|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย unchy เมื่อ 2011-5-24 05:03
โทษทีนะคะ ไม่ได้เข้าเว็บนานเลยค่ะ พอดีช่วงนี้อัญงานยุ่งมาก
"""" """"""
ตอบคุณ kuro00 นะคะ ผ่าตัดบอกได้เลยว่า ไม่เจ็บ เพราะหลับค่ะ ตื่นมามีแสบนิดหน่อยพอทนได้
แผลทีทำ ของอัญด้านนอก ชิดขอบตา วันแรก ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอผ่านไปได้ครึ่งวัน คราวนี้บวมมาเลยค่ะ 1-2 วันแรกต้องทนหน่อยนะคะ
วันที่ 3 มีออกม่วงๆ นิดหน่อย พร้อมกับอาการบวม พอวันที่ 4-5 ก็จะเป็นเขียวจางๆ ส่วนอาการบวมลดลงมากเลย (อัญก็ออกไปเดินเล่นที่ห้างชิลๆ)
วันที่ 6 เข้าที่เข้าทาง ไปทำงานได้ค่ะ อ้อ ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่ 3 อัญประคบเย็นตลอดค่ะ พอวันที่ 4-6 ประคบร้อนให้รอยเขียวๆ ม่วงๆ หายค่ะ
อาการตาปลิ้นของอัญเป็นอยู่ 2 อาทิตย์ค่ะ แต่ตาปลิ้นของอัญจะรู้สึกเองนะคะ คนอื่นจะไม่เห็นว่าตาปลิ้น
ที่บอกว่ารู้สึกเองคือ บังคับไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกขอบตาล่าง
เวลาสระผม ล้างหน้าก็จะเข้าตา หงุดหงิดอยู่ในช่วงเวลานั้นค่ะ
ซึ่งเป็นธรรมดาของการผ่าตัด ที่อาจไปโดนเส้นประสาทเล็กๆ ที่อยู่บริเวณนั้น พอผ่านไปร่างกายก็ซ่อมแซมกลับมาได้ปกติค่ะ
ตอนนี้ผ่านมาได้ 2-3 เดือนแล้ว ที่ทำงานไม่มีใครรู้เลยว่าทำอะไรมา มีแต่ทักว่า "พักนี้ดูสวยขึ้นนะ"
ผู้หญิงหรือไม่ก็ผู้ชายเป็นเหมือนกันหมดค่ะ คือ ถ้าไม่มีถุงใต้ตาห้อย หน้าเราก็จะดูอ่อนลง ง่ายๆ ก็คือดูดีขึ้นนั่นเอง
ส่วนคำถามของคุณ dujdang อัญถามคุณหมอว่าถ้าฉีดไขมันอยู่ได้กี่ปี แล้วถ้าเที่ยบกับฟิลเลอร์ อันไหนโอเคกว่ากัน
คุณหมอตอบงี้ค่ะ ไขมันอยู่ได้ 5 ปี ถ้าเราไม่ไปอบเซาว์น่าบ่อยๆ หรือลดน้ำหนักด้วยยา อันนี้ไม่เป็นอันตรายแน่นอน เพราะเป็นไขมันตัวเอง
ส่วนฉีดฟิลเลอร์ ก็ต้องดูอีกว่าเป็นฟิลเลอร์แบบไหน ถ้าเป็นแบบ 1-3 ปี เรียกว่าแบบถาวร ซึ่งจะมีผลเสียตามมาคือ จะเป็นไตแข็งๆ เอามีลูบคลำจะรู้สึกขรุขระ นานๆ เข้าดูไม่เรียบ ย่อยสลายได้บ้าง แต่ไม่หมดไป
แต่ถ้าเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่อันตราย ต้องเป็นแบบชั่วคราว คือ 3 เดือน หรือเต็มที่ได้ก็ประมาณ 5-6 เดือน อันนี้ย่อยสลายหมดค่ะ แต่จะเปลืองตังค์ต้องมาฉีดเติมเรื่อยๆ แล้วก็ต้องได้หมอที่เชี่ยวชาญมาฉีด
ราคาผ่าตัด 20000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน)
ส่วนราคาฉีดฟิลเลอร์ 15000 บาท (หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะอัพรูปให้นะคะ |
|