|
เพิ่งไปฉีดมา แต่มิใช่ที่จมูกนะ ^^ หาข้อมูลมานานเหมือนกัน สรุปได้ดังนี้ววว:
- 'filler''...เป็นคำสามัญเรียกสารที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย อาจจะหมายถึงสารชนิดไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจน, ไฮยารูลอนิคแอซิด, อื่นๆที่คลินิกอาจจะไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม - -!
- คอลลาเจนมี % ที่ร่างกายจะแพ้ได้มากกว่า และถ้าฉีดไม่ดีก็อาจจะสังเกตเห็นเป็นก้อนได้..ซึ่งก็จะทำอะไรไม่ได้และต้องรอให้สลายไปเอง
- ปัจจุบันนิยมไฮยาฯมากกว่าเพราะเป็นสารที่ร่างกายมีอยู่แล้ว จึงไม่เกิดอาการแพ้ หรือถ้าฉีดแล้วไม่งามก็สามารถใช้สารที่เป็น anti สลายได้ (อันนี้อ่านจากเวบเมืองนอกนะ ไม่ได้ถามคุณหมอที่นี่ว่ามีป่าว...-3-)
- ไฮยารูลอนก็มีหลายยี่ห้อ แต่ในไทยรู้สึกจะผ่าน อย. แค่ยี่ห้อเดียวคือเรสติเรน (Perlane ก็เป็นยี่ห้อเดียวกัน แต่อนุภาคจะเบิ้มกว่า) เอ๊ะ หรือจะมีอีกยี่ห้อ...จำชื่อไม่ได้..ลองหาเพิ่มเอานะคะ Orz
- ข้อดีที่ก็อาจจะมองว่าเป็นข้อด้อยของไฮยารูลอนคือมันจะสลายไปเองภายในเวลาประมาณ 1 ปี +- แล้วแต่จุดที่ฉีดว่ามีการเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน เพราะงั้นก็อาจจะต้องไปเติมในสนนราคาที่โหดร้ายไม่น้อย (10,000~20,000/ 1cc) แต่ก็ดีกว่าในแง่ของความปลอดภัยที่มันไม่ตกค้าง...ลองนึกว่าถ้าเป็นสารถาวรแล้วฉีดออกมาไม่พอใจคงได้แต่ร้องไห้
ไม่ว่าจะเป็น filler ยี่ห้อไหนที่สำคัญไม่แพ้กันคือเทคนิคของแพทย์ที่ฉีดให้ค่ะ! เพราะท่านที่ชำนาญจะกะชนิด, ปริมาณ, และความลึกของจุดที่ฉีดได้แม่นยำสวยงามกว่า ลองสอบถามให้มากเข้าไว้ว่าเคยฉีดที่จุดที่เราต้องการรึเปล่า?
มันอยู่ที่ความชำนาญด้วยว่าแพทย์แต่ละท่านเชี่ยวด้านไหน ปกติเรื่องการฉีด filler จะเป็นสายแพทย์ผิวหนังมากกว่าศัลยกรรมนะ เพราะเค้าเน้นคนละด้านกัน..เคสที่เคยผ่านมาก็ต่างกัน (จากประสบการณ์ส่วนตัวก็ถามเอาจากพยาบาลอะแหละว่าคุณหมอท่านไหนคิวแน่นๆเรื่องฉีด filler หุหุ)
** silicone เหลวไม่มีแพทย์ที่มีจรรณยาบรรณท่านใดรับฉีดแล้วนะคะ..เพราะมันไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติและสุดท้ายจะอยู่ในรูปทรงใดไม่สามารถควบคุมได้! ไอ้นี่แหละที่ต้องขูดออก -o-!! ห้ามไปฉีดเด็ดขาด!! **
:) |
|