|  | 
| ไปทำมาที่เดียวกับจขกทค่ะ  เมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน  ตอนแรกไม่คิดจะทำตา2ชั้น  แต่มีปัญหาเรื่องตาตก เพราะอายุเริ่มมากขึ้น   ตอนแรกติดต่อผ่านทางเลขา  เลขาเป็นคนแจ้งราคาซึ่งยอมรับว่าค่อนข้างสูงกว่าที่อื่น  เมื่อพบคุณหมอ  คุณหมอบอกว่าต้องทำตา 2 ชั้น แต่จะทำแบบตาหงส์ให้ยกตรงปลาย  แล้วก็แนะอีกว่าต้องทำจมูกเพื่อเสริมโหงวเฮ้งให้ดี  ให้ฉีดไฮย่า เพราะไม่เจ็บตัวอยากให้โด่งยังไงก็ได้   วันนั้นได้ปฏิเสธไปเพราะยอมรับว่าไม่ได้มีปัญหาอย่างที่คุณหมอแนะให้   แต่ยังยืนยันอยากให้คุณหมอยกหางตาให้โดยไม่ทำตา 2 ชั้น   พอนัดวันทำอีก 2 อาทิตย์ต่อมา  ได้เจอเลขากับหมอ ทั้งคู่ได้ยืนยันว่าต้องทำตา 2 ชั้น  และเสริมจมูกถึงจะดี  พูดจนเริ่มใจอ่อน  อีกทั้งยังให้ข้อมูลว่าไฮย่าฉีดแล้วดี ไม่เจ็บตัว  อยู่ได้ 10 ปี  ถ้่าไม่ชอบเอาออกได้ ....จึงตัดสินใจทำ.....ผลที่ออกมาคือ  ตาหนามากแล้วก็บวม  จมูกโด่งไม่เป็นสัน บวมช้ำและเบี้ยว  รับไม่ได้กับหน้าตัวเองอย่างมาก  แต่คุณหมอและเลขาบอก เดี่๋ยวก็ยุบรอก่อน  เวลาผ่านไป 1 เดือน  ตายังหนามาก  เห็นชั้นตาชัดเจน  ตาตกเหมือนเดิม   ชั้นตาหนาทำให้ดูมีอายุมากขึ้น  พอไปหาคุณหมอ 2 อาทิตย์ครั้ง  ขอร้องให้คุณหมอแก้เรื่องจมูกบวม  เบี้ยว  โด่งมากเกินไป (ตอนที่ทำขอฉีดแค่ 1.5 ซีซี  แต่พอทำออกมาคุณหมอฉีดให้ 2.5 ซีซี  และก่อนกรีดตา  ไม่มีการนำกระจกมาให้ดูว่าต้องการชั้นหนาแค่ไหน  แต่ลงมือกรีดตาให้ทันที)  คุณหมอบอกว่าไม่ชอบก็ยุบได้  และเอาผ้ามาวางตรงบริเวณดั้ง  และใช้มือกดแรงพอประมาณ  ยอมรับว่าเจ็บพอสมควรค่ะ  แล้วให้กลับบ้าน  โดยบอกว่ายุบแล้ว   พอกลับบ้านปรากฎว่า ไฮย่าไปบวมที่บริเวณหน้าผาก  เป็นเส้นยาว  3-4 เส้น  จึงกลับไปหาคุณหมอและขอร้องให้ช่วยเอาไฮย่าออกให้  เพราะเลขาบอกก่อนทำว่าถ้าไม่ชอบสามารถเอาออกได้  คุณหมอพยายามเลี่ยงที่จะเอาออกให้  และกดบริเวณจมูกและหน้าผากซ้ำให้พร้อมทั้งให้ฮีรูดอยด์มาทา  และบอกว่ายุบแล้ว  พอกลับมาบ้าน จมูกยังบวมและรู้สึกตึงที่บริเวณหน้าผากเหมือนเดิม  อีกไม่กี่วันจึงไปรอพบคุณหมอที่คลินิกอีกและขอความกรุณาคุณหมอให้ช่วยเอาไฮย่าออก  และทำชั้นตาให้เหมือนเดิม  โดยไม่ได้คิดจะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ เลย  เลขาบอกว่าไม่เป็นไรมียาฉีดให้ยุบได้   พอไปคุยกับผู้ช่วยที่คลินิกอีกคนกลับตอบว่าต้องดูดออก   จมูกจะเบี้ยวเลยนะ  ยาฉีดอะไรเค้าไม่รู้เรื่อง  จึงไปถามผู้ช่วยอีกคนว่าไฮย่าอยู่ได้นานแค่ไหน   เค้าตอบว่าต้องทนอีก2-3 ปี  เพราะของเค้าเข้มข้นกว่าที่อื่น  ตัวเองในตอนนั้นรู้สึกงงมากว่าทำไมเลขาพูดอีกอย่าง   คนในคลินิกให้ข้อมูลอีกอย่าง   ตัวเองจึงถามผู้ช่วยว่า แล้วที่เลขาบอกว่าไม่ชอบเอาออกได้  และอยู่ได้ 10 ปี  ไม่ต้องฉีดซ้ำ....  คืออะไร.......ผู้ช่วยเงียบและตอบว่าจริงๆ มันอยู่ได้แค่ 2-3 ปี  ....รู้สึกเหมือนถูกหลอกมากๆ  เสียใจ  ร้องไห้แทบทุกวันค่ะ และคำตอบที่ได้จากคุณหมอก็คือ  ตาสวยแล้ว จมูกสวยแล้ว  รอใจเย็นๆ  เดี๋ยวก็ยุบ  ตอนนี้รอมา 4 เดือนกว่าแล้วค่ะ  ตาบวม หนา  ชั้นลึก และไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเดิม   ต้องกรีดอายไลเนอร์หนาๆ ถ้าไม่แต่งหน้าจะดูน่าเกลียดมากๆ  จมูกยังเบี้ยวและมีรอยนูนตรงหน้าผากเหมือนเดิมค่ะ  ตอนมีปัญหาโทรไปขอปรึกษากับเลขา  แรกๆ เค้าก็คุยดี  บอกให้ไปรอที่คลินิก   แต่ไม่ไปตามนัด  พอหลายครั้งเข้าก็บอกว่าไม่ว่างตอนนี้มีธุระเดี่๋ยวโทรกลับ   ก็ไม่มีการโทรกลับ  จนต้องไปรอคุณหมอที่คลินิคเอง  ภายหลังได้คุยกับคนในคลินิคจึงทราบว่าถ้าติดต่อผ่านทางเลขา  จะมีการบวกราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่าติตต่อทางคลินิคเอง  พอครบ2 เดือนไปรอพบคุณหมออีกและยืนยันอยากให้คุณหมอแก้ปัญหาที่หน้าให้ รออยู่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ  พอคุณหมอมาเจ้าหน้าที่ไม่เรียกให้พบคุณหมอเหมือนทุกครั้งแต่กลับบอกว่าต้องรอนะ เพราะหมอขึ้นห้องผ่าตัดแล้ว  วันนั้นตัวเองพาลูกสาวไปรอด้วยเนื่องจากไม่สามารถฝากกับใครได้   จึงถามว่าต้องรอนานแค่ไหนเพราะมีลูกสาวมาด้วย 2 คน  เจ้าหน้าที่ตอบว่าให้นอนรอตรงเบาะนี่ก่อนแล้วกัน   ตอนนั้นรู้สึกแย่กับทางคลินิคมากๆ  และคิดว่าเค้าคงไม่รับผิดชอบแก้หน้าให้แน่นอน   รวมค่าใช้จ่ายในการทำตา 55,000  ค่าฉีดไฮย่าอีก 45,0000 เป็นเงินทั้งสิ้น 100,000 บาทและเป็นการทำศัลยกรรมที่เสียเงินเปล่า  โดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องการทำมันเลย!!!!!! | 
 คะแนน
1
ดูบันทึกคะแนน
 |