สวัสดีค่ะ วันนี้มารีวิวตามคำเรียกร้องของเพื่อนๆเว็บดั้งโด่ง
ยังจำกันได้มั้ยคะ สำหรับกระทู้ติดท็อปเมื่อปีที่แล้ว
" (ภาพสยองนิดนึง โปรดทำใจ)
ปากกำลังจะเน่ารึป่าวคะ ใครก็ได้ช่วยที "
ใครยังไม่เคยอ่าน โปรดจิ้มตามไปอ่านก่อนที่ลิ้งนี้ค่ะ >>>
http://www.dungdong.com/forum.php?mod=viewthread&tid=95075
เราจะไม่ไซโค หรือบอกว่าที่ไหนแย่ ห่วย ดีหรือไม่ดี
เพราะเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลีนิคไหนทั้งนั้น
แต่เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพื่อเก็บไว้เป็นข้อคิด และอุทาหรณ์
ดังนั้น เราอยากให้ทุกคนตัดสินใจด้วยตัวเอง คิดให้รอบคอบ ใช้วิจารณญาณและสติไตร่ตรอง
เราเชื่อว่าทุกคนที่ศัลยกรรมล้วนอยากสวย และอยากเจอคลีนิคดีๆ หวังให้หมอทำออกมาให้ดีที่สุด
แต่.. บางครั้ง ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ออกมาเป็นแบบที่เราคาดหวังไว้เสมอไป
ขอเริ่มต้นเล่าคร่าวๆแล้วกันนะคะ..
เรื่องมันเริ่มจากที่ เราได้ตัดสินใจไปทำศัลยกรรมปากบางที่คลีนิคหนึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต มีเพื่อนๆถามเข้ามากันเยอะมาก
บอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกันค่ะ ชื่อคลีนิคที่เราตัดสินใจเลือกทำคือ "
เอลิแกนซ์คลีนิค " อยู่แถวๆม.ธุรกิจบัณฑิตย์
เพราะตอนนั้นคลีนิคมีโปรโมชั่น ศัลยกรรมเคสเรียน (คือให้นศ.แพทย์มาเรียนทำด้วย) ราคาแค่ 4000 บาท
ซึ่งถือว่าถูกและคุ้มมาก แต่ยังมีค่ายาที่ต้องจ่ายแยกต่างหาก ประมาณ 1000 กว่าบาท รวมเบ็ดเสร็จก็ราวๆ 5000 กว่า
แต่สุดท้ายแล้วมันกลับกลายเป็น การศัลยกรรมที่เราต้องจดจำไปทั้งชีวิต ซึ่งเราได้เขียนบรรยายไปในลิ้งกระทู้ข้างบนเกือบหมดแล้ว
ทั้งความรู้สึก ก่อน ระหว่าง หรือหลังทำ กระทู้นี้เราจะลงรูปให้ดูคร่าวๆ ใครอยากดูตัวเต็ม เชิญตามไปอ่านที่กระทู้เก่าค่ะ
นี่คือปากเดิม ไม่เคยทำอะไรใดๆทั้งสิ้น
บางคนบอกว่า ทำทำไม ปากสวยอยู่แล้ว ใช่ค่ะ..มันไม่ได้หนามาก แต่เราใฝ่ฝันอยากมีปากบางๆ กระจับน่ารักแบบ komi.xi
และนี่คือภาพหลังทำ ขอบอกเลยว่า
#ร้องไห้หนักมาก!!!!
" ปากเราอักเสบ บวม เจ็บปวดทรมานที่สุดในชีวิต ทนพิษบาดแผล นอนร้องไห้ทุกวันตั้งแต่ตื่นยันหลับ "
หมอทำดี หรือไม่ดี ขอไม่คอมเม้นตัดสินแล้วกันนะคะ ลองดูจากสภาพปากกันเอาเอง
ตอนนั้นมีพี่เว็บมาสเตอร์ และเพื่อนๆชาวเว็ปดั้งโด่งเข้ามาให้กำลังใจกันเยอะมากๆ รวมถึงช่วยแนะนำวิธีในการรักษา
ต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่ะ บางคนก็แนะนำให้ไปถามคลีนิค เราลองถามแล้ว คำตอบคือ
"ปกติค่ะ เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวก็หาย"
้เราได้แต่รักษาไปตามอาการ ตามที่เพื่อนๆบอกคือ หมั่นเม้มผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือเยอะๆ ซึ่งผลก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ
แต่กว่าจะดีขึ้น ใช้เวลานานมากกกกกก กว่าแผลจะหาย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และผลลัพธ์ที่ได้คือ
ปากไม่บางลงเลย
เอารูปให้เพื่อนๆดูก็บอกว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่สิ่งที่ได้เพิ่มมาคือ รอยดำ รอยแผลเป็นที่ชัดมาก ผังผืด และก้อนไต
(ซึ่งนวดมาหลายเดือนก็ไม่หายไปแต่อย่างใด) ช่วงแรกๆเขามาขอรีวิวจากเรา ซึ่งเรายังทำใจว่าสักวันมันจะบางลงและสวยขึ้น
เราเลยส่งรูปรีวิวไปค่ะ คือมองในรูปถ่าย เวลาทาลิปหรือถ่ายรูปอาจจะดูไม่ออก เผินๆเหมือนจะสวยด้วยซ้ำ (อย่างที่บอก ว่าปากเดิมเราไม่ได้แย่มาก)
แต่ถ้าอ้าปากคุย จะเห็นชัดเลยค่ะ ว่าผิวปากมันเป็นคลื่นเบี้ยวๆ มีตุ่มๆไต และมีรอยแผลเป็น
ซึ่งไอ้รอยแผล ผังพืด กับก้อนไตนี่แหละ ที่รังควาญชีวิตมาก ไม่ได้การละ
ขืนปล่อยไว้แบบนี้ชีวิตพังแน่ๆ แย่กว่าปากเดิมอีก
สุดท้ายเราเลยเลือกตัดสินใจที่จะไปแก้ปากค่ะ
โดยรอบนี้ศึกษาข้อมูลมาทุกเว็บ คลีนิคไหนที่เขาว่าดี หมอไหนทำสวย แผลสวย ไม่เจ็บ
จนสุดท้ายก็มาลงเอยกับคุณหมอท่านนึง....
ปล. เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อในคอมเม้นนะคะ กลัวข้อความมันยาวเกิน แล้วอัพไม่ขึ้น
#edit เพิ่มรูป