ดู: 6184|ตอบกลับ: 23
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมคาง] ทำดั้ง ทำตา แล้ว คราวนี้มาทำคางกับซ้อใหญ่นะค่ะ

[คัดลอกลิงก์]
การเสริมคาง

เมื่อไม่นานมานี้คุณคงเคยได้รับทราบข่าวนักร้องลูกทุ่งคนหนึ่งออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการเสริมคางด้วยการฉีดสารซิลิโคนเหลวแล้วเกิดผลข้างเคียง คือคางย้อยหอย จึงไปทำการผ่าตัดเอาสารดังกล่าวออก ผลที่ตามมาตอนนี้คือ คางเริ่มมีการเสียรูป และโชคร้ายกว่าคือ มีการสูญเสียกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่เลี้ยงมุมปาก ทำให้เกิดอาการปากเอียงด้วย นับว่าเป็นตัวอย่างอันดีที่ช่วยให้ความรู้แก่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรได้เข้าใจถึงภัยที่เกิดขึ้นจากการฉีดเสริมคางด้วยสารต้องห้าม

แล้ว คาง มีส่วนสำคัญอะไรบนใบหน้า และ การเสริมคาง มีประโยชน์อะไร ทำไมสาวๆ ถึงนิยมเสริมคางกันนัก และวิธีการทำที่ถูกต้องนั้นเขาทำกันอย่างไรจึงไม่มีผลเสีย ลองอ่านเรื่องนี้ต่อไปสิค่ะ

ใบหน้าของคนเราหากจะแบ่งสัดส่วนจากบนลงล่าง เราจะแบ่งได้ 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่


•  หน้าผาก (หรือเหนือเบ้าตา)
•  ส่วนกลางใบหน้า (ซึ่งประกอบด้วย จมูก กระบอกตา กรามบน)
•  และส่วนล่าง (อันประกอบด้วย ริมฝีปาก กราม คาง)


โดยสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปจึงจะรวมกันเป็นรูปร่างของใบหน้าที่ดูสวยงามได้ หากเรามองด้านข้างของใบหน้า เราจะเห็นเส้นโค้งเส้นเว้าไล่จากหน้าผากลงมาตามแนวสันจมูก ริมฝีปาก และลงมาที่คาง หากมีแนวที่เหมาะสมคือ คางและระดับปีกจมูกตรงกันก็จะได้เส้นโค้งที่ดูสวยงาม

คุณจะเห็นได้ว่าคางก็เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของความงามบนใบหน้า คางที่ดูเล็ก คางที่ใหญ่ คางที่ยื่น ล้วนทำให้เส้นโค้งไม่ได้รูปที่เหมาะ ทำให้ใบหน้าไม่สวยงาม ดังนั้นการเสริมคางจึงเป็นการปรับเส้นโค้งให้เหมาะสมลงตัว เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้า

คุณคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยว่า เค้าเสริมคางกันอย่างไรบ้าง งั้นเราไปดูกัน

การเสริมคาง มีจุดม่งหมายเพื่อทำให้คางที่เล็ก หรือคางที่ถดถอยไปด้านหลังมากเกินไป ให้มีส่วนยื่นออกมาด้านหน้ามากขึ้น
แต่ทั้งนี้เมื่อคุณคิดจะเสริมคางคุณต้องได้รับการตรวจดูสภาพของกรามทั้งหมดโดยศัลยแพทย์เสียก่อนว่า คุณมีความผิดปกติที่ส่วนไหนร่วมด้วยหรือไม่ จะได้แก้ไขให้ถูกจุดหรือรักษาร่วมกันไปได้ ความผิดปกติที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่

1. การสบฟัน มีความสำคัญมาก เพราะคางที่เล็กนั้นบางครั้งมีสาเหตุมาจากกระดูกกรามที่เล็กและถอยร่นไปด้านหลังมากผิดปกติ การขบเคี้ยวจึงมักจะมีปัญหาด้วย ดังนั้นการรักษาโดยการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดเลื่อนกรามจึงอาจจะเป็นการรักษาที่ถูกต้องมากกว่าการเสริมคางแต่อย่างเดียว เพราะอาจจะยิ่งทำให้เพิ่มความผิดปกติยิ่งดูไม่สวยมากยิ่งขึ้นได้

2. กระดูกกรามและส่วนอื่นมีความผิดปกติด้วยหรือไม่ เช่น ขนาดของกระดูกกรามด้านหลังมีการยื่นหรือยาวผิดปกติหรือไม่บางครั้งมีปัญหาเรื่องกรามเอียงเกิดขึ้น ก็ควรทำการรักษาก่อนการเสริมคาง มิฉะนั้นอาจจะทำให้อาการกรามเอียงเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นได้

3. ความเล็ก-ใหญ่ของคาง ข้อจำกัดของการเสริมคางนั้นมีเหมือนกันนะค่ะ ไม่ใช่ว่าจะเสริมคางขนาดเท่าใดก็ได้ ทั้งนี้เนื่องจากการเสริมคางขนาดใหญ่เกินไปอาจจะมีปัญหาต่อผิวหนังและกระดูกคางได้ในระยะยาว อีกทั้งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอาจจะมากขึ้นได้ ดังนั้นหากคางเดิมเล็กมาก บางครั้งการผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างของกระดูกคางอาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องกว่าการเสริมคาง ซึ่งทั้งนี้แพทย์ที่ตรวจก็จะเป็นผู้พิจารณาว่าการเสริมคาง หรือตัดเลื่อนกระดูกคางจะเป็นวิธีการผ่าตัดที่ถูกต้องมากกว่า

คะแนน

3

ดูบันทึกคะแนน

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-4-26 18:04:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แล้วแพทย์เอาอะไรมาเสริมคาง เพื่อให้ง่ายแก่การพิจารณาวัสดุที่ใช้ไนการเสริมคางหมอจะแยกออกเป็นการฉีดสารเสริมคาง และการเสริมคางด้วยแท่งซิลิโคน

การฉีดคาง
มีคนมาถามหมอเหมือนกันว่า จะฉีดคางดีไหมและได้ผลดีเพียงใด รวมทั้งตอนนี้ก็มีคนนำสารฉีดเสริมตัวใหม่ ๆ มาเผยแพร่ในท้องตลาดเยอะแยะหลายตัว แต่ความจริงแล้วเรื่องการฉีดด้วยสารต่างๆ นั้นมีมานานหลายสิบปีแล้ว แต่ที่ยังฮิตไม่เลิก และไม่ยอมสูญพันธุ์ไปจากวงการเสียทีคือ การฉีดซิลิโคนเหลวโดยผู้ที่ไม่ใช่หมอ ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป รวมทั้งฉีดแล้วก็ทำความเสียหายกับคนที่ถูกฉีด ก็ยังมีคนหลงเชื่อฉีดได้ฉีดดีกันอยู่ทุกวันนี้

อย่างนักร้องลูกทุ่งที่เกริ่นไว้ตอนต้นก็เช่นเดียวกัน สารชนิดนี้ก็ขอบอกขอเตือนไว้ที่นี้อีกทีเลยนะค่ะว่า อย่าเข้าใกล้และทดลองเป็นอันขาด เพราะมีผู้เสียหายมามากแล้ว เพราะสารซิลิโคนเหลวนั้นเมื่อฉีดเขาไปแล้วมันมีโอกาสย้อยและไหลไปในส่วนต่าง ๆ ภายใต้ผิวหนังได้ โดยไม่ถูกย่อยสลาย และในระยะยาว ๆ ก็จะเกิดการอักเสบได้ ซึ่งในบางคนอาจเกิดผิวแดง ผิวแข็งๆ หรือบางครั้งก็แตกทะลักออกนอกผิวหนังได้เหมือนกัน ทั้งเจ็บ ทั้งปวด ทรมานสุด ๆ การแก้ไขก็อย่างที่เห็นแหละค่ะ ต้องตัดเอาเนื้อ กล้ามเนื้อและเอาสารซิลิโคนเหลวออก เรียกว่าขูดกันให้ราบเรียบเลยผลที่ตามมาคือ คางเหี่ยว ปากเบี้ยว ปากเอียง ตามมา หมดสวยไปตลอดชีวิตเลย

นอกจากนี้สารชนิดอื่น ๆ ที่มีคนเอามาฉีดเสริมคางนั้น ตอนนี้ก็มีพวกสารสังเคราะห์ต่าง ๆ เช่น สารคอลลาเจน เน้นว่าต้องเป็นคอลลาเจน หรือสารที่หมอจริงๆ เป็นคนฉีดนะค่ะ สารพวกนี้ทางการแพทย์ยอมรับให้ใช้ได้ แต่ต้องภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

และยังมีสารที่ค้นพบใหม่ พวกที่เรียกว่า ไฮยาลูโรนิกแอซิต ไบโอพลาสติก ฯลฯ แต่ทางการแพทย์เองก็ยังโต้เถียงกันอยู่ว่าสารเหล่านี้ปลอดภัยจริงหรือไม่ ที่สำคัญคือเมื่อฉีดเข้าไปแล้วหากไม่ต้องการแล้วจะเอาสารออกได้อย่างไร ในกรณีที่มันสามารถย่อยสลายไปได้เองก็ไม่เป็นไร รออีกหน่อยร่างกายก็ย่อยสลายมันเองได้ เช่น 2-3 ปี ก็หายไปได้ คางเก่ากลับคืนมาเหมือนเดิม ก็ต้องใจเย็นหน่อยเพราะไม่เสียหายอะไรมาก แต่ถ้าเป็นสารที่คงอยู่ตลอดชีวิตนั้น ใครจะใช้ก็คิดหน้าคิดหลังให้ดีหน่อยนะค่ะว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ลำบาก โดยเฉพาะพวกสารไบโอพลาสติก เป็นต้น

การเสริมคางด้วยแท่งซิลิโคน
เป็นวิธีที่จัดได้ว่าเป็นวิธีมาตรฐานอย่างหนึ่งของวงการเสริมความงามค่ะ หลักการก็ไม่มีอะไรซับซ้อน นอกจากการเอาแท่งซิลิโคนที่มีขนาดที่เหมาะสมเข้าไปวางในตำแหน่งที่เป็นคาง ซึ่งก็คือขอบล่างของกระดูกกรามด้านหน้านั่นเองไม่ใช่ใต้กระดูกคางนะค่ะ
มีบางคนเข้าใจผิดว่าทำการเสริมคางแล้วทำไมคางไม่ยาวลง แต่งอนมาด้านหน้า ต้องมานั่งทะเลาะกับหมอทีหลังเพราะคิดกันคนละจุด เจ้าแท่งซิลิโคนที่จะใช้เสริมนั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่เขาใช้ในการเสริมจมูก มีทั้งที่ขึ้นรูปมาเรียบร้อยแล้วจากโรงงาน และนำมาแต่งนิดหน่อยก่อนเสริมเข้าไป และชนิดที่แพทย์ต้องเหลารูปขึ้นมาเองให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน แล้วแต่ความถนัดของแพทย์แต่ละคนว่าจะใช้ชนิดไหนค่ะ
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-4-26 18:05:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
มาถึงขั้นตอนวิธีการผ่าตัดเสริมคางด้วยแท่งซิลิโคน
•  หลังจากที่แพทย์ได้ตรวจและอธิบายรายละเอียดรวมถึงสอบถามความต้องการและตกลงกับคุณเป็นที่เรียบร้อย
•  จากนั้นก็ทำให้คุณหลับด้วยยานอนหลับคุณจะได้ไม่ต้องกังวล แล้วฉีดยาชา เวลาผ่าตัดคุณจะไม่รู้สึกเจ็บ
•  จากนั้นแพทย์จะเปิดแผล ซึ่งทำได้ 2 ทาง ทางแรกคือ

จากภายนอกปาก ซึ่งก็มักจะเป็นบริเวณใต้คาง แต่ความนิยมจะน้อยกว่าเพราะบางคนจะสังเกตเห็นแผลเป็นที่ใต้คางได้
อีกทางคือภายในปาก โดยเปิดแผลที่ด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลก็จะประมาณ 2 ซม. หลังจากนั้นก็แยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่างขึ้นมา แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเขาไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นจึงเย็บแผลปิดด้วยไหมละลาย ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง เป็นอันเสร็จพิธี และกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องนอนค้างในโรงพยาบาล

•  เมื่อผ่าตัดแล้วเสร็จ ก็เป็นขั้นตอนของการดูแลหลังการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดเสริมคางแล้วย่อมมีอาการบวมได้บ้าง หากต้องการให้อาการบวมลดลงก็คงต้องช่วยเหลือโดยการประคบเย็น หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณคางโดยเฉพาะในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์แรก

การดูแลแผลผ่าตัดในปากก็เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะในปากจะมีน้ำลาย รวมทั้งอาหารมาปนเปื้อนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากดูแลบ้วนปากและระมัดระวังทานอาหารอย่าให้แข็งมากก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น และไม่เกิดการอักเสบ

หลังจากนั้น เวลาผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน อาการบวมมักจะยุบลงและได้รูปร่างของคางใหม่ โดยแท่งซิลิโคนจะเกาะติดแน่นกับขอบกระดูกและขยับเขยื้อนไม่ได้อีกต่อไป นอกจากจะโดนกระแทกอย่างแรง เช่น เอาคางจิ้มพื้น หรือโดนกำปั้นของไมค์ ไทสัน อันนี้หมอไม่รับรองด้วยนะค่ะ

ก่อนจะจบเรื่องเสริมคางก็ขอแถมด้วยผลข้างเคียงในการผ่าตัดเสริมคางอีกเล็กน้อย เพื่อจะได้ทราบไว้เป็นเบื้องต้น แต่ตามปกติแพทย์เองก็พยายามจะลดและป้องกันให้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้มีดังนี้

1. การอักเสบติดเชื้อ
อย่างที่บอกว่าแผลผ่าตัดในปากมีโอกาสสัมผัสกับอาหาร น้ำ และน้ำลายอยู่บ่อย ในระยะแรกที่แผลยังใหม่อยู่อาจจะมีการติดเชื้ออักเสบได้ ถึงแม้จะไม่มากนัก เพราะแพทย์จะให้ยาแก้อักเสบ รวมทั้งกำชับเรื่องการดูแลแผลเป็นอย่างดีแล้ว แต่หากเกิดขึ้นในระยะแรก ๆ ที่ยังอักเสบไม่รุนแรง แพทย์อาจจะใช้ยาที่แรงขึ้นช่วยจัดการปัญหานี้ได้ แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ แล้ว การแก้ไขก็มัก จะลงเอยด้วยการเปิดแผล แล้ว เอา แท่งคางที่เสริมไว้ออกเสียก่อนแล้วค่อยมาตั้งต้นกันใหม่ในภายหลัง

2. การเอียงบิดของแท่งคาง
ก็เหมือนกับการเสริมจมูกนั่นแหลจมูกเอียงได้ คางก็เอียงได้เหมือนกันค่ะ เพราะตอนแรกคางจะวางตัวอยู่เฉยๆ ไม่ได้มีตัวอะไรไปยึดมันให้ติดกระดูกอย่างแน่นหนา ร่างกายจะยึดแท่งคางนี้ด้วยตัวมันเอง ในเวลาประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ดังนั้นก่อนหน้าที่จะติดแน่น หากมีอะไรไปกระทบกระเทือนมันก็อาจส่งผลให้มีคางเอียงได้เหมือนกัน หากเอียงไม่มากแพทย์ก็ยังสามารถใช้มือดัดให้เข้าที่ได้ แต่ถ้าเอียงมากก็คงต้องผ่าเข้าไปจัดให้ใหม่เหมือนกัน มีคนไข้หมอบางคนหลังจากเสริมคางไปแล้ววันทั้งวันก็เอาแต่ลูบคางด้วยความดีใจ สุดท้ายก็เกิดคางเอียงตามมา ต้องมาดัดมาผ่าแก้กันใหม่หลายรายแล้วค่ะ

3. ปากชา
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณคางด้านข้างซ้ายและขวา จะมีเส้นประสาทที่มาเลี้ยงริมฝีปากล่างอยู่ด้วย ทำให้เรามีความรู้สึกได้แต่หากใช้แท่งซิลิโคนที่กว้างมากเกินไป จนต้องเลาะเข้าไปใกล้เส้นประสาททั้งสองข้างที่อยู่ชิดกระดูกกราม ก็อาจจะทำให้เกิดอาการชาที่ปากตามมาได้ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดเพียงชั่วคราว ซึ่งมักจะฟื้นได้ในเวลาอันสั้น

นั่นเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้ แต่ ไม่ต้องกลัวไปนะค่ะ เพราะหากเกิดจริงก็สามารถแก้ไขได้ด้วยดี
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2009-4-26 18:05:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การจะมีใบหน้าที่สวยงามนั้นนอกจากแต่ละส่วนจะต้องได้รูปร่างที่ดีแล้ว สัดส่วนนั้น ๆ ก็ต้องกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงด้วย เช่น จมูก และคาง ที่มักจะไปด้วยกันจึงจะได้เส้นสายของใบหน้าที่สอดคล้องกัน การผ่าตัดเสริมคางและการเสริมจมูกก็เป็นการผ่าตัดที่นิยมทำกันมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน และยังเป็นการรักษาที่ยังถือว่าเป็นมาตรฐานอยู่ อีกทั้งการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยากมากด้วยนะค่ะ

คะแนน

3

ดูบันทึกคะแนน

ข้อมูลดีมากครับ ยอดเยี่ยมจริงๆ อย่างนี้รับคะแนนจากพี่ไปเลย
ข้อมูลเป็นประโยชน์มากเลยครับ
ramina สมาชิกนี้ถูกลบไปแล้ว
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ
ขอบคุณคับ......ให้ข้อมูลเจ๋งไปเลยคับ
ขอบคุณค่า มีประโยชน์มากๆเลย
ขอบคุณข้อมูลดีๆนะครับซ้อ
ขอบคุนคับ

ไกด์ไลน์ได้ดีมาก
มีประโยชน์มากๆเลยคร้า

เข้ามาในเวปนี้แล้วไม่ผิดหวัง

อยากรู้อะไรถามได้หมด
หวัดดีคร่า ข้อมูลแน่นมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ
เมื่อเร็วๆนี้เราได้อ่าน Pocket book ของนักร้องลูกุทุ่งท่านนี้มาด้วย
มีสถานที่นึง ที่เราเคยคิดจะไปฉีดคางแหละ แถวงามวงศ์วาน
แต่ด้วยบุญเก่าที่ทำมาแต่ชาติปางไหน ดลจิตดลใจให้เพื่อนสาวสุดเลิฟของเรา
ห้ามสุดชีวิตทั้งๆที่เพื่อนสาวคนนี้ไม่เคยปฏิเสธความสวยงามเลย (มันเป็นคนพาไปทำจมูกด้วย)
เหอๆๆ เราก้อเลยเชื่อเพื่อน และพอได้มาอ่าน ก้อต้องโทรกลับไปขอบคุณเพื่อนอีกครั้ง
เฮ้อ.....ซ๊าธุ 555
ฮือ..ฮือ  เสียดายจังที่ไม่รู้จักเรื่องพวกนี้มาก่อน
และไม่มีเพื่อนดีๆ เหมือนคุณJazzey_Spears
ก็เพราะเชื่อเพื่อนเนี่ยแหละ ถึงได้เป็นอย่างนี้
ตอนนี้กลุ้มมาก เพราะคางแหลมเหมือนแม่มดเลย
ที่ไหนแก้ไขออกได้บ้างเนี่ย (ที่ไม่ทำให้ปากเบี้ยว คางเบี้ยวอ่ะค่ะ)
ขอบคุนสำหรับข้อมูลดีๆค้า
ได้ข้อมูลแน่น ๆ แบบนี้ ต้องขอขอบคุณ จขกท. มากค่ะ

ทำให้ตัดสินใจดีขึ้น

เพราะโดยส่วนตัวต้องการทำคางอยู่แล้ว
ขอบคุณมากครับ
ข้อมูลดีมากคับ
เป็นประโยชน์กับผู้ที่จะทำจริงๆ :)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆค่ะ
ขอบคุณครับ



มีความมั่นใจมากพอได้ทราบข้อมูลและจากพี่ๆที่มีประสบการณ์กันมา
ผมมีโครงการจะเสริมคางเหมือนกันครับ หลังจากเสริมจมูกที่ยันฮีมาแล้ว ตอนนี้กำลังศึกษาข้อมูลอยู่ และกำลังหาเวลาว่างไปทำครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้