เล่าประสบการณ์ ตัดกราม+โหนกแก้ม กับคุณหมอจุฑา ปากน้ำ จ้ะ ;)

Mangotree

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า... ใครที่จะเข้ามาด่าคุณหมอ ขอให้ข้ามกระทู้เราไปนะจ๊ะ
เพราะสิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ เราอยากแบ่งประสบการณ์กับน้องๆเพื่อนๆที่กำลังสนใจจะทำ
ไม่ได้ต้องการเข้ามาด่าคุณหมอแต่อย่างใดจ้ะ

ขอแนะนำตัวนะจ๊ะ เราชื่อ มะม่วง
อายุ 30 กว่าแล้วล่ะ แต่อยากสวย อยากดูดี อยากหน้าเล็กจิ้มลิ้ม ก็เลยทำ

ก่อนหน้าที่จะไปทำ เราหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ 2 ปี จากหลายๆเว็บ
และหลายๆคนที่มีประสบการณ์
ก็มีแต่คนแนะนำ คุณหมอจุฑา ปากน้ำ กับคุณหมอจรัญ มหาทุมะรัตน์
เพราะทั้งสองท่านเชี่ยวชาญเรื่องกระดูกกะโหลก

ใจจริงตอนแรกอยากทำกับคุณหมอจรัญ เหมือนกันนะคะ
เพราะเราทำตากับแก้จมูกกับแกมา สำหรับเรา คุณหมอจรัญทำออกมาดีมาก พอใจมาก   
แต่สำหรับเรื่องกรามกับโหนกแก้ม เพื่อนเราบอกแพงมากกก ก็เลยลองมาปรึกษาที่คุณหมอจุฑา

---------------------------------------------------------------  

วันแรกที่มาปรึกษา ขับรถมาทางมอเตอร์เวย์ ขึ้นทางด่วน มาตามป้ายสมุทรปราการ
เห็นช้างสามเศียรปุ๊บก็ลงได้เลย จะลงตรงช้างสามเศียรพอดี (เรามาจากพระราม 9 ค่ะ)  
มาถึง รอคิวปรึกษาตั้งแต่ 4 โมงนิดๆ คุณหมอลงมาตอน 6 โมงได้
พอได้คุยเท่านั้นล่ะ เรา OK เลย
คุณหมอกวนๆจริง แต่แกก็ยิ้มตลอด ออกฮาๆ ถามไรก็ตอบแบบตรงๆ ตอบทุกคำถาม
ไม่โน้มน้าวให้เราทำเลย บอกทั้งข้อดีข้อเสีย ซึ่งเราชอบ   

คุณหมอบอกว่าของเราตัดออกได้ไม่มากนะ จะทำเหรอ? เราก็บอกว่า ทำค่ะ
หมอบอก มันนิดเดียวนะ ทำแต่กรามไม๊? เราก็บอกว่า ทำทั้งกรามทั้งโหนกแก้มค่ะ
คุณหมอหันไปเห็นอายุเรา คุณหมอหันมาจ้องหน้า
นี่คุณ 30 กว่าแล้วหรอเนี่ย จะสวยไปทำไม๊ (ออกฮาๆ) ทั้งเราและคุณหมอหัวเราะดังเลย
เราก็บอกว่า... อยากสวยขึ้นน่ะค่ะ
คุณหมอถามต่อว่า... มันแสนกว่าเลยนะ เอาตังไปทำบ้านทำรถดีกว่าไม๊?
เราก็ตอบว่า... ไม่ค่ะ หนูเก็บเงินมา ก็เพื่อมาหาคุณหมอนี่ล่ะค่ะ
คุณหมอหัวเราะดังเลย บอกว่า.. เอ้า ทำก็ทำ งั้นคุณไปจองคิวได้เลย

ก่อนออกมาจองคิว เราลองถามคุณหมอว่า เราทำวีไลน์ดีไม๊ แต่คุณหมอบอกว่า
คางเรายาวได้รูปแล้ว อย่าทำเลย เอากรามกับโหนกแก้มก็พอ
รวมค่าใช้จ่ายแล้ว.. กราม 50,000 + โหนกแก้ม 70,000 = 120,000 บาท

โอเคค่อยยังชั่ว อยู่ในงบ เรามีงบเกือบสองแสน
ดีเลย เงินเหลือด้วย ไว้ไปทำสวยอย่างอื่นต่อ... อิอิอิ ^^

ออกมาจองคิว ได้คิวปลายเดือนพฤศจิกายน (ต้องรอคิว 2 เดือน)
สำหรับเราแล้ว ดีออก ตั้งสองเดือน จะได้เตรียมตัวหลายๆอย่างด้วย

หลังจากนั้น เราก็กลับมาเตรียมตัว ด้วยการ งด วิตามินบำรุงผิวพรรณ
เหลือแต่ทานธาตุเหล็ก เพื่อบำรุงเลือดเท่านั้น
เคลียร์งาน ส่งต่องาน เคลียร์บ้านจนเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลอะไร
และออกกำลังกายเบาๆทุกวัน เพราะมีคนบอกว่ามันจะช่วยให้เราฟื้นตัวเร็ว

   

ANNA_16

หายไวๆคร่า สวยแน่นอน หน้าเด็กลงด้วย ขอบอกค่ะ อิอิ

Mangotree

ต้นฉบับโพสต์โดย pond เมื่อ 2013-12-31 01:56
หายไวๆ สวยแน่ครับ

ขอบคุณมากนะคะ ^___^

Mangotree

พอถึงวัน เจ้าหน้าที่โทรมาว่าถึงคิวแล้ว ให้มานอนรอ เราก็ไปที่คลีนิคช่วงเย็น
มีเจ้าหน้าที่มาเจาะเลือด และมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายพาเราไปเอ็กสเรย์แบบละเอียด ที่ รพ.เปาโล
กว่าจะกลับมาถึงก็เกือบสองทุ่ม เจ้าหน้าที่ผู้หญิงลงมารับเราและพาเราไปที่ห้องพักค่ะ

ห้องพักในคลีนิคอยู่ชั้นบน แต่ละห้องมีบริเวณกว้างพอสมควร พออยู่ได้ 2 คน
ถ้ามีคนมาเฝ้า ในห้องก็มีโซฟาปรับนอนได้ค่ะ แต่คนมาเฝ้าได้แค่คนเดียวนะคะ
ห้องไม่น่ากลัว เป็นห้องกั้น ติดๆกัน แต่กั้นไม่ติดเพดาน
ว่าง่ายๆ ถ้าห้องข้างๆเปิดไฟ หรือคุยกัน เราก็จะได้ยินค่ะ

และแล้ว ผลจากการกินวิตามินธาตุเหล็กเท่านั้น (ห้ามกินวิตามินอย่างอื่นนะคะ)
ก็ทำให้ผลเลือดของเราออกมาดีมาก ไม่ต้องใช้เลือดสำรอง ทั้งที่เราค่อนข้างผอม

เรานอนรออยู่ 3 คืนถึงได้ทำค่ะ เพราะคุณหมอมีแต่เคสใหญ่ๆทั้งนั้น
และพี่พยาบาลชุดขาวบอกว่า..
คุณหมอละเอียดและเนี๊ยบมาก แต่ละเคสยากง่ายไม่เหมือนกัน
ถ้าไม่สวยไม่ดี คุณหมอจะไม่ปล่อยออกมา

เราก็ไม่เร่งไม่รีบอะไรค่ะ ชิลๆ นอนดูทีวี คุยเล่นกับพี่พยาบาล กินขนม เดินไปเดินมา
เดินๆๆๆออกกำลัง ดื่มน้ำเยอะๆ เผื่อหลังผ่าจะได้ฟื้นตัวเร็ว

เราเคยอ่านเจอเรื่องที่ว่าเจ้าหน้าที่พูดไม่ค่อยดี สำหรับเรา... เจอเหมือนกันค่ะ
ตัวผอมๆ ผมยาวๆ ชอบใส่ชุดสีฟ้า น่าจะเป็นผู้ช่วยพยาบาล อยู่ชั้นบนซะส่วนใหญ่  
เดินมาทีไรชอบพูดห้วนๆ พูดไม่ค่อยดี (ใครไปลองสังเกตดูนะจ๊ะ)

แต่ก็แค่คนเดียวนะคะ... นอกนั้น ทั้งพยาบาลชุดขาวและเจ้าหน้าที่คนอื่น เขาดีหมดค่ะ
ดูแลเราดีมาก พูดคุยหัวเราะ ชวนดูทีวี พูดจาดี สุภาพ น่ารัก
โดยเฉพาะพี่พยาบาลชุดขาวทั้งสองท่าน น่ารักมากๆเลยค่ะ ^^

------------------------------------------------------------

หลังจากรอมา 3 คืน ถึงวันที่ได้ผ่าซักที
เจ้าหน้าที่มาบอกให้เราอดข้าวอดอาหารตอนเที่ยง หลังจากนั้นเรียกเราให้อาบน้ำสระผม
เราได้คิวผ่าตอนดึก
พออาบน้ำสระผมเสร็จ สักพัก เจ้าหน้าที่ก็มาบอกให้เราเดินตามลงไปห้องผ่าตัด
ห้องผ่าตัดจะอยู่ชั้นหนึ่ง ทุกอย่างสะอาดดี
มีพยาบาล เจ้าหน้าที่ วิสัญญีแพทย์ อยู่ในห้อง 4-5 คนได้
ทุกคนชวนเราคุย ถามตอบ มีคนนึงออกฮาๆ คุยกับเราแบบตลกๆ

อ้อ...ที่นี่มีแพทย์ดมยาโดยเฉพาะนะคะ เป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยตรง
เรานอนลงที่เตียงผ่า แพทย์ดมยาเดินมาถามข้อมูลเราเล็กๆน้อยๆ
แล้วก็เจาะน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดให้เรา
หลังจากนั้น ก็มีคนเอาเครื่องดมยามาครอบปากเรา ให้เราสูดหายใจลึก..ลึกกกก
สูดไป 3 ครั้ง เฮ้ย... เริ่มมึน เอาแล้ว เอาแล้ว
สูดไป 5-6 ครั้งนี่แหล่ะ... น็อคเอ้าท์ +55555

Mangotree

"คุณครับ เสร็จแล้วครับ หายใจลึกๆนะครับ"

เจ้าหน้าที่มาปลุกเรา สักพักก็เอาอะไรเนี่ยแหล่ะมาดูดที่คอเราแรงๆหลายๆที
เพื่อดูดคราบเลือดครอบน้ำลาย 4-5 ที

โอ้วววว โฮวววว เจ็บมากกกกก บอกไม่ถูก

แล้วก็ย้ายไปห้องพักอีกห้องเพื่อรอสังเกตุการณ์  

เรายังไม่รู้สึกอะไร คงเพราะมึนยาสลบกับยาชา

แต่รู้สึกหนาวมาก และหายใจไม่ออก

เราดิ้นๆๆๆ เจ้าหน้าที่ก็เอาออกซิเจนมาใส่ให้ และเอาอะไรอุ่นๆมารองใต้ขาเรา

เฮ้ออออ... ค่อยยังชั่ว แล้วก็...สลบต่อไป คร่อกกกกก Zzzzzz  

---------------------------------------------------

ตื่นมาอีกที อุ๊ย เราตื่นแล้วรึนี่ กี่ชั่วโมงแล้วนะ

สักพักเหมือนเส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานพร้อมกัน

อึดอัดมาก เจ็บไปหมดเล้ยยยย

เพราะมีผ้าที่รัดหน้าเอาไว้อย่างที่หลายๆคนบอก ต้องรอ 8 ชม. ถึงจะเอาออกได้
เราถามเจ้าหน้าที่ว่ากี่โมงแล้ว
เขาบอกว่า... ตี 4 กว่า ต้องรอ 8 โมงเช้า
เหลืออีก 4 ชั่วโมง เพราะเราออกมาจากห้องผ่าตัดเกือบเที่ยงคืน

โอ้ พระแม่ เราสลบนานขนาดนั้นเลยรึนี่ ต้องรออีก 4 ชม.รึนี่

ทำใจยอมรับ อดทน แล้วก็ หลับต่อ... คร่อกกกก Zzzzzzz

-----------------------------------------------------

หลับๆตื่นไปสักพัก ครบ 8 ชั่วโมง

"คนไข้ครับ ลุกขึ้นหน่อยคับ ได้เวลาเอาผ้าออกแล้วคับ"

เจ้าหน้าที่ดูคล้ายสาวหล่อคนนึง(เห็นพูดครับ) น่ารักมาก พูดจาดีมาก
เดินมาแกะผ้าออกให้เรา อย่างโล่งเลย แต่เราก็ยังคงเจ็บมาก
ที่สำคัญ ตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัดมา แผลในปากเราบวมมาก เลยปิดปากไม่ได้
ปากเจ่อ ดูดน้ำเองแทบไม่ได้

เจ้าหน้าที่ที่ดูคล้ายสาวหล่อคนนี้ ก็เดินมาบอกว่า
"อดทนนะคับ เดี๋ยวจะไปเอาน้ำหวานมาป้อนให้ดื่มนะคับ จะได้สดชื่น"
แล้วก็เอาน้ำแดง ดูดด้วยสลิงค์ มาป้อนใส่ปากให้เราอย่างใจเย็น
น่ารักมากๆ ขอบคุณมากนะคะ

แล้วเขาก็ให้เรานอนต่อ
เพราะต้องรอเอาสายเดรน(สายระบายเลือด) ออก ตอนบ่ายโมง

เอ้า.. นอนก็นอน.. คร่อกกกกก Zzzzzz

Mangotree

หลับๆตื่นๆ จนเจ้าหน้าที่เดินมาเปิดไฟทั้งห้อง
บอกว่า จะเอาสายระบายเลือดออกให้

เจ้าหน้าที่ที่เอาสายระบายเลือดออกให้ก็น่ารักมากค่ะ
ดูแลเราอย่างสุภาพ ไม่รังเกียจเลย

ก่อนเอาสายระบายเลือดออกให้เรา เราปวดฉี่ แต่ลุกไม่ขึ้นจริงๆ
เขาก็เอาที่รองฉี่มาให้ เราก็นอนฉี่อย่างนั้น  
ตอนแรกนึกว่าจะเลอะ แต่ไม่เลอะค่ะ
เราฉี่ออกมาเยอะมากกกก
แต่พอได้ฉี่แล้ว โล่งขึ้นเยอะเลย
สักพักก็พยามลุกขึ้นนั่ง เพื่อให้เขาเอาสายระบายเลือดออก

** สายระบายเลือด จะมีอยู่หลังหูสองข้าง จิ้มเข้าไปที่แผล
เพื่อระบายเลือดออกมาไว้ที่ลูกกลมๆทั้งสองข้าง
ส่วนใหญ่ คนที่ตัดกราม วีไลน์ ดึงหน้าจะต้องเจอค่ะ
ใครเจอ... ห้ามดึงออกนะคะ
ถ้าดึงออกก่อนเวลา แผลอาจอักเสบ ต้องกลับไปผ่าใหม่ค่ะ **

ตอนดึงออก เจ้าหน้าที่บอก หายใจลึกๆนะคะ
ข้างแรก.. โอ้โฮ อย่างเจ็บ T^T ...แต่พอดึงอีกข้าง ไม่ค่อยเจ็บค่ะ

เสร็จแล้วเขาก็ถามเราว่าไหวไหม เดินขึ้นไปพักข้างบน
ตอนแรกเราพยามลุก หน้ามืด วืดเลยค่ะ
แต่เจ้าหน้าที่เขาก็พูดดีกับเรามาก
บอกว่า " ถ้าไม่ไหวไม่เป็นไรนะคะ อย่าฝืน"

เรานั่งสักพัก เขาก็วิ่งไปเอาน้ำหวานมาป้อนเราใหญ่เลย
ไม่เร่ง ไม่หงุดหงิดใส่เรา... น่ารักอ่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^

เรานั่งสูดหายใจลึกๆสักพัก ก็โอเคขึ้น เขาก็พยุงเราเข้าห้องน้ำ
แล้วก็พยุงเราขึ้นห้องพักชั้นบนค่ะ

-------------------------------------------------

ขึ้นมาถึงห้องพักข้างบน เราก็เอนๆพิงๆนั่งพักก่อน
ดื่มน้ำ สักพัก คุณสามีมาค่ะ เหวอเลย +55
เดินมาจับมือเรา ปลอบเราว่า.. ไม่บวมเท่าไหร่หรอก เดี๋ยวก็หายนะ

แต่เรารู้ว่าไม่จริงหรอก เพราะหน้าเรามันบวมมากกกก จนรู้สึกว่าจะปริแตก
และเราเห็นว่าเขาน้ำตาคลอ... เพราะตอนนั้นสภาพหน้าเราอัปลักษณ์จริงๆ TT
ผมเราก็มีน้ำยาอะไรเหนียวๆเต็มไปหมด
ลองนึกถึงภาพ นังลำยอง ตอนเป็นบ้าสิคะ นั่นแหล่ะ ผมเราเป็นแบบนั้นเลย
แต่เขาคงกลัวเราคิดมาก เพราะปกติเราจะเสริมสวยตลอดเวลา

เราบอกคุณสามีว่า อยากสระผม น้ำยาอะไรไม่รู้เหนียวเต็มหัว กลัวผมร่วง
(ที่หลายคนบอกว่าผมร่วง อาจเพราะน้ำยาอันนี้รึเปล่า ไม่แน่ใจนะคะ)
คุณสามีก็สระผมให้เรา เป่าผมให้เรา ดูแลเราดีมากเลย
เขาบอกก่อนมาถึงคลีนิค เขาซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน
ถูพื้นด้วยเดทตอลให้ด้วย พร้อมลางานอีก 3 วันเต็มๆเพื่อมาดูแลเรา
เราจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ต้องทำอะไรหนักๆ

เรารู้สึกรักคุณสามีมากๆเลย อิอิ

Mangotree

จริงหรือเปล่า? ที่หลังผ่าตัด ผมร่วงเยอะ

ตอบ : สำหรับผลที่เกิดขึ้นกับเรานะคะ... จริงค่ะ
แต่เราไม่ร่วงแบบเป็นวงๆ นะคะ เราร่วงเยอะแบบทั่วๆ
(สามีบอกตอนสระผมให้ร่วงเป็นกำเลย)
วันที่กลับมาบ้าน เราสระเอง เราก็เห็นว่าร่วงเยอะจริงค่ะ
แต่ก่อนไม่เคยร่วงเยอะขนาดนี้
คิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่รีบสระผมตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นมาจากห้องพักฟื้นด้านล่าง
เพราะตั้งแต่กลับบ้านมา เราพยามสระผมทุกวัน
ประมาณอาทิตย์นึง ผมก็ร่วงน้อยลงค่ะ

แต่สระแล้วต้องรีบเป่าทุกครั้งนะคะ เดี๋ยวเป็นหวัดค่ะ

-------------------------------------------------------------

เราสระผม และแปรงฟัน ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นมาจากห้องพักฟื้นเลยค่ะ

ขอบอกว่า แปรงฟันได้นะคะ ทรมานตอนอ้าปากหน่อย แต่มันจะดีขึ้นค่ะ
เท่ากับได้ฝึกอ้าปากไปด้วย (ควรฝึกอ้าปากตั้งแต่ 3 วันแรก ให้ได้ 3 ซม.)

ที่สำคัญ การแปรงฟันจะช่วยให้คราบเลือด คราบน้ำลาย ที่ค้างอยู่ออกมาได้ค่ะ
ปากจะสะอาด แผลสะอาด หายเร็วขึ้น
แต่ก็ต้องระวังอย่าไปโดนปมที่คุณหมอเย็บไว้ แปรงๆเบานะจ๊ะ

-------------------------------------------------------------

ตกกลางคืน เรานอนไม่หลับ แสบหน้าไปหมด เลยเดินไปเอาถุงเย็นในตู้เย็นมาประคบตลอด
ที่นี่มีถุงเย็นและตู้เย็นให้แช่นะคะ เดินไปเปลี่ยนมาประคบได้ตลอดค่ะ

เราเดินไปเดินมา หายมึนดีขึ้น ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่เช้าวันต่อมาว่าจะกลับบ้าน

เช้าวันที่กลับ พยาบาลจัดยาให้เราชุดนึง พร้อมน้ำยาบ้วนปาก ผ้าปิดปาก
และนัดเรามาอีก 3 วัน เพื่อมาอ้าปากให้คุณหมอดู
หลังผ่า คุณหมอจะนัดเรา 3 วัน , 7 วัน , และ 1 เดือน

หลังจากนั้นเราก็กลับมาพักที่บ้าน

ปัจจุบัน เราผ่ามาประมาณ 3 สัปดาห์กว่าแล้วค่ะ

Mangotree

อันนี้ภาพเช้าวันที่ 2 หลังผ่า บวมเว่อร์  
(วันแรกเราเจ็บมากกกก ไม่อยากทำอะไรเลย เลยไม่ได้ถ่ายจ้ะ)

Mangotree

เช้าวันที่ 2 บวมเว่อร์ ปากเบิน แผลตรึม หุบไม่ได้ TT

รีบทาลิปมันทันที

Mangotree

4 วันหลังผ่า บวมอืด หน้าแปล๊บๆ แสบร้อนวูบวาบ คูลแพ็คช่วยคุณได้
ปากที่เป็นแผล เริ่มดีขึ้น ลอกออกมา เพราะทาลิปมันบ่อยๆค่ะ

Mangotree

4 วันหลังผ่า คอบวม เขียวเล็กน้อย ปากเริ่มหุบได้หน่อย

Mangotree

แผลหลังหู จากสายเดรน (สายระบายเลือด)
เราแป่ะไว้ตลอด 7 วันถึงแกะออก

Mangotree

ลืมไป ใครที่สนใจจะทำ แนะนำว่าก่อนผ่า พกคอตต็อลบัทไว้ปั่นหูด้วยนะคะ
เพราะหลังผ่าจะเจ็บมากกกก เราจะไม่อยากไปยุ่งอะไรที่หูเลยค่ะ
มันเจ็บจริงๆ ปวดหนึบๆ
เราแคะหูไม่ได้เลย แต่คันหูยิบๆๆๆ   

Mangotree

7 วันหลังผ่า (1 สัปดาห์)
ปากหุบลงหากันได้แล้ว อาการแสบร้อนเริ่มดีขึ้น ลดน้อยลงค่ะ
แผลที่ปากลอกออกหมดแล้ว แต่ยังชาๆ ตึงๆ ตามหน้า แก้ม คาง หู ขมับ
ต้องนอนหงาย นอนหมอนสูงตลอดเลย

Mangotree

14 วัน (สองสัปดาห์) หลังผ่า
อาการดีขึ้นเยอะค่ะ
เหลือปวดตุบๆที่ขมับ ตึงแผลในปาก ตึงๆแก้มกับคาง
อาการแสบร้อนที่หน้าหายไปแล้วค่ะ

Mangotree

14 วันหลังผ่า
คอยังบวม กินไรยังลำบาก
แต่กรามที่เคยเห็น เคยจับ... หายไปเลยค่ะ
ใครที่จะทำเราแนะนำให้ลางาน หยุด ประมาณ 2 สัปดาห์ เป็นอย่างต่ำนะคะ กำลังดีเลยค่ะ ^^

Mangotree

21 วันหลังผ่า (3 สัปดาห์)
ดีขึ้นเยอะมากค่ะ เริ่มเคี้ยวอะไรได้บ้าง
ไม่ปวดแสบปวดร้อนแล้ว
ตึงๆแถวขมับน้อยลง
เหลือ ตึงแก้ม ตึงคาง.. ส่วนคอ ยังบวมบ้าง แต่น้อยลงค่ะ ^^

Mangotree

21 วันหลังผ่า (3 สัปดาห์)
ดีขึ้นเยอะมากค่ะ เริ่มเคี้ยวอะไรได้บ้าง  
เหลือ ตึงแก้ม ตึงคาง ตึงในปาก.. รอไหมละลายให้หมด.. รอแก้มยุบ..

ส่วนคอ ยังบวมบ้าง แต่น้อยลงค่ะ ^^

Mangotree

ไงถ้ามีอะไรอัพเดท เราจะมาอัพเดทอีกทีละกันนะจ๊ะ

หวังว่ากระทู้นี้ จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้ะ

smilehahaha

รอค่ะ มาอัพต่อไวๆนะคะเป็นกำลังใจให้

aochan

อยากรู้ว่าถ้าคางยื่นหมอจะศัลยกรรมได้ไหมคะ

Mangotree

ต้นฉบับโพสต์โดย aochan เมื่อ 2013-12-30 21:35
อยากรู้ว่าถ้าคางยื่นหมอจะศัลยกรรมได้ไหมคะ
...

ถ้าเป็นคางยื่น เพราะกระดูกคาง คุณหมอน่าจะแก้ไขได้ค่ะ

แต่ถ้าคางยื่น เพราะคอฟัน ไม่แน่ใจว่าจะได้ไหม

เพราะเราเคยอ่านเจอ ถ้าเป็นที่คอฟัน การผ่าตัดจะเป็นอีกแบบเลยค่ะ

ยังไงลองเข้าไปคุยกับคุณหมอโดยตรงที่คลีนิคนะคะ

น่าจะชัวร์สุด คุณหมอตอบคำถามเคลียร์มากค่ะ

Mangotree

ต้นฉบับโพสต์โดย smilehahaha เมื่อ 2013-12-30 20:35
รอค่ะ มาอัพต่อไวๆนะคะเป็นกำลังใจให้ ...

ขอบคุณมากนะคะ ^__^

staffpost

มาเก็บข้อมูลไว้เป็นแนวทางค่ะ มีคิวกับคุณหมอจุฑาวันที่7 ม.ค 57
ขอให้หายไวๆ สวยๆนะคะ ^^

pond

หายไวๆ สวยแน่ครับ

Bangkokboy

ขอบคุณครับ ได้ข่้อมูลเพียบเลย