัญหาการเกิด ผังผืดหดรัดถุงซิลิโคน และทำให้เต้านมที่เสริมไปแข็งตัวได้ ซึ่งซิลิโคนทรงกลม จะง่ายต่อการนวดหน้าอกหลังเสริมได้เป็นอย่างดีถุงผิวเรียบจะมีลักษณะผิวภายนอกเรียบเวลาใส่ไปในร่างกายพังพืดจะหดรัดรอบๆผิวเรียบโดยไม่เกาะกับผิวของถุง พังพืดเหล่านี้ถ้ามีการหดตัวจะทำให้เกิดพังพืดหดรัดทำให้มีรูปร่างผิดไป ถุงผิวทรายจะมีเนื้อเยื่อรอบๆเกาะติดกับผิวของถุงผิวทรายซึ่งทำให้ลดโอกาสที่พังพืดจะมีการหดตัวรัดถุงซิลิโคนได้ ถุงผิวเรียบจะไม่มีเนื้อเยื่อพังพืดเกาะติดกับผิวของถุงได้ทำให้มีโอกาสเกิดพังพืดหดรัดได้มากกว่า
2. ทรงหยดน้ำ
ซึ่งสาว ๆ ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการเสริมหน้าอก ควรเสริมด้วย ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เพราะจะได้หน้าอกหลังเสริมที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ แต่ความจริงแล้วการเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนทรงหยดน้ำ โดยการเสริมและการดูแลยากกว่าถุงซิลิโคนทรงกลมพอสมควร
ดังนั้น..จึงมี ค่าใช้จ่ายในการเสริมหน้าอกที่สูงกว่าทรงกลม เนื่องจากซิลิโคนทรงหยดน้ำถูกออกแบบมาให้มีรูปทรงเฉพาะ ต้องมีการวางตำแหน่งที่เหมาะสม โดยไม่ควรมีการหมุนตัวได้
ซึ่งการผ่าตัดจะต้อง เปิดแผลใต้ฐานเต้านม เท่านั้น โดยแพทย์จะต้องเปิดช่องสำหรับวางซิลิโคนให้พอดี โดยไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป และ์จะต้องวางถุงซิลิโคนให้พอดีกับช่องว่างด้วย เพื่อไม่ให้ซิลิโคนหมุนตัวได้ มิฉะนั้นจะ เกิดปัญหาถุงซิลิโคนผิดรูป ทำให้เต้านมหลังเสริมบิดเบี้ยวได้ |
|