|
ควรศึกษาและสอบถามคุณหมอคะ ว่ายาที่ใช้มีอย.รึเปล่า จริงๆแนะนำว่าถ้ายาไม่มีอย. อย่าใช้เลยดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ ถ้ายาจริงก็เสมอตัว แต่ถ้ายาไม่จริงขึ้นมา อย่างที่ถูกจับไปล่าสุดเป็นฟิลเลอร์ (Filler) ฉีดไปถ้าจมูกเน่าล่ะ จมูกผิดรูป หน้าเรากลับคืนมาไม่ได้ อย่างยาบางกล่องทำแพกเกจสวยงามเหมือนของจริงมาก แต่สุดท้ายเป็นยาปลอม ผลิตจากจีน ซึ่งไม่ได้คุณภาพเหมือนของที่ถูกต้องนะคะ
ดังนั้นถ้าจะฉีดฟิลเลอร์ หรือจะทานยาอะไร อย่าลืมถามคุณหมอก่อนว่า ยานี้ผ่านการรับรองจากอย.ประเทศไทยหรือไม่ เพราะบางอย่างผ่านการรับรองอย.ของต่างประเทศแล้ว แต่ไม่ผ่านประเทศไทย ถ้าเกิดปัญหาขึ้นไม่มีคนรับผิดชอบ เช่น ถ้าเกิดอาการแพ้ ช็อก หรือเกิดการติดเชื้อ จะไม่มีใครรับผิดชอบได้เลย ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่เราหาโรคเข้ามาหาตัวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เลย
เราจะมีวิธีสังเกตเบื้องต้นว่าเป็นยาจริงหรือปลอมได้อย่างไรนั้น อย่างแรกเลยเราต้องมีความรู้เกี่ยวกับสารที่เราจะใช้อยู่แล้ว เช่น ถ้าเราจะไปฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เราควรรู้ว่าโบท็อกซ์มีหน้าตาเป็นอย่างไร โบท็อกซ์สัญลักษณ์เป็นอย่างไร บริษัท ผู้ผลิตคือบริษัทอะไร เหล่านี้สามารถดูได้จากเว็บไซต์ที่เป็นของผู้ผลิตได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์ ก็ตาม ยาฉีดก็ฉีดเราเองควรหาข้อมูลให้ชัดเจน จะได้เชื่อมั่นสบายใจค่ะ
อย่างที่สอง ควรสอบถามจากสถานบริการว่า ให้บริการยาชนิดใดอยู่ โดยส่วนใหญ่คลินิกที่มาตรฐานเขาจะไม่โกหกเรา มักจะบอกตามตรงว่า โบท็อกซ์ที่ฉีด บางทีเขาจะแจ้งเลยว่า มี 2 ราคา ราคาแรกเป็นโบท็อกซ์ของสหรัฐอมริกา อีกราคาจะเป็นโบท็อกซ์ของเกาหลี เขาจะแจ้งให้คนไข้ทราบเลย เพื่อให้เราตัดสินใจเอง
แต่เพื่อความมั่นใจของเราอีกประการหนึ่ง ก่อนจะฉีดทุกครั้งอย่าลืมขอดูผลิตภัณฑ์ก่อนฉีด เช่น ฟิลเลอร์ ควรจะต้องขอดูก่อนเลยว่า คุณหมอแกะกล่องใหม่ไหม แล้วกล่องใหม่ที่แกะออกมาฉลากตรงกับที่กล่องหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยควรรักษาสิทธิ์นะคะ |
|