รีวิว ความเสียหายจากความรู้เท่าไม่ถึงการครั้งแรก Botox filler กำจัดขน เกือบแสนที่คลีนิคดังอิม__นี่ สามารถคุยกับใครได้ที่รับผิดชอบโดยตรงที่ไม่ใช่ที่พนักงานและหมอที่สาขาค่ะ

tayaton5

เนื่องจากไปซื้้อครอสเลเซอร์ขนจึงปรึกษาหมอที่คลีนิคเรื่องยกหางตาตกและเติมคางเพื่อพิจารณาทำในอนาคตเท่านั้น!!! พออกจากห้องหมอพนักงานสามคนประจำสาขามานั่งล้อมพยายามตื้อให้ซื้อด้วยการแถมของให้และใช้เทคนิคการขายต่างเพื่อให้เราซื้อและทำเลยในวันนั้นให้ได้เป็นเวลานานมาก พอปฎิเสธจะเดินออกก็มีการยื้อว่าคางเราแย่ควรทำนานสองนานจนเรายอมทำด้วยความที่พนักงานบอกว่าหมอที่เข้าวันนั้นเก่งและคลีนิคมีชื่อ ด้วยความที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้จึงทำตามคำแนะนำทั้งหมดผลลัพท์ที่ออกมาคือ (ค่าเสียหายทั้งหมด 74,000 บาทและผลออกมาติดลบ)

1)Botox ทั้งหมด 50 IU ทั้งหมดราคา 20,000 บาท ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคือการฉีดหน้าผากทั้งหมด จากที่ต้องการลองยกแค่หนังตาที่หางตาขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น!!!! ไม่มีรอยตีนกาที่หน้าผากใดๆ อายุ27ปี และไม่ทราบว่า50 iu คือปริมาณที่มากเกินไปและไม่ทราบว่าจะทำทั่วหน้าผาก หลังฉีดมีอาการปวดหัวและตาหนักอย่างหนักเกือบสามอาทิตย์ คิ้วโดนกดต่ำลงมาชิดตาไม่สามารถขยับคิ้วขึ้นได้ หนังตาตกย้อยลงมาบังชั้นตามากกว่าเดิม คิ้วโก่งเป็นรูปตัว V คว่ำหน้า ดูตาโกรธเหมือนถมึงตาตลอดเวลา  ซึ่งมาเจอที่หลังว่าจิงๆแล้วยกหางบริเวณหางตาใช้อย่างน้อยแค่  6-12 ีืunits เท่านั้น เสียเงินเป็นหมื่นๆไม่พอเสียบุคลิคภาพและหน้าตา
กลับไปให้หมอดูหมอบอกเราหน้าผากสั้นเลยตั้งใจทำให้เพิ่มเนื้อที่หน้าผาก!!!!ช็อคมากกกว่าการทำให้คิ้วและตาเสียรูปโดยคิ้วตกลงมากดตาให้รู้สึกหนักเป็นเดือนๆคือการรักษาโดยพลการและแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

2) fillerคาง 2ปี ราคา20,000 บาท เป็นคนมีคางแต่กล้ามเนื้อคางแข็งแรง คางจึงดูพับกล้ามเนื้อไม่ปล่อยยาวลงมาแต่หมอฉีดฟิวเลอร์โดยที่ไม่แนะนำก่อนว่าต้องทำbotox คางร่วมด้วย เพราะถ้ารู้ถึงความยุ่งยากจะไม่ทำ ผลคือคางยื่นออกมาจนคนรอบข้างทักแทนที่คางจะดูยาวขึ้นกลับดูทู่และพับมากกว่าเดิม กลับไปหาหมอหมอบอกว่าที่หน้าดูทู่เพราะfatแก้มเยอะ โดนพนักงานมาตื้ออีกให้ซื้อเมโสแฟตไป24,000 สามครั้งต้องยอมจ่ายเพื่อแก้ไข แต่มารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อคางและต้องเสียเงินโบท็อคคางเพิ่มซึ่งช่วยได้เล็กน้อยคางยังมีรอยพับชัดเจน ซึ่งทุกวันนี้ยังคาใจว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อคางหรือหมอฉีดและวินิจฉัยไม่ดีคางจึงยื่นไปข้างหน้าเยอะ อาจจะต้องฉีดยาสลายซึ่งไม่ไว้ใจหมอคนเดิมแล้วค่ะ ต้องไปเสียตังค์เพิ่มที่อื่นอีก เป็นค่าใช้จ่ายบานปลายโดยใช่เหตุ

3)เลเซอร์บิกินี่ 15,000บาท 8 ครั้ง ครั้งแรกครั้งที่สองใช้เครื่องของทางสาขาที่ไปซื้อครอสด้วยไม่มีปัญหา ครั้งที่สามใช้เครื่องที่สาจา เซ็น_เวิลมีการลงเจลแล้วเลเซอร์ซึ่งตอนทำร้อนและเจ็บมากแต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ในระหว่างทำเครื่องมีการดับสองรอบ พอกลับมาบ้านได้สามสี่วันถัดมา ตุ่มแดงขึ้นและคันทั้งบริเวณบิกืนี่และเริ่มเป็นตุ่มแข็งๆสีน้ำตาลคิดว่ามากกว่า50เม็ด น่าเกลียดมากๆซึ่งพนักงานบอกเป็นเรื่องปกติแต่พนักงานไม่จดค่าพลังงานไว้ หมอแนะนำให้ซื้อยาอีก400บาท แต่เราไม่คิดว่าการที่เป็นหนักขนาดนี้จะเป็นเรื่องปกติ อีกสี่วันจะอาทิตย์นึงที่ทายาถ้าไม่หายคงไม่อยู่เฉยค่ะ

aon_ka

แนะนำให้ไปลงเรื่องที่พันธ์ทิพแล้วก็บอกชื่อคลีนิคเลยค่ะ ถ้าคิดว่าเขาไม่รับผิดชอบจริงๆ
หรือส่งเรื่องไปที่ สคบ เลยค่ะ แต่เราว่าพันธ์ิทิยเร็วกว่า

tayaton5

aon_ka ตอบกลับเมื่อ 2015-7-31 13:08
แนะนำให้ไปลงเรื่องที่พันธ์ทิพแล้วก็บอกชื่อคลีนิคเล ...

ขอบคุณมากค่ะ จะลองดูค่ะ

tayaton5

aon_ka ตอบกลับเมื่อ 2015-7-31 13:08
แนะนำให้ไปลงเรื่องที่พันธ์ทิพแล้วก็บอกชื่อคลีนิคเล ...

ขอบคุณมากค่ะ จะลองดูค่ะ

ptip8

Immaginiรึเปล่าค่ะ เราเคยไปซื้อคอรสกำจัดขน buffet20,000 เพราะเหนราคาดูน่าจะถูกกว่า  เราเลเซอรขนแขนล่าง แต่หลังทำขนจึ้นมาเปนย่อมๆแถมหนาเท่าตรงขนไม่ทำเลยค่ะ แล้วก็มีจุดสะเกดแดงๆ เปนจุดๆเล็กตรงแขน กับขาที่เราเลเซอร์ เราเลยบาย เสียน้อยเสียยาก เราจ่ายlagrace 18,000 แต่ทำได้บริเวนเดียวคือบิกีนี่ แต่ทำแค่สามครั้งจนลดจริงๆ แถนขนขึ้นใหม่จางบางลงมากด้วย ขอให้เจ้าของกระทู้ดีขึ้นไวๆนะคะ ปัญหาจากfiller พวกนี้ถ้าหมอไม่เก่งแก้ยาวเลย

tayaton5

ptip8 ตอบกลับเมื่อ 2015-8-1 07:22
Immaginiรึเปล่าค่ะ เราเคยไปซื้อคอรสกำจัดขน buffet20,000 เพราะ ...

ใช่ค่ะ คลีนิคนัั้นบอกแต่ว่าเป็นเรื่องปกติ หรือเราคิดไปเองหรือเปล่า ก็เลยไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใครที่รับผิดชอบโดยตรงไม่ใช่คนที่สาขาอะค่ะ