ดู: 3375|ตอบกลับ: 14
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

วิธี "เลิกกาแฟ"

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขล่าสุดโดย creamnasai เมื่อ 2010-5-29 13:55

"นพ.สิรวิชญ์ เดชธรรม" แพทย์จากรพ.สมิติเวช ศรีราชา ให้ความรู้ว่า ในทางการแพทย์ได้กำหนดให้มีอาการที่เรียกว่า "ภาวะติดคาเฟอีน" (Caffeine dependence) เช่นเดียวกับสารเสพติดอย่างสุรา ซึ่งภาวะดังกล่าว ถูกกำหนดอยู่ในคู่มือการวินิจฉัยโรคทางจิตเวช ที่เรียกว่า DSM-IV เนื่องจากคาเฟอีน เป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางโดยมีสูตรโครงสร้างคล้ายสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า อะดีโนซีน (Adenosine) ทำให้สมองมีสารโดปามีน (Dopamine) และซีโรโตนิน (Serotonin) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสารทั้งสองตัวนี้มีฤทธิ์ทำให้สมองตื่นตัว และทำงานหนักขึ้น
      
       "ความรู้สึกพึงพอใจจากการดื่มกาแฟ หลังจากดื่มกาแฟแล้ว คาเฟอีนจะเข้าสู่กระแสเลือด และเข้าสู่สมองภายใน 45 นาที และมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 3-5 ชั่วโมง คาเฟอีนจะผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่เรียกว่าการเมตาบอลิสม์ที่ตับ ดังนั้น ผู้ที่ควรจะต้องเลิกดื่มกาแฟ ก็คือ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักเกินไป ขณะที่ เด็ก และสตรีมีครรภ์ก็ควรงดดื่มกาแฟด้วยเช่นกัน เพราะการที่สมองถูกกระตุ้นด้วยคาเฟอีน จะทำให้เด็กมีปัญหาในเรื่องพัฒนาการของสมอง"
      
       นอกจากนี้ คาเฟอีน ยังทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ ขณะเดียวกันยังกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะจึงควรงดการได้รับคาเฟอีน ทั้งจากชา กาแฟ โกโก้ ช็อกโกแลต
      
       สำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ คาเฟอีนจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และหัวใจเต้นเร็วขึ้น นั่นแปลว่าหัวใจทำงานหนักขึ้น ตลอดจนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เร่งการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก และยังมีผลต่อสภาพจิตใจในผู้ที่มีความวิตกกังวลอีกด้วย
      
       *** อยากเลิกกาแฟ ไม่ยากอย่างที่คิด
      
       สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพียงวันละไม่เกิน 1 แก้ว การเลิกกาแฟนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับผู้ที่ติดคาเฟอีน (caffeine dependence) การเลิกกาแฟอาจจะเป็นเรื่องยากสักนิด แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก เกณฑ์ในการวินิจฉัยว่าท่านติดคาเฟอีนหรือไม่นั้น พิจารณาจากหลักเกณฑ์ 3 ใน 4 ข้อต่อไปนี้ คือ
      
       1. มีการใช้คาเฟอีน หรือดื่มกาแฟอยู่ แม้จะมีความรู้ว่า กาแฟมีผลทำให้เกิดอาการทางร่างกายหรือจิตใจที่มีอยู่เรื้อรังหรือกำเริบ
      
       2. มีความต้องการได้รับคาเฟอีน หรือดื่มกาแฟอยู่ตลอด โดยไม่สามารถลดปริมาณลงได้
      
       3. มีภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine withdrawal) หรืออาการลงแดงกาแฟนั่นเอง ซึ่งอาการสำคัญก็คือ วันไหนไม่ได้ดื่มกาแฟ จะเกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนมาก ปวดศีรษะ และอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับคาเฟอีนหรือดื่มกาแฟครั้งสุดท้าย และจะมีอาการมากที่สุด ใน 2-4 วันแรก โดยมากภาวะถอนคาเฟอีน มักจะพบได้ในคนที่ดื่มกาแฟเกิน 2 แก้วต่อวัน หรือได้รับคาเฟอีนอย่างน้อย 100 มิลลิกรัมต่อวัน
      
       4. มีภาวะดื้อคาเฟอีน (caffeine tolerance) กล่าวคือ ปริมาณการดื่มกาแฟในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงจะทำให้รู้สึกสดชื่นเท่าเดิม

------ต่อด้านล่างครับ-------
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-5-29 13:54:45 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
*** สำหรับเทคนิคการเลิกดื่มกาแฟ โดยเฉพาะในคนที่มีอาการติดคาเฟอีน คุณหมอได้แนะนำวิธีการเบื้องต้นดังต่อไปนี้
      
       1. ให้ลดปริมาณการดื่มกาแฟในแต่ละวันลง เช่น จากที่เคยดื่มวันละ 4 แก้วให้ลดลงเหลือ 3 แก้ว แต่หากจำเป็นต้องดื่มแก้วที่ 4 ให้ชงด้วยกาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaffeinated) จนกระทั่งร่างกายเริ่มชินก็ให้ลดปริมาณลงอีก
      
       2. สำรวจว่า นอกจากกาแฟแล้ว ท่านยังได้รับคาเฟอีนจากอาหารชนิดใดอีกบ้าง เช่น ชา โกโก้ ช็อกโกแลต ซีเรียลรสโกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น จากนั้นให้ลดการบริโภคทุกอย่างร่วมกับการลดปริมาณกาแฟที่ดื่มในแต่ละวัน หรือเลิกบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้
      
       3. นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอในตอนกลางคืน อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
      
       4. ดื่มน้ำสะอาดวันละประมาณ 1-2 ลิตร และการรับประทานวิตามินบีรวม ซึ่งจะช่วยทุเลาอาการอ่อนเพลีย
      
       5. การออกกำลังกาย จะช่วยให้สมองเพิ่มซีโรโตนิน (serotonin) และโดปามีน (dopamine) ได้เช่นเดียวกันกับการได้รับคาเฟอีน
      
       6. งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
      
       7. รับประทานอาหารเช้า เพราะระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่เพียงพอจะช่วยให้สมองและร่างกายทำงานได้โดยไม่อ่อนเพลีย
      
       8. หากิจกรรมหรืองานอดิเรกทำ เพื่อหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ และควรหลีกเลี่ยงการไปร้านกาแฟ
      
       9. หากมีอาการปวดศีรษะระหว่างงดกาแฟ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอล หรือแอสไพรินได้ ไม่ควรรับประทานยาแก้ปวดไมเกรนซึ่งมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่
      
       10. หากมีอาการหงุดหงิด ใจสั่น อาจจะใช้วิธีอาบน้ำเย็นช่วย
      
       เทคนิคทั้ง 10 ข้อนี้ นพ.สิรวิชญ์ บอกว่า ประยุกต์จากความรู้ทางวิชาการ และจากประสบการณ์การแนะนำผู้มาตรวจสุขภาพ รวมถึงประสบการณ์ของตัวเองในการลดปริมาณการดื่มกาแฟ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้ผู้อ่านทุกบ้าน ลดปริมาณการดื่มกาแฟได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการเลิกดื่มกาแฟก็คือ ความตั้งใจและความมุ่งมั่น ของท่านผู้อ่านเอง ขอให้โชคดีนะครับ
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ  จิ๊ชอบกินไมโล อิอิ
แบบว่าม่ะกินกาแฟเหมือนกัน กินแต่นม เย้ๆๆๆๆ เราจะโตๆๆๆๆ
ขอบคุณนะคะ จะเอาวิธีพวกนี้ไปให้แม่ลองทำดูนะคะ
แม่เป็นคนที่ติดกาแฟ ไม่ดื่มมาก .แต่ต้องกินทุกวัน
แกบอกว่าถ้าวันไหนไม่ได้กิน แกจะปวดหัว แกเลยเลิกกินกาแฟไม่ได้
จริงหรอค่ะ?

เพราะเมื่อก่อนแกเป็นโรคไมเกรน แต่พอมาอยู่เยอรมัน แล้วเพราะอากาศหนาวๆ ไม่ร้อน
เลยทำให้ไม่ปวดหัว ... แล้วก้ดื่มกาแฟด้วย
ไมเกรนเลยหายไปสักพัก แต่พอแกหยุด แกกลับบอกว่า ปวดหัว..

ไม่อยากให้แม่กินกาแฟเลยคะ มันมีผลตอนแก่
ปกติกินอเมริกาโน่เย็น 3 ช๊อต/แก้ว วันละ3 แก้ว ไม่มีอาการใจสั่นอะไรเลย

เป็นโรคติดกาแฟจริงๆ ไม่กินจะอ่อนเพลียมาก
ตอบกลับ 7# HongdaE


    เต้ติดกาแฟหยอออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
ตอบกลับ  HongdaE


    เต้ติดกาแฟหยออออออออออออออออออออออ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย kurama เมื่อ 2010-7-31 09:04



    ติดกาแฟจ่ะ 55555
ตอบกลับ 9# HongdaE


    เปลี่ยนจากติดกาแฟ มาเป็นติดนม...สดดีก่ามะ อิอิอิ
ผมกินกาแฟไม่้ค่อยได้อ่ะครับ  กินแล้วมันจะจู๊ดๆๆ  ทันที ฮ่าๆ  ก็เลยดีไป  แต่ในบางอารมณ์ก็อยากกินกะเค้ามั่ง แหะๆๆๆ
ติดกาแฟอ่ะ ดื่มวันละ2-3แก้ว
อร่อยชื่นใจ

แต่พอดีตอนท้อง แพ้ขนาดหนัก เหม็นกาแฟ
พอคลอดก็กลับมากินเหมือนเดิม
เสือน้อยชอบกาแฟมากเลยอะครับ เพราะมีช่วงนึงอยากเปิดร้านกาแฟ ก็เลยเปงนักชิมทุกๆที ทั้วกรุงเทพฯ  ก่อนที่จะเปิด ตอนหลังอยากเปิดร้านชามากกว่าอะ  หลังจากดื่มกาแฟบ่อยสังเกตุตัวเองว่าฟันมักจะเหลือง เพราะเปงสารสีอะ จะซึมสู่เนื้อฟันหากไม่ดื่มน้ำเปล่าตาม ตอนแรกอยากจะไปฟอกสีฟันด้วยอะ แต่เพื่อนที่เปงหมอฟันบอกว่าอย่าไปทำอะ เพราะมันจะทำลายเคลือบฟันอีนาเมลอะ เคลือบฟันนี้ไม่สามารถสร้างได้อีกแล้ว สร้างได้แค่ช่วงนึงเท่านั้น ฟันปกติคนเราไม่ขาวจะเป็นทีงาช้างอะ แต่ทำทำไมเราโตถึงเหลืองเพราะโตขึ้นเนื้อฟันจะสร้างมากขึ้นเลยดูเหมือนเหลืองอะ คนละตัวกับอีนาเมลนะ ก็เลยไม่ฟอก  เหมือนเป็นการปลอบตัวเองด้วยจะได้ไม่เสียเงิน หากมีมากคงฟอกละ เอิกๆๆ  นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เลิกดื่มกาแฟ หนมาดื่มน้ำเปล่าแทน เพราะความอยากดูดี แถมไม่เสียเงินด้วย
แล้วมีวิธีเลิกกับแฟนมั้ยครับ....ฮิ้ว




แอบย่องออกไปนอกห้อง...เบาๆ
ที่จริงไม่ต้องเลิกก็ได้นะ ถ้าเปลี่ยนมากินกาแฟโสม เพราะมีคาเฟอีนแค่ 0.1% ซึ่งจะไม่ทำให้ติดคาเฟอีนซึ่งเป็นสารเสพติด และช่วยกำจัดไขมันในเส้นเลือดได้ด้วย แต่ต้องศึกษาข้อมูลดีๆนะครับ ผมไม่ได้มาขายของนะเพียงแต่แนะทางเลือก แล้วให้คุณไปศึกษาหาข้อมูลเองว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะอาจจะมีกาแฟแบบอื่นที่ดีกว่า แต่ผมยังไม่มีข้อมูล
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้