ดู: 56|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สิวและการรักษา เคล็ดลับในการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับประเภทสิว

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย iamborfor เมื่อ 2025-1-23 17:57




สิวเกิดจากอะไรบ้าง

สิว เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนในผิวหนังเกิดการอุดตันจากน้ำมัน (Sebum) ที่ผลิตโดยต่อมไขมัน (Sebaceous glands) และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ชื่อ Propionibacterium acnes หรือ Cutibacterium acnes เข้ามาเติบโตในบริเวณที่อุดตัน จะทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวในที่สุด

สิวมีกี่แบบ ทำความรู้จักประเภทของสิว

​​สิวสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ดังนี้

  - สิวอุดตัน สิวชนิดนี้เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน มีลักษณะเป็นหัวขาวหรือหัวดำ มักไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ
  - สิวอักเสบ สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม หรือมีหนอง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน
  - สิวหัวหนอง สิวที่มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง อยู่ในกลุ่มสิวอักเสบ แต่มีหนองที่ชัดเจน
  - สิวซีสต์ สิวที่มีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ ใต้ผิวหนัง เจ็บปวดและอักเสบรุนแรง มักทิ้งรอยแผลเป็น
  - สิวฮอร์โมน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย มักเกิดบริเวณคางและแนวกราม


การรักษาสิวด้วยวิธีทางการแพทย์

1. ยารักษาสิว
  - ยาทา (Topical treatments)
  - เรตินอยด์ (Retinoids): เช่น Tretinoin หรือ Adapalene ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและเร่งการผลัดเซลล์ผิว
  - เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide): ช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและลดการอักเสบ
  - กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid): ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
  - แอนตี้ไบโอติก (Antibiotics): เช่น Clindamycin หรือ Erythromycin เพื่อลดการอักเสบและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  - ยารับประทาน (Oral medications):
  - ยาปฏิชีวนะ (Oral Antibiotics): เช่น Doxycycline หรือ Minocycline ใช้รักษาสิวอักเสบและสิวที่มีการติดเชื้อ
  - ยาฮอร์โมน (Hormonal Therapy): เช่น Oral Contraceptives สำหรับผู้หญิงที่สิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  - ยาอิซอเตรติโนอิน (Isotretinoin): ใช้สำหรับสิวรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ มักใช้ในกรณีของสิวซีสต์หรือสิวที่มีการอักเสบรุนแรง
2. การรักษาโดยการใช้เลเซอร์และแสง
เลเซอร์ เช่น Fractional CO2 laser หรือ Pulsed Dye Laser (PDL) สามารถช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว
แสงอินฟราเรด (Infrared light therapy): ช่วยฆ่าแบคทีเรียในรูขุมขนและลดการอักเสบ
การบำบัดด้วยแสงสีน้ำเงิน (Blue Light Therapy): ฆ่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
3. การทำทรีตเมนต์ทางการแพทย์
การขัดผิวด้วยกรด (Chemical Peels): การใช้กรดในการผลัดเซลล์ผิวเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยลดสิวและรอยแผลเป็น
การทำ Microneedling: ใช้เข็มขนาดเล็กกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว
การระบายสิว (Extraction): การถอนสิวที่อุดตันในกรณีที่มีสิวหัวดำหรือหัวขาว
4. การรักษารอยแผลเป็นจากสิว
การทำเลเซอร์รักษารอยแผลเป็น (Scar Treatment Lasers): เลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของผิว ลดรอยแผลเป็นจากสิว
การใช้สารเติมเต็ม (Dermal Fillers): ใช้เติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
5. การรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมและโภชนาการ
แพทย์อาจแนะนำให้ปรับการรับประทานอาหาร และการดูแลผิว เช่น การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน




สรุป
การรักษาสิวให้ได้ผลเริ่มต้นจากการเข้าใจประเภทของสิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม อย่าลืมดูแลสุขภาพผิวด้วยการทำความสะอาดและป้องกันสิวตั้งแต่ต้น หากสิวมีอาการรุนแรงหรือรักษาด้วยตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด ผิวที่สุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลที่ถูกวิธีค่ะ อย่าปล่อยให้รอยสิวทำลายความมั่นใจ! ที่ Vincent Clinic เรามีบริการเลเซอร์และทรีตเมนต์ฟื้นฟูผิวที่ช่วยลดรอยสิวและทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดูแลคุณทุกขั้นตอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://vincent.clinic/
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้