|
ปรกติ จมูกคนเราจะมีกระดูกทั้งแข็งทั้งอ่อน โปะๆกันอยู่ตั้งประมาณ 5-6 ส่วนนะครับ ส่วนใหญ่ปะอยู่ด้านข้าง มีแค่แนวดิ่งที่เป็นกระดูกแข็งติดอยู่กับกระโหลกยื่นออกมา เวลาเรามองตรงๆ มันเหมือนเป็นแท่งแนวดิ่งท่อนเดียว แต่ถ้าจับเรามัดขาแล้วห้อยหัวบนต้นไม้ เราจะเห็นทันที ว่ากระดูกอ่อนนั้น มันเป็นปีกเป็นรอนหุ้มอยู่ที่จมูกตอนล่างครับ
แต่เวลาหมอบ้านเราเสริมจมูก ก็เอาหล่ะ โด่งๆก็แท่งๆนี่อ่ะ ใส่เลย ที่จริงหมอเค้าก็ทราบกายวิภาคดี คนไทยโครงหน้าแบน ถ้าจมูกตอนกลางมันไม่มีเงาไล่จากกลางจมูกลงมาที่กลางหน้าใต้ตา รับรองได้ว่าโดดหมดละครับ เพราะตรงนั้นมันเป็นแผ่นกระดูกอ่อนที่เจริญออกมารับปิดรูโบ๋ของโพรงกลางกระโหลก
แล้วอีกอย่างคือหน้าฝรั่งเค้าพุ่งหน้าพุ่งหลังคือทั้งหัวทุยและหน้าฝากจมูกพุ่งออกมา แต่คนไทยจะแบนออก หมอคงกลัวไม่พุ่ง ก็เลยตัด silicone เป็นสี่เหลี่ยมคางหมูแล้ววาง ทำให้ฐานแคบ แต่ปูดโด่งออกมาแบบฝรั่งเฉพาะจมูก เปรียบไปคงเหมือนประภาคารที่ปักอยู่บนภูเขาอยู่แล้ว แต่คนไทย ควรจะเหมือนเจดีพระปฐมฯฐานกว้างที่ประดิษฐานอยู่บนที่ราบครับ จะดูธรรมชาติและกลมกล่อม
ที่ท่านเจ้าของกระทู้ถามมา คงอธิบายได้แบบนี้ แต่ถ้าจะยกตัวอย่าง อย่างเช่นจมูกของเคนภูภูมิ นั่นคือเค้าเหลาซิลิโคนแบบมีปีกคลุมข้างจมูกเหมือนตัว A มันเลยแลดูกลม+มนเหมือนเจดีย์ครับ ซึ่งตรงกันข้ามกับที่บอกว่าแปะ silicone ลอยเหมือนสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งไม่เหมาะกับคนผอมหรือหน้ากระดูกเลย เวลาถ่ายรูป จะปรับไฟยากมาก เพราะหน้าตาจะน่ากลัว เงาตกเข้มที่จมูกมากกว่าเบ้าตา
จมูกเป็นแท่งๆนี่ เจ้าของจมูกเอง พอนานไปท่านก็คงพอสังเกตุออก ถ้าเป็นผู้หญิง ก็ต้องแต่งหน้าแรเงาเพิ่มขึ้น เพราะทราบเองว่าเงาจมูกมันชัดกว่าส่วนอื่น ต้องเอา eye liner กรีดให้เด่นพอฟัดพอเหวี่ยงกับเงาจมูก หรือถ้าเป็นผู้ชาย เขาจะรู้สึกว่า ถ้าใส่แว่นตากันแดดใหญ่ๆ ก็พอจะลด+ปิดความโดดของสัดส่วนจมูกได้ ใส่ปุ๊บ จมูกสวยทันที เพราะมันไปปิดตั้งแต่ส่วนข้างจมูกตอนกลางขึ้นไปจนถึงตอนบนพอดี
มิติของจมูกนี่ดูยากเหมือนกันครับ เพราะช่วงต่อกระดูกออ่อนด้านบนเป็นส่วนมนกลม แต่ไปเว้าอยู่ด้านล่าง แสงปรกติในชีวิตประจำวัน ทำให้เรามองว่าจมูกเป็นแท่งเดียวแนวดิ่ง แต่ที่จริง ถ้าแสงพุ่งช้อนจากด้านล่าง จะเห็นทันทีว่าจมูกเรามันเป็นริ้วๆ สานกันออกไปลิ้งค์อยู่ด้านข้างครับ |
|