เสริมจมูกทรงสวยหวานดูเป็นสาวเกาหลี ด้วยเทคนิคยืดผนังกั้นจมูกกับคุณหมอตี้

Yanin.nin

สวัสดีค่ะ ชื่อยานินต์นะคะ วันนี้เราอยากจะมาเล่าประสบการ์ณการเสริมจมูกครั้งล่าสุดของเราให้ฟัง เพราะเราปลื้มในจมูกใหม่มากกกกก


อันนี้เป็นภาพพัฒนาการของเราเอง ตั้งแต่ซิลิโคนแรก จนถึงซิลิโคนล่าสุด











ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเสริมจมูกมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้คือครั้งที่ 3  พื้นฐานของดั้งเป็นคนอิสาน ดั้งเดิมก็เลยน้อยๆ หน่อย เราอยากให้หน้าดูมีมิติขึ้น เลยตัดสินใจเสริมจมูก ในครั้งแรกและครั้งที่ 2 เราเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอย่างเดียว

นี่เป็นจมูกแรกของเรา จะดูโด่งไม่มาก แต่จมูกดูใหญ่ มีแต่คนทักว่า เหมือนโน้ตอุดม เราก็เสียเซลฟ์นิดๆ เลยตัดสินใจแก้ใหม่




จมูกสองเราขอคุณหมอเลยค่ะว่าเอาแบบโด่งๆ พุ่งๆ ก็ได้สมใจเลยค่ะ คุณหมอจัดให้โด่งแบบสายฝอเลย สวยเฉี่ยว แต่...แอบดูดุ และปลายจมูกเริ่มบาง

อันนี้เป็นภาพจมูกซิลิโคนที่2 ค่ะ




พอปลายเริ่มบาง เราก็เลยต้องเริ่มหาที่แก้จมูกอีกครั้ง รอบนี้เราอยากได้ทรงหวานๆหน่อย ให้หน้าดูไม่ดุ มีปลายพุ่งๆ ดูเป็นสายเกา ก็เริ่มหาข้อมูลเลยค่ะ ตอนแรกใจคิดจะบินไปเกาหลีเลย แต่พอเจอราคา 3 แสนกว่า ก็แบบแพงไปอ่ะ เลยตัดสินใจใหม่ทำที่ไทยดีกว่า เราหาข้อมูลดูรีวิวเยอะมาก ทั้งของ เซนจูรี่, เมโกะ, s45clinic,และคลินิกหลายๆ เอาแบบท๊อปๆ เลย แสนกว่าๆ ก็ยอม เพราะอยากแก้ครั้งสุดท้ายแล้ว

แล้วอยู่ดีๆ ก็เหมือนสวรรค์มาโปรด S45Clinic จัดกิจกรรมให้โหวตจมูก Best case of the year ของทางคลินิก เราก็เลยร่วมเล่นกิจกรรมด้วย และความโชคดีก็คือเราได้เป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมนี้ ได้ทำจมูก เทคนิคแก้ไขโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูกฟรี ตอนรู้ผลคือกรี๊ดมากค่าาา



มาถึงวันเข้าคลินิก เราได้แก้กับคุณหมอตี้ ที่เราสืบราคามาว่า ถ้าทำกับคุณหมอนี่เป็นแสนเลยนะคะ เพราะคุณหมอตี้ เก่งมาก งานยากๆ ที่ที่อื่นทำไม่ได้คุณหมอก็ทำได้หมด


มาถึงช่วงปรึกษากับคุณหมอตี้ คุณหมออธิบายดีมากกก ถามว่าเราอยากได้ทรงประมาณไหน เราก็บอกเลยว่า อยากได้ทรงหวานๆ เหมือนสาวเกาหลี คุณหมอก็ถ่ายรูปเราลงโปรแกรมปรับแต่งรูปหน้า เพื่ออธิบายโครงสร้างจมูกให้เราเข้าใจง่ายขึ้น และเห็นทรงที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนทำ



สรุปก็คือเราต้องทำแบบแก้ไขโครงสร้าง ยืดผนังกั้นจมูก เพื่อให้ได้ทรงสโลปปลายพุ่งแบบที่เราต้องการ หรือที่คลินิกจะเรียกว่า จมูกทรงฮันบก และก็แก้ปัญหาปลายบางของเราด้วย

ตอนแรกที่ติดต่อไว้ต้องรอคิวคุณหมอตี้ประมาณ 3-4 เดือน (คิวคุณหมอยาวมากกกก)
แต่วันที่ไปถึงคุณหมอมีคิวแทรกให้พอดี  ได้เริ่มทำตอน 1 ทุ่ม เพราะต้องงดน้ำ งดอาหาร
เราก็รอค่ะ รอนานมากกก หิวข้าวก็หิว แต่ก็ต้องอดทนและยอมเพราะคิวคุณหมอนานกว่า เหอะๆ


พอเวลา 1 ทุ่ม ก็ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัดค่ะ เราตื่นเต้นนิดนึง แต่พี่พยาบาลช่วยพูดปลอบใจให้ มาถึงตอนทำอยากบอกว่า  ไม่รู้สึกอะไรเลย 5555 นอนนิ่งๆ ให้คุณหมอทำสวยให้ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 5 ชั่วโมง (แอบสงสารคุณหมอยืนนานมากก) เพราะเคสของเราไม่ได้เป็นซิลิโคนเพียวๆ แต่เป็นการนำเนื้อเยื่อตัวเอง ทั้งผนังกั้นจมูก กระดูกอ่อนหลังหู และ เนื้อเยื่อไขมัน มาช่วยเสริมจมูก ให้ได้ทรงที่โด่งพุ่ง แต่มีความละมุนแฝงอยู่ ซึ่งเค้าบอกว่าเคสแบบนี้ยากมาก และไม่เหมือนการโอเพ่นทั่วๆไป


หลังทำทันทีค่ะ อันนี้นินต์ไปขอภาพจากคลินิกมา คือชอบมาก นี่ขนาดทำแบบโอเพ่นแบบจัดเต็มขนาดนี้จมูกยังแทบไม่บวม ไม่ช้ำ เห็นเป็นทรงสวยเลย ชอบมากก







อันนี้เป็นภาพอัพเดทในแต่ละวันค่ะ ความบวมช้ำคือน้อยมากกกก วันถัดมานินต์สามารถไปสอบได้ตามปกติเลยค่ะ




หลังจากถอดเฝือกออก หน้าดูละมุนมว๊ากกกกก จมูกสโลปแบบสายเกาหลี หน้าดูมีมิติสุดๆ หน้าเปลี่ยนจากเดิมเยอะมาก รู้สึกสวยแบบดารา (งานมโนก็มา555)





หลังจากทำมา 2-3 เดือน มีแต่คนทักว่าหน้าเด็กขึ้น หน้าดูหวาน ไม่ดุแบบเดิม บางคนบอกว่าเราหน้าเหมือนเบลล่าา อิอิ เพิ่มความมั่นใจให้เรามากๆเลยค่ะ






สำหรับใครที่มีแพลนอยากทำจมูก และกำลังมองหาคลินิกเสริมจมูกอยู่ เราก็หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆ คนนะคะ

ถ้าว่างๆเราจะมาอัพเดทภาพให้ดูเรื่อยๆ ค่าาาา