|
แต่ก็ระวัง "โทษสมบัติ" ไว้หน่อยก็ดีนะครับ
*จากการศึกษาของเภสัชกรรุจน์ สุทธิศรี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาลัยวิทยาลัยพบว่า ฮอร์โมนเพศ ของสมุนไพร กวาวเครือ (Puerariamirifica) หากได้รับเนื่องกัน เป็นเวลานานๆอาจมี ความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้อร้ายบางชนิดได้ (http://www.pharm.chula.ac.th)
*ผลการศึกษาในสัตว์ทดลองที่บ่งว่า ไฟโตเอสโตเจน ที่พบอยู่ใน กวาวเครือ น่าจะเป็นสารมีทั้งฤทธิ์และพิษแรงและยังระบุในตำรายาไทยว่าห้ามใช้ในคนหนุ่มสาว (มติชนสุดสัปดาห์, 8 มิ.ย. 42)
*จากการศึกษาของ Dr. Graham A. Colditz นักวิจัยประจำ Harvard Medical School ใน Boston พบว่าการทดแทนฮอร์โมน ( Hormone replacement therapy-HRT) จะส่งผลให้เกิดมะเร็งเต้านม (Journal of the National Cancer Institute 1998, 90 : 814-823)
*เมื่อทดลองให้ผง กวาวเครือขาว แก่แม่หนูที่ให้นมลูก พบว่ามีผลทำให้น้ำหนักของ ลูกหนูลดลงและตายในที่สุด เมื่อให้กวาวเครือแก่นกกระทาพบว่า นกกระทาจะมีแผลบวมเป็นหนองที่บริเวณหัว ใต้ปีก ฝ่าเท้า และข้อต่อ อันเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและตายในที่สุด (เอมอร โสมนะพันธุ์ และ วีณา จิรัจฉริยากูล, จุลสารข้อมูลสมุนไพร, มหาวิทยาลัยมหิดล)
*รศ. ยุทธนา สมิตะสิริ สถาบันแพทย์แผนไทย ทดลอง กวาวเครือ ในสัตว์ พบว่าสุนัขตัวเมียช่องคลอดใหญ่ขึ้น แต่กลับมีฤทธิ์คุมกำเนิดไม่ติดลูก หากมีท้องอยู่จะแท้งได้ ทดลองในลูกสุกรพบว่าจำนวนเต้านมเพิ่มขึ้นจาก 4 เต้าเป็น 6 เต้า เต้าใหญ่ขึ้น หัวนมยาว ถ้าเลิกใช้กวาวเครือเต้านมที่ใหญ่จะหดแฟบลง (นพ. บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล, มติชนสุดสัปดาห์, 22 มิ.ย. 42 ) |
|